บิ๊กอ๊อด พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ออกโรงแจกแจงถึงความจำเป็นต้องกู้ยิมเงินเพื่อใช้บริหารงานให้ฟุตบอลไทยเดินหน้าต่อไปได้

บิ๊กอ๊อด พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ออกแถลงการณ์ถึงเหตุผลของความจำเป็นต้องกู้ยืมเงินจากทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้วงการฟุตบอลไทยเดินหน้าต่อไปได้ เพราะกีฬาฟุตบอลถือเป็นกีฬาอันดับหนึ่งของประเทศไทย ชี้ที่ผ่านมาเคยกู้มาแล้ว 7 ครั้ง ยอดรวมมากกว่า 100 ล้านบาท หลังจากก่อนหน้านี้มีกระแสโจมตีถึงความสามารถในการบริหารงานที่ล้มเหลวจนต้องถึงขนาดกู้ยืมเงินจากคนอื่น ส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของสมาคม

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

แถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า การหาแหล่งเงินกู้จากภาครัฐและเอกชน เพื่อนำมาเสริมสภาพคล่องในการบริหารจัดการฟุตบอลไทยทั้งระบบ หลังจากได้รับผลกระทบในช่วงโควิด-19 ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ในฐานะนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้พยายามอย่างยิ่ง ที่จะทำให้เกิดสภาพคล่องในการบริหารจัดการและพัฒนาฟุตบอลไทย เพื่อให้มีการดำเนินงานตามแผนทั้งระยะสั้นและระยะยาว การพัฒนาฟุตบอลในทุกมิติสามารถเดินหน้าต่อไปได้

แต่ในบางครั้ง เงินสนับสนุนจากภาครัฐ และผู้สนับสนุน ต้องใช้ระยะเวลาในการเบิกมาใช้จ่าย ตามรายไตรมาส หรือระเบียบของแต่ละองค์กร ในขณะที่การพัฒนาฟุตบอล หรือการจัดการแข่งขัน ต้องดำเนินการในทันที ตามโปรแกรมที่กำหนดไว้ และมีค่าใช้จ่ายที่ต้องดำเนินการทันที ทำให้ในบางครั้งสมาคมฯ เกิดการขาดสภาพคล่อง จึงมีความจำเป็นที่จะต้องกู้ยืมเงินจากภายนอกเพื่อแก้ปัญหา โดยแหล่งเงินกู้จะมาจากบุคคลในครอบครัว และบริษัทห้างร้าน รวม 7 ครั้ง ยอดรวมทั้งสิ้น 109,900,000 บาท เป็นการกู้แบบปลอดดอกเบี้ย ซึ่งทางสมาคมฯ ก็ได้มีการชำระหนี้อย่างตรงต่อเวลาเสมอมา

จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (โควิด-19) ส่งผลต่อการดำเนินงานของหลายอุตสาหกรรมทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงผู้สนับสนุนหลัก ทำให้ขาดแคลนเงินสนับสนุนสโมสรสมาชิก และจัดการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพ ด้วยเหตุนี้ สมาคมฯ จึงมีแผนสรรหาแหล่งเงินทุนเพิ่มเติมทั้งในและต่างประเทศ เพื่อกู้เงินระยะสั้น 6 เดือน – 1 ปี แบบปลอดดอกเบี้ย เพื่อนำเงินสร้างสภาพคล่องให้วงการกีฬาฟุตบอล ทั้งในระดับสโมสรอาชีพและทีมชาติไทย เนื่องจากกีฬาฟุตบอล เป็นกีฬาที่เกี่ยวข้องกับคนจำนวนมาก ในประเทศไทยมีสโมสรอาชีพกระจายอยู่ใน 59 จังหวัดทั่วประเทศ ดังนั้น หากกิจกรรมการแข่งขันฟุตบอลอาชีพ ไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ จะทำให้บุคลากรหลายหมื่นคนต้องตกงาน และขาดรายได้ ซึ่งส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวม

ทั้งนี้ คณะผู้บริหารสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้ตระหนักถึงความเป็นองค์กร ที่อยู่บนความภาคภูมิใจของคนไทย ในฐานะที่เป็นกีฬายอดนิยมของประเทศ อย่างไรก็ตาม ด้วยสถานการณ์อันยากลำบากเช่นนี้ คณะผู้บริหารสมาคมพร้อมที่จะทุ่มเทเพื่อนำพาวงการฟุตบอลไทยเดินหน้าต่อไปโดยไม่หยุดชะงัก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน