บอลไทยลีก ไม่มีทางเลือกอื่นต้องเริ่มกลับมาลงสนามเดือนก.ย. ตามแผนเดิมที่กำหนดไว้ ด้านทรูวิชั่นส์ยอมจ่ายลิขสิทธิ์เต็มจำนวนแมตช์แต่แค่ถึงเดือนต.ค.เท่านั้น

บอลไทยลีก – เมื่อวันที่ 24 ก.ค. ที่ห้องประชุมสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ นายองอาจ ประภากมล หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านมีเดีย บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น และ นายพีรธน เกษมศรี ณ อยุธยา หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกลยุทธ์คอนเทนต์และสื่อสารสาธารณะชน บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่นเข้าหารือกับ “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ในเรื่องของลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลลีกในประเทศ

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

ภายหลังจากการประชุม นายองอาจ เปิดเผยว่า การพูดคุยในวันนี้ข้อสรุปสิ่งที่ทรูทำได้คือจะถ่ายทอดสดจำนวนคู่ตามที่สมาคมฯ วางโปรแกรมเอาไว้จนถึงวันที่ 25 ตุลาคมตามสัญญา สอดคล้องกับสัญญาเดิมที่เซ็นกับสมาคมฯ เอาไว้ สิ่งที่เกิดขึ้นไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น เรื่องของโควิด-19 นั้นกระทบไปหมด ทางทรูวิชั่นส์เองถูกยกเลิกสัญญาจากโรงแรมต่างๆ ไปมากกว่าครึ่งหนึ่ง รวมกับเมื่อประมูลลิขสิทธิ์ใหม่ทางทรูวิชั่นส์ไม่ได้ จึงได้วางผังใหม่ในไตรมาส 4 ไปแล้ว การจะขยายสัญญาใหม่ออกไปจึงทำได้ยาก นอกจากนี้ทางทรูได้คุยกับสมาคมฯ ว่าอาจจะต้องให้รัฐบาลหรือเอกชนมาช่วยเหลือวางการฟุตบอลเพื่อให้ผ่านไปได้ และเป็นทางเลือกหนึ่งที่สมาคมฯ เองมองเอาไว้เช่นกัน

นายองอาจ กล่าวว่า “เราไม่ได้กำหนดจำนวนนัดว่าจะต้องเตะเท่าไหร่ อยู่ที่สมาคมฯ จะกำหนดมาว่าจะเตะกี่นัด เราจะจ่ายตามจำนวนดังกล่าว ส่วนเรื่องจำนวนเงินได้เสนอไปแล้วว่าคู่ละเท่าไหร่ อยู่ที่สมาคมฯ ตอบกลับมาว่าตกลงตามที่เสนอหรือไม่ แล้วให้คูณด้วยจำนวนคู่จนถึงวันที่ 25 ตุลาคมนี้”

“ในเรื่องที่เคยบอกว่าพร้อมต่อสัญญาไปจนถึงสิ้นปี ต้องยอมรับว่าทรูนั้นไปต่อไม่ได้จริงๆ ไม่สามารถแบกรับต้นทุนตรงนั้นไหว แต่บรรยากาศการพูดคุยเป็นไปได้ด้วยดี และเข้าใจสถานการณ์ของทรู ถ้ามีในรูปแบบอื่นที่ร่วมมือกันได้ มีโอกาสที่จะได้ร่วมมือกัน อาจจะให้ถ่ายทอดสดบนแพลตฟอร์มของทรูได้ แต่จะให้จ่ายค่าสัญญาเพิ่มหลังจากสิ้นสุดสัญญา 25 ตุลาคมนั้นทำไม่ได้จริงๆ และสมาคมฯ สามารถหาผู้ถ่ายทอดสดเจ้าใหม่ได้ทันทีเลยเช่นกัน”

“ทรูวิชั่นส์ได้ให้การสนับสนุนการแข่งขันกีฬาที่จัดขึ้นโดยคนไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการแข่งขันฟุตบอลไทย อีกทั้งยังเป็นพันธมิตรที่ดีกับสมาคมฟุตบอลฯ มาอย่างยาวนานมากกว่า 20 ปี สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบกับทุกภาคส่วน รวมทั้งสมาคมฟุตบอลไทย ทีมฟุตบอลลีกในประเทศไทย สมาชิกทรูวิชั่นส์ แฟนบอลชาวไทย ตลอดจนทรูวิชั่นส์เองได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน ทั้งจากรายได้ที่ลดลงจากสมาชิกทั่วไปและสมาชิกลูกค้าธุรกิจโรงแรมที่เป็นรายได้หลักของทรูวิชั่นส์ ที่ต่างได้รับผลกระทบอย่างหนักต้องปิดกิจการหรือปิดบริการชั่วคราว รวมทั้งรายได้ค่าโฆษณาที่ลดลง

อีกทั้งภาระค่าใช้จ่ายต้นทุนด้านคอนเทนต์ที่เพิ่มขึ้นจากการหาคอนเทนต์ใหม่มาลงชดเชยรายการถ่ายทอดสดต่างๆ ที่ต้องเลื่อนการแข่งขันออกไป อย่างไรก็ดี ทรูวิชั่นส์ยินดีถ่ายทอดสดการแข่งขันทุกแมตซ์ที่เกิดขึ้นตามกำหนดระยะเวลาที่มีการตกลงกันไว้คือ 25 ต.ค.2563 และยินดีจ่ายค่าลิขสิทธิ์ต่อแมตซ์ในอัตราเดิม แม้จะมีภาระเพิ่มเติมขึ้นอีกจากการปรับผังรายการใหม่ การเพิ่มความถี่ในการถ่ายทอดสด รวมทั้ง ผลกระทบจากการแข่งขันนัดกลางสัปดาห์”

ด้านนายพีรธน กล่าวว่า การร่วมมือของทรูกับฟุตบอลไทยยังมีความยั่งยืนและต่อเนื่อง แค่อาจจะอยู่ในรูปแบบใหม่ ยืนยันว่าเราไม่ได้มีความตั้งใจหรือแนวทางที่จะทิ้งวงการฟุตบอลไทย แค่หาวิธีใหม่ในการเป็นพาร์ตเนอร์กับสมาคมฯและฟุตบอลไทยอย่างต่อเนื่องแทน

ขณะที่ “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า สมาคมฯ และทรูมีความเข้าใจซึ่งกันและกัน การจัดการแข่งขันเป็นหน้าที่สมาคมฯ ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ทุกคนเดือดร้อนกันหมด ถึงเวลาแล้วที่ภาครัฐจะต้องลงมาให้ความช่วยเหลือและให้การสนับสนุนกีฬาฟุตบอลซึ่งเป็นกีฬามหาชนที่คนไทยชื่นชอบ

ผู้สื่อข่าวสอบถามว่ามีโอกาสที่จะจัดการแข่งขันให้จบวันที่ 25 ตุลาคมหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้แน่นอน สมาคมฯ วางโปรแกรมได้จริง แต่ในทางปฏิบัตินั้นไม่สามารถทำได้ หากบางทีมต้องเดินทางไกลมากๆ จะไม่สามารถเตรียมทีมได้เลย เมื่อทรูยืนยันจะถ่ายจนถึง 25 ตุลาคม สมาคมฯ ยึดตามโปรแกรมเดิมคือ 12 กันยายน และจบเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2564 และคงยังไม่เรียกสโมสรสมาชิกมาประชุมกันในตอนนี้

ส่วนการหาผู้สนับสนุนรายใหม่มารับช่วงต่อหลังจากเดือนตุลาคมนั้น ประมุขลูกหนังไทย กล่าวว่า เป็นการบ้านของสมาคมฯ ที่จะต้องเตรียมการต่อไป แต่โอกาสที่จะเป็นผู้สนับสนุนรายใหม่เข้ามารับช่วงต่อมีความเป็นไปได้ เพียงแต่ที่ผ่านมาสมาคมฯ ยังไม่ได้พูดคุยเพราะยังเคารพสัญญากับทรูอยู่ แต่เมื่อตอนนี้ทรูยืนยันยุติสัญญาวันที่ 25 ตุลาคมนี้ จะดำเนินการต่อทันที

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน