อาร์เซนอลกับลิเวอร์พูลกินกันไม่ลงในเวลา 90 นาที ก่อนจะเป็นฝั่ง “ปืนใหญ่” ที่เอาชนะได้ในการดวลจุดโทษ ผงาดคว้าแชมป์ คอมมิวนิตี ชิลด์ ประจำปีนี้ไปครอง
การแข่งขันฟุตบอล คอมมิวนิตี ชิลด์ อังกฤษ เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม “ปืนใหญ่”อาร์เซนอล ในฐานะแชมป์เอฟเอ คัพ เจอกับ “หงส์แดง”ลิเวอร์พูล ในฐานะแชมป์พรีเมียร์ลีก เตะกันที่สนามเวมบลีย์ สเตเดียม กรุงลอนดอน
เกมนี้อาร์เซนอลจัด ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมยอง, เอ็ดดี เอ็นเคเทียห์, บูคาโย ซากา ลงตัวจริง ส่วนลิเวอร์พูลนำโดย 3 ประสาน โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน, โรแบร์โต ฟีร์มิโน
เริ่มเกมมา 7 นาที ลิเวอร์พูลเฮเก้อ จากฟรีคิกระยะไกล แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เปิดเข้าไปในเขตโทษให้ เฟอร์จิล ฟาน ไดก์ โฉบมาชาร์จเข้าสู่ก้นตาข่าย แต่ฟาน ไดก์ ล้ำหน้าไปก่อนแล้ว
นาที 12 บูคาโย ซากา โยนบอลไปทางกราบซ้ายถึง ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมยอง ลากจี้เข้ามาแล้วปั่นจากบริเวณมุมเขตโทษ บอลโค้งหนีมือนายทวารเสียบตาข่ายสุดสวย อาร์เซนอลออกนำ 1-0
นาที 18 อาร์เซนอลแย่งบอลได้จากกลางสนามแล้วโจมตีเร็ว บูคาโย ซากา ตบจากมุมเขตโทษด้านขวาเข้าตรงกลางให้ เอ็ดดี เอ็นเคเทียห์ วิ่งมาแปตรงกรอบ อลิสซง เบ็กเกอร์ ต้องพุ่งปัดทิ้ง จบครึ่งแรก “ปืนใหญ่” ยังนำอยู่ 1-0
ครึ่งหลังนาที 55 ลิเวอร์พูลมีลุ้นตีเสมอ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน วางบอลจากแดนตัวเองขึ้นหน้าให้ ซาดิโอ มาเน หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปยิงในเขตโทษ เอมิเลียโน มาร์ติเนซ ยังออกมาปิดมุมไวเลยเซฟได้
นาที 73 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ พยายามจะลุยเข้าเขตโทษ แล้วบอลเกิดขลุกขลิกจนมาตกตรงหน้า ทาคุมิ มินามิโนะ ได้ยิงไม่เขตโทษไม่เหลือ ลิเวอร์พูลตีเสมอ 1-1 เป็นประตูแรกของเจ้าตัวกับสโมสรแห่งนี้ด้วย
นาที 81 ลิเวอร์พูลเกือบแซงนำ ซาดิโอ มาเน พักบอลลงได้ในเบตโทษแล้วจะยิงจ่อๆ เอมิเลียโน มาร์ติเนซ ล้มตัวปิดมุมไวเลยเซฟไว้ได้ จบเกมจึงเสมอกัน 1-1 ต้องตัดสินด้วยการยิงจุดโทษ
ผลการดวลเป็นฝั่งอาร์เซนอลทำได้เฉียบคมกว่า ซัดเข้าทั้ง 5 คน ขณะที่ลิเวอร์พูลเป็น ริอัน บรูว์สเตอร์ ซัดไปชนคาน ทำให้ “ปืนใหญ่” ชนะไป 5-4 คว้าแชมป์นี้เป็นสมัยที่ 16 ของสโมสร