ไมโล ฟุตซอล 2020 พลิกโฉมเปิดฤดูกาล หนุนเด็กไทยอัพ 5 สกิลเจ๋ง
ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มไมโล ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการส่งเสริมเด็กไทยเติบโต สู่ความสำเร็จด้วยกีฬาเพราะกีฬาคือครูชีวิต จับมือกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกระทรวงศึกษาธิการ (สพฐ.) และ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เดินหน้าเปิดทัวร์นาเมนต์ “ไมโล ฟุตซอล 2020 พลังทักษะ สร้างทีมแกร่ง” ปีที่ 11 พลิกโฉมการแข่งขันฤดูกาลใหม่ ครั้งแรกในประเทศไทย เปิดสนามให้เด็กไทยอายุ 7-12 ปีทั่วประเทศแข่งขันทักษะฟุตซอลกับ 5 ทักษะพื้นฐานสานพลังทีมแกร่ง เลี้ยง ส่ง เดาะ โหม่ง ยิง ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และทุนการศึกษารวมกว่า 660,000 บาท
นายไชยงค์ สกุลบริรักษ์ ผู้อำนวยการบริหารธุรกิจผลิตภัณฑ์นมและโภชนาการ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด กล่าวว่า แม้ว่าสถานการณ์ในปีนี้จะไม่เอื้อต่อการจัดการแข่งขันฟุตซอลในรูปแบบปกติ แต่ด้วยเจตนารมณ์อันแรงกล้าของไมโลที่เชื่อว่าเด็ก ๆ สามารถเรียนรู้และเติบโตสู่ความสำเร็จด้วยคุณค่าจากกีฬา เพราะกีฬาคือครูชีวิต เราจึงเดินหน้าจัดการแข่งขันไมโล ฟุตซอล 2020 ในรูปแบบการแข่งขันทักษะฟุตซอล เพื่อส่งเสริมให้เด็กได้แสดงพลังและศักยภาพของตัวเองอย่างเต็มที่ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไรก็ตาม โดยได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรองค์กรภาครัฐอย่าง สพฐ. และ กกท. อย่างต่อเนื่องและร่วมหาแนวทางการจัดการแข่งขันที่เหมาะสม เพื่อให้สามารถจัดทัวร์นาเมนต์ที่เด็ก ๆ รอคอย
“ความพิเศษของการแข่งขัน “ไมโล ฟุตซอล 2020 พลังทักษะ สร้างทีมแกร่ง” ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 11 คือ ความท้าทายใหม่ในการเปลี่ยนแนวทางการแข่งขันฟุตซอลแบบเดิมมาเป็นโมเดลใหม่ที่เน้นการแข่งขันทักษะ ฟุตซอลพื้นฐาน เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์การรักษาระยะห่างทางสังคม ประกอบด้วย 5 ทักษะฟุตซอลคือ การเลี้ยง การส่ง การเดาะ การโหม่ง และ การยิง ซึ่งเป็นทักษะพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาศักยภาพนักกีฬา ฟุตซอลทุกคนทุกระดับ ตั้งแต่นักเตะรุ่นประถมศึกษาไปถึงซูเปอร์สตาร์ระดับโลก”
ด้านมาตรการความปลอดภัย เป็นสิ่งที่คณะผู้จัดงานให้ความสำคัญสูงสุด เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของภาครัฐ อาทิ การลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ไทยชนะ จุดคัดกรองเข้าออกทางเดียว มีการวัดไข้ หมั่นทำความสะอาดพื้นที่ ตลอดจนการจำกัดจำนวนผู้ชม โค้ช ทีมนักกีฬาตลอดจนผู้ติดตามให้เป็นไปตามที่ภาครัฐกำหนด
“เราเชื่อว่าแม้รูปแบบการแข่งขันจะเปลี่ยนไป แต่เด็ก ๆ ที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับประสบการณ์จากการแข่งขันรูปแบบใหม่ ได้ฝึกฝนทักษะพื้นฐานที่เป็นรากฐานสำคัญของกีฬาฟุตซอล ขณะเดียวกันยังได้ฝึกสปิริตน้ำใจนักกีฬาในการทำงานร่วมกันเป็นทีม รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย ภายใต้แนวคิดกีฬาคือครูชีวิต ช่วยหล่อหลอมและส่งเสริมให้เด็ก ๆ เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในอนาตต”
นายธีร์ ภวังคนันท์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบเครือข่ายและการมีส่วนร่วม สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า สพฐ. ได้ร่วมมือกับไมโลในการส่งเสริมให้เด็กไทยเรียนรู้ประสบการณ์นอกห้องเรียนผ่านการเล่นกีฬามาอย่างต่อเนื่อง ด้วยความเชื่อที่ตรงกันว่า กีฬาคือครูชีวิต ในปีนี้เราได้หารือกันเพื่อหาแนวทางให้เด็กไทย รวมทั้งนักเรียนในสังกัด สพฐ. ได้มีโอกาสเรียนรู้ผ่านการเล่นกีฬาเป็นทีมภายใต้มาตรการด้านความปลอดภัยและการเว้นระยะห่างอย่างเข้มงวด เราจึงจัดการแข่งขันทักษะฟุตซอลรูปแบบใหม่ขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับนักกีฬาไทย เพื่อส่งเสริมให้เด็กไทยมุ่งเน้นฝึกทักษะพื้นฐานเพื่อเพิ่มพูนศักยภาพให้แข็งแกร่ง เราเชื่อว่าการร่วมเป็นพันธมิตรในการจัดกิจกรรมไมโล ฟุตซอลต่อเนื่องทุกปี จะช่วยขับเคลื่อนและสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนไทยรักการเล่นกีฬา และเรียนรู้บทเรียนชีวิตนอกห้องเรียน”
Advertisement
ด้านนายธัชนาถ ทองประกอบ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เสริมว่า “รู้สึกดีใจที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการจัดการแข่งขันไมโล ฟุตซอล มาอย่างต่อเนื่อง เพราะสอดคล้องกับ พันธกิจของการกีฬาแห่งประเทศไทยที่มุ่งพัฒนาศักยภาพของนักกีฬาไทยให้ประสบความสำเร็จทั้งในระดับประเทศและสากล ด้วยความเชื่อว่า กีฬาสร้างคน คนสร้างชาติ ดังนั้นการร่วมเป็นพันธมิตรกับไมโลที่มีแนวคิดเดียวกันนี้จึงถือเป็นหนึ่งในความร่วมมือที่สำคัญมาก ในปีนี้ ทางโครงการได้จัดแข่งในรูปแบบของ 5 ทักษะฟุตซอลพื้นฐาน ซึ่งเป็นพื้นฐานที่สำคัญของนักกีฬาทุกคนในการนำไปต่อยอดเพื่อเติบโตเป็นนักกีฬาที่ดีในอนาคต ทาง กกท.เองก็มีการพัฒนาพื้นฐานเหล่านี้ให้กับนักกีฬาไทยเพื่อเพิ่มศักยภาพเช่นกัน จึงถือเป็นการดีที่ปีนี้ ไมโล มาร่วมเน้นย้ำและให้ความสำคัญในการพัฒนาทักษะพื้นฐานให้กับเด็กมากขึ้น”
สำหรับทีมที่สนใจสมัครเข้าร่วมการแข่งขัน สามารถดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ Facebook MILO Thailand หรือ www.nestle.co.th และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ Call Center หมายเลข 0 2657 8601 หรือ 1162 ได้ตั้งแต่วันนี้ – 14 กันยายน 2563
รูปแบบการแข่งขัน ไมโล ทักษะฟุตซอล 2020 การแข่งขันไมโล ฟุตซอล ในปีนี้ มีจุดเด่นในการแข่งขันทักษะฟุตซอล 3 รุ่น ได้แก่ รุ่นอายุ 7-8 ปี 9-10 ปี และ 11-12 ปี รวมทั้งสิ้น 384 ทีม โดยใน 1 ทีมจะต้องมีนักกีฬาในสนาม 5 คน และสามารถเปลี่ยนผู้เล่นสำรองได้ในกรณีที่มีเหตุจำเป็น โดยผู้เล่นในสนามทั้ง 5 คน จะต้องทำการแข่งขันให้ครบทั้ง 5 ฐานทักษะ ประกอบด้วย
1) ทักษะเลี้ยงบอล (คะแนนเต็ม 20 คะแนน) ผู้เล่นคนที่ 1 ต้องสลับใช้เท้า 2 ข้าง ทั้งข้างเท้าด้านในและด้านนอกเลี้ยงบอลผ่านสิ่งกีดขวางสลับไปมาอย่างต่อเนื่องไป-กลับในระยะ 20 เมตร จากนั้นหยุดบอลในจุดที่กำหนด เพื่อส่งบอลให้ผู้เล่นคนต่อไป
2) ทักษะรับ-ส่งบอล (คะแนนเต็ม 20 คะแนน) ผู้เล่นคนที่ 2 และคนที่ 3 ในฐานนี้จะต้องรับและส่งบอลในจุดที่กำหนด โดยผู้เล่นคนที่ 2 ต้องส่งบอลด้วยเท้าให้ลอดผ่านสิ่งกีดขวางให้ผู้เล่นคนที่ 3 โดยผู้เล่นทั้งสองต้องรับ-ส่งบอลผ่านสิ่งกีดขวางทั้ง 5 จุดที่กำหนด เพื่อส่งให้ผู้เล่นคนที่ 4 ในฐานต่อไป
3) ทักษะเดาะบอล (คะแนนเต็ม 20 คะแนน) ให้ผู้เล่นคนที่ 4 เดาะบอลต่อเนื่องโดยไม่ตกพื้นในกรอบที่กำหนด สำหรับรุ่น 7-8 และ 9-10 จำนวน 20 ครั้ง จากนั้นให้เลี้ยงบอลซิกแซกผ่านเสาธงระยะทาง 12.5 เมตรก่อนส่งบอลให้ผู้เล่นคนที่ 5 โดยผ่านสิ่งกีดขวางที่กำหนด
และสำหรับรุ่น 11-12 เดาะบอลต่อเนื่องโดยไม่ตกพื้นในกรอบที่กำหนด จำนวน 30 ครั้ง จากนั้น เดาะบอลพร้อมเคลื่อนตัวไปข้างหน้าระยะทาง 12.5 เมตร เพื่อไปหยุดที่กรอบที่กำหนด ก่อนส่งบอลให้ผู้เล่นคนที่ 5 โดยผ่านสิ่งกีดขวางที่กำหนด
4) ทักษะโหม่งบอล (คะแนนเต็ม 20 คะแนน) ผู้เล่นคนที่ 5 จะต้องวิ่งซอยเท้าผ่านบันไดลิงความยาว 4 เมตร โดยเท้าห้ามสัมผัสบันไดลิง จากนั้นจะต้องวิ่งไปโหม่งบอลเข้าประตูในระยะ 2 เมตร ในฐานนี้มีคะแนนเพิ่มพิเศษจากการโหม่งบอลทำประตู อีก 15 คะแนน ผู้เล่นจะต้องโหม่งทั้งหมด 3 ครั้ง แต่ละครั้ง คะแนนเต็ม 5 คะแนน โดยในการโหม่งแต่ละครั้ง ผู้เล่นจะต้องกลับไปวิ่งบันไดลิงก่อน
5) ทักษะยิงบอล (คะแนนเต็ม 20 คะแนน) ผู้เล่นคนที่ 5 จะต้องวิ่งซอยเท้าผ่านบันไดลิงความยาว 4 เมตรจากนั้น ผู้เล่นจะต้องยิงประตูในระยะ 6 เมตร ในฐานนี้มีคะแนนเพิ่มพิเศษจากยิงบอลทำประตูอีก 15 คะแนน ผู้เล่นจะต้องยิงทั้งหมด 3 ครั้ง แต่ละครั้งคะแนนเต็ม 5 คะแนน โดยในการยิงแต่ละครั้งผู้เล่นจะต้องกลับไปวิ่งบันไดลิงก่อน
ส่วนคะแนนพิเศษในการทำเวลา
ทีมที่ทำเวลาได้ภายใน 1.30 นาที จะได้คะแนนพิเศษ 20 คะแนน
เวลา 1.31-2.30 นาที จะได้คะแนนพิเศษ 15 คะแนน
และ 2.31-3.00 นาที จะได้คะแนนพิเศษ 10 คะแนน
รวมคะแนนเต็มต่อรอบเท่ากับรอบละ 150 คะแนน ทำการแข่งขันจำนวน 5 รอบ คิดเป็นคะแนนเต็มรวม 750 คะแนน ทีมที่ได้คะแนนสูงสุดจะผ่านเข้ารอบ เพื่อเฟ้นหา 2 ทีมสุดท้ายของแต่ละรุ่นเพื่อแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศต่อไป
