บิ๊กแชมป์ กรวีร์ ปริศนานันทกุล รองประธานบริหารบ.ไทยลีก คาดต้องใช้เงินเกือบ 4 ล้านบาทช่วยสโมสรตรวจโควิดก่อนฟุตบอลลีกกลับมาลงแข่งขันอีกครั้ง
บิ๊กแชมป์ – ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ออกประกาศอนุญาตให้การแข่งขันกีฬาสามารถเปิดให้มีผู้ชมในสนามได้ โดยในส่วนของกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพที่มีกำหนดจะกลับมาลงสนามฟาดแข้งอีกครั้งในวันที่ 12 ก.ย. ซึ่งศบค. ยืนยันว่านักกีฬาต้องรับการตรวจหาเชื้อโรคโควิด-19 ก่อนการแข่งขัน และสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เผยว่าเตรียมที่จะออกค่าใช้จ่ายในการตรวจให้กับทุกสโมสร
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล รองประธานบริหารบริษัท ไทยลีก จำกัด กล่าวว่า ถึงตอนนี้เหลือเวลาอีกไม่ถึง 3 สัปดาห์ฟุตบอลลีกของไทยจะกลับมาลงสนาม ดังนั้นแต่ละสโมสรต้องเริ่มแจ้งกลับมาที่สมาคมว่าจะนำนักกีฬาและเจ้าหน้าที่เข้าตรวจหาเชื้อโรคเมื่อใดและสถานที่ใด
“ตามกำหนดที่ศบค.แจ้งมานั่นคือต้องได้ผลการตรวจก่อนการแข่งขันฟุตบอลจะเริ่มขึ้นอย่างน้อย 72 ชั่วโมง ดังนั้นเมื่อฟุตบอลลีกจะเริ่มกลับมาเตะอีกครั้ง 12 ก.ย. ต้องได้ผลตรวจหาเชื้อภายในวันที่ 10 ก.ย. ผมคิดว่าแต่ละสโมสรต้องเริ่มให้นักกีฬาเข้ารับการตรวจภายในวันที่ 8-9 ก.ย. ส่วนการที่สมาคมกีฬาฟุตบอลประกาศว่าจะจ่ายค่าตรวจโควิดให้กับทุกสโมสรไม่เกินทีมละ 50 คน คงไม่มีปัญหาอะไร และเชื่อว่าบางสโมสรคงไม่ตรวจครบทั้ง 50 คน เพราะในแต่ละทีมสามารถลงทะเบียนนักเตะได้เพียง 35 คนเท่านั้น ที่สำคัญศบค. ประกาศให้ตรวจเพียงนักกีฬาที่จะต้องลงสนามแข่งขัน ไม่ได้รวมถึงบุคคลอื่นในครอบครัว หรือแม้กระทั่งเจ้าหน้าที่สโมสร แต่การที่สมาคมยินดีจ่ายให้แต่ละสโมสรถึง 50 นั้น เพื่อดูแลส่วนอื่นให้กับสโมสรเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายจึงเพิ่มให้เจ้าหน้าที่ สต๊าฟโค้ชที่จำเป็นต้องตรวจหาเชื้อ”
“ประเทศไทยมีศูนย์ตรวจหาเชื้อโรคโควิด-19 กว่า 20 แห่งทั่วประเทศ แต่ละสโมสรต้องแจ้งมาว่าจะเข้ารับการตรวจที่ใด เพื่อให้สมาคมเตรียมพร้อมประสานงานเพื่อให้เกิดความสะดวกและรวดเร็ว รวมถึงการเตรียมค่าใช้จ่ายด้วย ส่วนค่าตรวจเฉลี่ยต่อคนราว 600 บาท ซึ่งค่าใช้จ่ายในการตรวจโควิดก่อนแข่งฟุตบอลลีกอาชีพของประเทศไทยทั้ง 3 ลีก คาดว่าต้องใช้เงินรวมกันทั้งหมดราว 3-4 ล้านบาท ในส่วนนี้เป็นหน้าที่ของสมาคมฟุตบอลต้องไปหาเงินมาจ่าย และผมคิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไร ในเมื่อสมาคมฟุตบอลประกาศแล้วว่าจะดูแลส่วนนี้คงมีเงินสำรอง หรือมีหนทางในการหาเงินมาจ่ายอย่างแน่นอน”
