แฟนอิเหนา อินโดนีเซีย เป็นแฟนบอลที่ติดตามการถ่ายทอดสดบอลไทยลีกบนโซเชียลมากที่สุดถึง 2.5 แสนคน ส่วนสมาคมลูกหนังสั่งนักเตะตรวจโควิด-19 รอบสองต้นปีหน้า

แฟนอิเหนา – เมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ห้องประชุมชั้น 1 ภายในสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้มีการประชุมสภากรรมการ ประจำเดือนพฤศจิกายน 2563 โดยมี พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ เป็นประธาน พร้อมด้วย นายพาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมฯ

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

โดยภายในการประชุมดังกล่าว มีเรื่องสำคัญที่แจ้งต่อสภากรรมการรับทราบ ดังนี้ ที่ประชุมสภากรรมการ รับทราบ กำหนดการขึ้นทะเบียนนักกีฬา ครั้งที่ 2 ระดับไทยลีก 3 จะเปิดขึ้นทะเบียนนักกีฬาได้ ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย.2563 ถึงวันที่ 27 ธ.ค.2563 และ ระดับไทยลีก 1 – ไทยลีก 2 จะเปิดขึ้นทะเบียนนักกีฬา ได้ตั้งแต่วันที่ 23 ธ.ค.2563 ถึงวันที่ 5 ม.ค.2564

โดยสิทธิการเปลี่ยนแปลงนักกีฬา ครั้งที่ 2 (เฉพาะในฤดูกาล 2020 ) ตามระเบียบว่าด้วยการจัดการแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพ และกีฬาฟุตบอลทุกรายการ ประจำปี 2563 (ฉบับชั่วคราว) ฉบับวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ.2563 มีดังนี้ ระดับไทยลีก 1 – ไทยลีก 2 สามารถเปลี่ยนแปลงได้ไม่เกินทีมละ 10 คน โดยเป็นนักกีฬาฟุตบอลสัญชาติไทย 5 คน และสัญชาติอื่นไม่เกิน 5 คน หรือจะเป็นสัญชาติไทยทั้งหมด 10 คน

ระดับไทยลีก 3 สามารถเปลี่ยนแปลงได้ไม่เกินทีมละ 10 คน โดยเป็นนักกีฬาฟุตบอลสัญชาติไทย 7 คน และสัญชาติอื่นไม่เกิน 3 คน หรือจะเป็นสัญชาติไทยทั้งหมด 10 คนก็ได้

ทั้งนี้ ถ้าใช้สิทธิ์ในการขึ้นทะเบียนนักกีฬาสัญชาติไทยเต็มจำนวน จะไม่สามารถใช้สิทธิเปลี่ยนนักกีฬาต่างชาติแทนนักกีฬาสัญชาติไทยในครั้งที่ 2 ได้

สำหรับ สิทธิ์ในการโอนย้ายนักกีฬา สามารถขึ้นทะเบียนได้ 3 สโมสร เฉพาะในฤดูกาล 2020 และให้นับรวมสิทธิการขึ้นทะเบียนครั้งที่ 1 รวมอยู่ในสิทธิการขึ้นทะเบียนทั้ง 3 ครั้งด้วย

ขณะเดียวกันที่ประชุมสภากรรมการ รับทราบเรื่องการตรวจเชื้อโควิด-19 สำหรับนักกีฬา ครั้งที่ 2 ดังนี้ ระดับไทยลีก 3 ให้ส่งรายชื่อหลังตลาดซื้อ-ขายนักเตะปิด ในวันที่ 28 ธ.ค.2563 และทำการส่งตรวจ ในวันที่ 4-5 ม.ค.2564

ระดับไทยลีก 1 และ ไทยลีก 2 ให้ส่งรายชื่อหลังตลาดซื้อ-ขายนักเตะปิด ในวันที่ 6 ม.ค.2564 และทำการส่งตรวจ ในวันที่ 7-8 ม.ค.2564

พร้อมกันนี้ที่ประชุมสภากรรมการ รับทราบข้อมูลสรุปผู้ชมการแข่งขันฟุตบอลโตโยต้าไทยลีก ผ่าน “1 Play Sport” หลังถ่ายทอดสดผ่านระบบออนไลน์ Facebook และ Youtube ใน 15 ประเทศทั่วเอเชีย เป็นระยะเวลา 7 สัปดาห์ จำนวน 28 นัด ปรากฏว่า มียอดเข้าถึงรวม Facebook และ Youtube กว่า 6.6 ล้านคน เฉลี่ยนัดละ 250,000 คน และมียอดรับชมรวม Facebook และ Youtube กว่า 1 ล้านคน เฉลี่ยนัดละ 18,000 คน

โดยประเทศที่ยอดรับชมรวม Facebook และ Youtube มากที่สุด อันดับ 1 คือ อินโดนีเซีย จำนวน 250,000 คน, อันดับ 2 ฟิลิปปินส์ จำนวน 73,000 คน, อันดับ 3 มาเลเซีย จำนวน 72,000 คน และ อันดับ 4 มาเลเซีย จำนวน 69,000 คน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน