จิ้งจอกสยาม ยืนยันการให้โอกาส 3 นักเตะดาวรุ่งบุรีรัมย์ เดินทางไปซ้อมที่อังกฤษเป็นการทดสอบเท้าเพื่อเป็นนักเตะอาชีพ ขณะที่บิ๊กเน เชื่อผ่านแน่ 1 คน

จิ้งจอกสยาม โดยนายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ พร้อมด้วย นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ร่วมเป็นประธานแถลงความโครงการความร่วมมือ “พลังบอลไทย ไปเลสเตอร์” เมื่อ 9 ก.ย. ที่ห้องอิเทอร์นิตี โรงแรมพูลแมน ด้วยการที่เลสเตอร์ เปิดโอกาสให้ 3 นักเตะดาวรุ่งไทยของบุรีรัมย์ อย่าง สุภโชค สารชาติ, ศุภชัย ใจเด็ด และ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ไปร่วมทดสอบฝีเท้าที่สโมสรเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ หลังจบฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2020-2021

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ กล่าวว่า “ตั้งแต่เมื่อครั้งที่คิงเพาเวอร์ เข้าเทกโอเวอร์สโมสรเลสเตอร์ เราเชื่อในความสามารถและศักยภาพของคนไทยอยู่แล้ว และต้องการส่งต่อให้คนไปกถึงฝัน นั่นคือการให้คนไทยได้มีโอกาสไปเล่นฟุตบอลที่ทวีปยุโรป เริ่มตั้งแต่โครงกรฟ็อกซ์ฮันต์ที่เปิดโอกาสให้เยาวชนได้ไปฝึกซ้อมที่อังกฤษ ซึ่งจัดมาเป็นปีที่ 5 แล้ว แต่ครั้งนี้จะต่างออกไป เป็นเหมือนการเปิดประตูทางลัดให้กับ 3 นักเตะจากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด”

“ทั้ง เช็ค (สุภโชค สารชาติ), อาร์ม (ศุภชัย ใจเด็ด) และ แบงค์ (ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา) จะเดินทางไปทดสอบฝีเท้ากับเลสเตอร์ ซิตี ไม่ใช่เพียงซ้อมเท่านั้น และหากผ่านเกณฑ์จะสนับสนุนให้เซ็นสัญญาเล่นลีกยุโรป ไม่ว่ากับ เลสเตอร์ หรือสโมสรในเครืออย่าง โอเอช ลูเวิน ในเบลเยียม”

ประธานสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ เผยอีกว่า การไปทดสอบฝีเท้าครั้งนี้ จะใช้เวลาราว 1 เดือน ในช่วงปิดฤดูกาล แต่จริงๆ แล้ว 2 สัปดาห์ โค้ชน่าจะเห็นแล้ว จากที่แมวมองของเลสเตอร์ ได้เห็น เขาค่อนข้างประทับใจ แต่อยากให้ไปให้เห็นชัดๆ จึงเรียกให้ไปทดสอบฝีเท้ากับที่เลสเตอร์ โดยอาจจะให้ลงเล่นทีมรุ่นอายุ 23 ปี และลงอุ่นเครื่องทีมอื่นๆ เพื่อให้เห็นชัดว่าใครมีดีตรงไหนบ้าง หากทุกคนทำได้ดีมีโอกาส และแม้จะไม่ได้เล่นกับเลสเตอร์ ยังมีทีมในเบลเยียมรองรับ

“นอกจากนี้การไปของทั้ง 3 คนจะเป็นการเปิดตลาดใหม่ให้กับสโมสรในยุโรป เพราะทุกอย่างเกี่ยวกับฝึกซ้อมของนักเตะไทยจะมีแมวมองจากสโมสรอื่นติดตามและยื่นขอดูโปรไฟล์ของทั้งหมดด้วย ผมอยากเห็นนักเตะได้รับโอกาสเหมือนกับนักเตะเกาหลีใต้ หรือญี่ปุ่น ที่เมื่อโดนหมางเมินเช่นเดียวกัน แต่ทุกวันนี้ได้รับการยอมรับมากขึ้น”

ด้าน นายเนวิน ชิดชอบ ประธานบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กล่าวว่า “ผมเชื่อว่าบุรีรัมย์ เป็นสโมสรเดียวที่จริงจังกับการทำอคาเดมีนักเตะมากที่สุด ทั้ง 3 คนมีความสามารถ มีคุณภาพ ถูกบ่มเพาะความมีวินัย 3 คนนี้ ดีที่สุดเท่าที่บุรีรัมย์มีมา จากการที่ทำมา 10 ปี อดทนสูง มุ่งมั่น มีพรแสวงอย่างมาก มั่นใจว่ามีอย่างน้อย 1 คน ที่ผ่านการทดสอบ เพราะทุกคนเคยผ่านฟุตบอลรายการใหญ่ ระดับเอเชีย อย่าง เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก มาแล้ว ต้องเจอกับสโมสรดังระดับทวีปมากมาย ต้องเล่นกับนักเตะระดับท็อปของเอเชีย และทุกคนไม่มีความเกรงกลัวที่ต้องเจอกับผู้เล่นนั้น ดังนั้นไม่ใช่เรื่องน่ากังวลกับการไปทดสอบฝีเท้าที่เลสเตอร์ ในครั้งนี้”

“ส่วนการที่เราเลือกให้ทั้ง 3 คน ไปร่วมทดสอบฝีเท้าในช่วงสิ้นสุดฤดูกาลใหม่ที่จะมานั้น เพราะจากนี้ทั้งหมดจะมีเวลา 7-8 เดือน เพื่อพัฒนาฝีเท้า ยกระดับความแกร่ง รักษาระเบียบวินัย และเตรียมพร้อมให้มากที่สุด ก่อนที่จะไปทดสอบจริง แม้ว่าสุดท้ายจะได้เล่นที่ โอเอช ลูเวิน แต่รับได้ และไม่ได้ติดใจอะไร เพราะ ลูเวิน เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นจูปิแลร์ ลีก ลีกสูงสุดของเบลเยียม บางคนอาจบอกว่า กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ เคยไปเล่น แต่นั่นคนละลีกกัน”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน