สองล้อ เดินหน้าให้นักปั่นทีมชาติไทยเข้าแคมป์เก็บตัวฝึกซ้อมอย่างเต็มรูปแบบ ที่จังหวัดเชียงใหม่ นำโดย “บีซ” จุฑาธิป มณีพันธุ์ นักปั่นชุดโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว พร้อมด้วยนักปั่นชุดซีเกมส์ ทีมอาชีพ และชุดเยาวชนอายุไม่เกิน 23 ปี

“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้เดินหน้าให้นักปั่นทีมชาติไทยเข้าแคมป์เก็บตัวฝึกซ้อมแบบเต็มรูปแบบเรียบร้อยแล้ว โดยนักกีฬาเริ่มเข้ารายงานตัวกับสตาฟฟ์โค้ช ที่จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ประเดิมด้วยน่องเหล็กทีมชาติไทยชุดถนนหญิง ที่เตรียมสู้ศึกโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในปีหน้า นำโดย “หมวดบีซ” ร้อยโทหญิง จุฑาธิป มณีพันธุ์ ต่อเนื่องด้วยชุดเตรียมเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนาม ในช่วงปลายปี 2564 พร้อมทั้งทีมถนนชายทั้งรุ่นใหญ่, ทีมอาชีพ “ไทยแลนด์ คอนติเนนตัล ทีม” และทีมเยาวชนดาวรุ่ง U-23

พลเอกเดชา กล่าวว่า ทีมชาติไทยชุดแรกที่เข้าแคมป์เก็บตัวหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จะเป็นชุดที่นำเอาองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา มาประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการฝึกซ้อมและแข่งขันอย่างเต็มที่ โดยทีมชาติไทยชุดถนนดังกล่าว ได้ทำการทดสอบครั้งแรกเมื่อวันที่ 2-3 สิงหาคม ด้วยการทดสอบ “แลคเตท” เพื่อตรวจหาปริมาณกรดแลคติกในกล้ามเนื้อของนักปั่นทุกคน ภายหลังจากการฝึกซ้อมและหาอัตราการสลายกรดแลคติกในกล้ามเนื้อ ซึ่งจะมี มร.ปีเตอร์ พูลลี่ อดีตนักปั่นอาชีพชาวฝรั่งเศสเข้ามาช่วยตรวจวิเคราะห์ด้วย

นายกสองล้อไทย กล่าวต่อไปว่า วันที่ 4-5 สิงหาคม ทีมชาติไทยเข้ารับการเจาะเลือดตรวจคุณสมบัติทั้งปริมาณฮีโมโกลบิน (Hemoglobin) ความหนาแน่นของเม็ดเลือดแดง รวมถึงค่าสำคัญต่าง ๆ ซึ่งใช้เป็นฐานในการวิเคราะห์สำหรับผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเพื่อแนะแนวทางในการฝึกซ้อมเฉพาะด้านของนักปั่นแต่ละคน จากนั้นผู้ฝึกสอนจะนำไปปรับใช้ในการฝึกซ้อมเพื่อให้นักปั่นแต่ละคนสามารถดึงเอาศักยภาพของตัวเองนำมาใช้ในการแข่งขันได้อย่างเต็มที่ โดยระหว่างที่นักกีฬาทีมชาติทำการตรวจร่างกายนั้นมีนักกีฬาและผู้ฝึกสอนจากโครงการพัฒนากีฬาเพื่อความเป็นเลิศ (Sports Hero) ของการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ร่วมชมด้วย เพื่อเป็นแนวทางในการเก็บตัวฝึกซ้อมต่อไป

“สำหรับการตรวจทั้งสองแบบนั้น สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ได้รับการสนับสนุนจากฝ่ายวิทยาศาสตร์การกีฬา และคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) อย่างเต็มที่ ในการจัดหาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเข้ามาเป็นผู้ดำเนินการและเป็นที่ปรึกษาให้กับผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ซึ่งการตรวจแลคเตทและตรวจเลือดดังกล่าว นักปั่นทีมชาติไทยจะต้องเข้ารับการตรวจเป็นระยะ ๆ เพื่อเปรียบเทียบพัฒนาการในแต่ละช่วง นอกเหนือจากการทดสอบความฟิตทางร่างกายที่ดำเนินการเป็นปกติทุกช่วงเวลาอยู่แล้ว” พลเอกเดชา กล่าว

พลเอกเดชา กล่าวเพิ่มเติมว่า การนำระบบการตรวจแลคเตทและตรวจเลือดมาใช้กับทีมชาติไทยชุดถนน เป็นส่วนหนึ่งในโครงการการประยุกต์องค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา หรือที่เรียกรวม ๆ ว่า สหวิทยาการ มาใช้กับทีมจักรยานไทย เพื่อเสริมกับวิทยาการด้านต่าง ๆ ที่ใช้อยู่กับนักปั่นไทยในปัจจุบัน ซึ่งในโครงการถัดไป ก็จะเป็นการนำเอาระบบการตรวจกล้ามเนื้อนักปั่นไทยในระดับยุวชนและเยาวชน เพื่อชี้ชัดว่านักกีฬาแต่ละคนมีธรรมชาติกล้ามเนื้อแบบใด เหมาะสมกับการเป็นนักกีฬาในแบบสปรินเตอร์ หรือแบบทางไกล รวมไปถึงการนำเอาระบบชีวกลศาสตร์นำมาใช้กับการปรับแต่งตำแหน่งการขี่และการปรับแต่งรถที่ใช้แข่งขัน เพื่อให้ร่างกายและกล้ามเนื้อทำงานได้เต็มความสามารถในการฝึกซ้อมและแข่งขัน

พลเอกเดชา กล่าวเสริมว่า หลังจากการตรวจวัดค่าต่าง ๆ ดังกล่าวแล้ว นักปั่นทีมชาติไทยทั้งหมดก็จะเดินทางไปยังจังหวัดระยอง เพื่อเข้าร่วมกิจกรรม “ปั่นปลอดภัย ไประยองฮิ” #RayingHi #TripNewNormal โครงการปั่นจักรยานในรูปแบบออกทริปท่องเที่ยว เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในจังหวัดระยอง ภายหลังเผชิญวิกฤติการณ์ไวรัสโควิด-19 โดยนักปั่นทีมชาติไทยจะเข้าทำหน้าที่เป็นนักปั่นพี่เลี้ยง “Bike Marshall” ร่วมไปกับขบวนนักปั่นทั่วประเทศ ที่เข้าร่วมกิจกรรม ทั้งในวันศุกร์ที่ 7 และวันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม

นอกจากนี้ “ซูเปอร์หมึก คึกกว่า 5G” เผยอีกว่า สำหรับยอดผู้สมัครลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม “ปั่นปลอดภัย ไประยองฮิ” #RayingHi #TripNewNormal ครบเต็มจำนวนวันละ 1,500 คน ที่เราเปิดรับสมัครเรียบร้อยแล้วทั้ง 2 วัน รวมมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจำนวนทั้งสิ้น 3,000 คน ดังนี้ วันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม ระยะ 15 กม. จำนวน 360 คน และระยะ 30 กม. จำนวน 1,140 คน เปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่เวลา 12.00 น. เริ่มปั่นเวลา 15.00 น. ส่วนวันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม ระยะ 50 กม. จำนวน 800 คน และระยะ 100 กม. จำนวน 700 คน เปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่เวลา 05.00 น. เริ่มปั่นเวลา 08.00 น. และขอให้ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมทุกคนนำบัตรประชาชนติดตัวไปด้วย เพื่อเป็นการยืนยันตัวตนในการรับของที่ระลึก หากใครไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนมาแสดง จะไม่มีมีสิทธิ์เข้าสนาม เนื่องจากคณะกรรมการจัดกิจกรรมต้องยึดมาตรการรักษาระยะห่าง หลีกเลี่ยงการสัมผัส ลดความแออัด จำกัดจำนวนคน ตามที่ ศบค.กำหนดอย่างเคร่งครัด

“ผู้ที่ลงทะเบียนสมัครแล้ว สามารถเข้าไปตรวจสอบรายชื่อได้ในเว็บไซต์ของสมาคมกีฬาจักรยานฯ พร้อมกับจดจำหมายเลขการสมัครของตัวเองเอาไว้ เพื่อมารับของที่ระลึก ได้แก่ ไอดีการ์ด, ใบประกาศนียบัตร, เสื้อสำหรับใส่ปั่น มี 2 สี (วันศุกร์สีฟ้า / วันเสาร์สีเหลือง), กระบอกน้ำปั่นจักรยาน มี 2 สี (วันศุกร์สีฟ้า / วันเสาร์สีเหลือง) นอกจากนั้นผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคนยังมีสิทธิ์ลุ้นของรางวัลต่าง ๆ มากกว่า 100 รางวัล” พลเอกเดชา กล่าวในตอนท้าย

ทั้งนี้ สามารถเข้าไปตรวจสอบรายชื่อได้ที่เว็บไซต์ของสมาคมฯ www.thaicycling.or.th และที่เฟซบุ๊ก Thaicycling Association นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้น หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ โทร.0-2719-3340-2.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน