คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล เดินเครื่องเต็มกำลัง ดึงแบดมินตัน 3 รายการใหญ่จัดแข่งขันในประเทศไทย ชี้เป็นโอกาสดีที่จะได้เห็นแบดมินตันระดับซุปเปอร์ 1,000 แข่งขันที่ไทย

หลังจาก สหพันธ์แบดมินตันโลก จัดโปรแกรมการแข่งขันแบดมินตันใหม่ ในช่วงที่เหลือของปี 2020 โดยเหลือเพียง 6 รายการ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดจากเชื้อโควิด-19 เริ่มจากแบดมินตันทีมชายและทีมหญิงชิงแชมป์โลก “โธมัส & อูเบอร์ คัพ 2020” วันที่ 3-11 ต.ค.นี้ ที่เดนมาร์ก ต่อด้วยศึกเวิลด์ทัวร์ 2 รายการติดต่อกัน ที่เดนมาร์ก เช่นกัน ส่วนอีก 3 รายการ จะมาจัดการแข่งขันในทวีปเอเชีย โดย 2 รายการแรกเป็นรายการระดับซุปเปอร์ 1,000 ก่อนจะปิดท้ายด้วยรายการ เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอลส์ ในสัปดาห์ที่ 46, 47 และ 48 ตามลำดับ หรือช่วงเดือนพ.ย.นี้ ซึ่งอยู่ในขั้นตอนของการเลือกเจ้าภาพจัดการแข่งขันนั้น

ล่าสุด คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล รองประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก ในฐานะนายกสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า ถือเป็นโอกาสดีที่สหพันธ์แบดมินตันโลก นำการแข่งขันแบดมินตันรายการใหญ่ ระดับซุปเปอร์ 1,000 มาแข่งขันในทวีปเอเชีย ซึ่งจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้สหพันธ์ฯ ยินดีช่วยเหลือเรื่องค่าใช่จ่ายในการดำเนินการจัดการแข่งขันมากที่สุด ทำให้ไทย โดยสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ มีความสนใจ ที่จะดึงการแข่งขันแบดมินตันทั้ง 3 รายการมาจัดการแข่งขันที่ประเทศไทย

“คู่แข่งที่เสนอตัวสนใจอยากจะจัดการแข่งขันตอนนี้มีหลายประเทศ ทั้ง อินโดนีเซีย รวมไปถึงฮ่องกง แต่ที่น่ากลัวคือ อินโดนีเซีย เนื่องจากเขาพร้อมทุ่มเงินเพื่อดึงการแข่งขันทั้ง 3 รายการไปจัด อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์ โควิด-19 ประเทศไทยสามารถควบคุมโรคได้ดี และที่ผ่านมา มีมาตรการควบคุมเป็นที่ยอมรับ ทำให้ไทยมีข้อได้เปรียบในส่วนนี้ และเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับสหพันธ์แบดมินตันโลก มั่นใจว่าไทยจะได้รับการคัดเลือก”

คุณหญิงปัทมา กล่าวต่อว่า แม้ว่าสหพันธ์แบดมินตันโลก จะช่วยออกค่าใช้จ่ายแล้วส่วนหนึ่ง แต่การจัดการแข่งขันทั้ง 3 รายการ ต้องใช้งบประมาณมหาศาล ดังนั้นนอกจากการหาผู้สนับสนุนจากภาคเอกชนแล้ว ต้องฝากไปถึงรัฐบาล ให้เข้ามาช่วยสนับสนุนจัดการแข่งขันแบดมินตันทั้ง 3 รายการนี้ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย เนื่องจากเป็นโอกาสดี ที่ไม่ได้มีมาบ่อย ๆ ที่การแข่งขันระดับซุปเปอร์ 1,000 จะได้มาจัดการแข่งขันในเมืองไทย

“ส่วนเรื่องมาตการควบคุมป้องกันโควิด-19 จะมีมาตรการทั้งต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด เช่น กักตัว 14 วัน, ตรวจหาเชื้อ และหาโรงแรมที่พักแบบปิด ซึ่งจะต้องรองรับนักกีฬาและ เจ้าหน้าที่ ได้จำนวนมาก ซึ่งจะมีนักแบดมินตันมือ 1-40 ของโลกเดินทางมาร่วมการแข่งขัน ซึ่งโรงแรมดังกล่าวจะต้องมีสนามซ้อม สามารถเดินทางมาสนามแข่งขันได้สะดวก และจะมีการตรวจหาเชื้อโควิดทุก ๆ 3 วัน ซึ่งนักกีฬาทั้งหมดที่จะเข้าร่วมการแข่งขัน 3 รายการ ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 1 เดือน มีถ่ายทอดสดไปทั่วโลก” คุณหญิงปัทมา กล่าว

ทั้งนี้รายงานว่าในการจัดการแข่งขัแบดมินตันทั้ง 3 รายการ ต้องใช้งบประมาณราว 300 ล้านบาท และสหพันธ์แบดมินตันโลก กำหนดให้สถานที่จัดการแข่งขันจะต้องมีคอร์ตแข่งขันจำนวน 4 สนาม มีเพดานสูง 12 เมตร และมีสนามซ้อมเพียงพอ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน