ส.บาส ส่งนักยัดห่วง 10 ชีวิต ลุยแข่งขัน ศึก ฟีบ้า เอเชีย คัพ 2021 รอบคัดเลือก ที่ประเทศบาห์เรน “เฮียต่าย” ยันต้องส่งไปร่วมเพราะสหพันธ์ฟีบ้ากำชับมาว่าหากไม่เข้าร่วมจะถูกแบนในรายการที่สหพันธ์จัดทั้งหมด

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

ตามที่สหพันธ์บาสเกตบอลนานาชาติ หรือ ฟีบ้า ได้ส่งหนังสือแจ้งมายังทุกประเทศที่ร่วมการแข่งขัน “ฟีบ้า เอเชีย คัพ 2021 รอบคัดเลือก” ซึ่งทีมบาสเกตบอลหนุ่มทีมชาติไทยอยู่ในกลุ่ม เอ ร่วมกับ เกาหลีใต้, ฟิลิปปินส์ และ อินโดนีเซีย แต่การแข่งขันต้องหยุดชะงักกลางคันเนื่องด้วยสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยทีมไทยเพิ่งแข่งไปเพียงเกมเดียวกับ เกาหลีใต้ เท่านั้น

ซึ่งในหนังสือของทางฟีบ้านั้นได้กำชับมาว่าหากชาติใดไม่ส่งทีมเดินทางไปเข้าร่วมการแข่งขันครั้งใหม่ที่ล่าสุดทางฝ่ายจัดได้กำหนดสนามแข่งขันขึ้นมาใหม่เป็นสนามกลางให้ทุกทีมได้มาแข่งกันเปลี่ยนจากเดิมที่จะเป็นการเหย้าเยือนของแต่ละทีมในกลุ่ม โดยสนามกลางที่ใหม่คือกรุงมานามา ประเทศบาห์เรน ในระหว่างวันที่ 26-30 พ.ย.63 หากทีมใดไม่เข้าร่วมฟีบ้าจะมีคำสั่งให้นอกจากจะถูกตัดสินให้แพ้ตามระเบียบการแข่งขัน ฟีบ้า เอเชีย คัพ 2021 แล้ว สมาคมกีฬาบาสเกตบอลฯ ประเทศนั้นๆ อาจถูกห้ามเข้าแข่งขันอย่างเป็นทางการ หรือ การแข่งขันกระชับมิตรในรายการอื่นๆ ที่สหพันธ์บาสเกตบอลนานาชาติ หรือ ฟีบ้า จะจัดขึ้นหลังจากนี้อีกด้วย

จากเหตุผลและความจำเป็นดังกล่าว ส่งผลให้ ส.บาส จึงได้พิจารณาคัดเลือกนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ที่มีความพร้อมเพื่อเดินทางไปเข้าร่วมการแข่งขันภายใต้สถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงในการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยรายชื่อนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ของทีมบาสเกตบอลชายทีมชาติไทยที่จะเดินทางไปแข่งขันยังประเทศบาห์เรนมีดังนี้ นักกีฬา 10 คน ประกอบด้วย 1.”คานู” วัฒนา สุทธิสินธุ์ 2.”หรั่ง” ณกรณ์ ใจสนุก 3.”พีท” บัณฑิต หลักหาญ 4.”แฟร์” อนัสวีย์ แกล้วณรงค์ 5.”อาร์ท” ชัชพล จึงแย้มปิ่น 6.”ตุ้ม” อนุชา ลังสุ่ย 7.”เดฟ” สุขเดฟ โคเคอร์ 8.”บาส” มณเฑียร วงศ์สว่างธรรม 9.”โอม” ชนาธิป จักรวาฬ และ 10.”อาร์ม” ณัฐกานต์ เมืองบุญ โดยมี นายแพทย์เชษฐพงษ์ วงศ์วรเชษฐ์ เป็นผู้จัดการทีม, “โค้ชแซ็ค” มานิจ นิยมยินดี เป็นผู้ฝึกสอน และ นายอัจฉริยาวุฒิ มูลเรือนแก้ว ร่วมไปเป็นเจ้าหน้าที่ทีม ซึ่งล่าสุดทัพนักกีฬาทั้ง 10 รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ทีมได้ออกเดินทางไปถึงยังกรุงมานามา ประเทศบาห์เรน อันเป็นที่ตั้งของสนามแข่งขันเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา และทั้งหมดจะมีกำหนดกลับมายังประเทศไทยในวันที่ 2 ธ.ค.63

“เฮียต่าย” นิพนธ์ ชวลิตมณเฑียร นายกสมาคมกีฬาบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย เผยว่า ตนไม่เห็นด้วยอย่างมากสำหรับการที่ฟีบ้าประกาศกำชับให้ทุกชาติต้องเดินทางออกนอกประเทศของตนเองเพื่อไปแข่งขันในช่วงสถานการณ์ที่ทั่วโลกเองก็ยังไม่ได้สู้ดีในเรื่องไวรัส อันที่จริงช่วงเวลาที่จะถึงในเกมต่อไปนี้เดิมประเทศไทยจะต้องเป็นเจ้าภาพต้อนรับการมาเยือนของฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย แต่ด้วยเหตุที่รัฐบาลของไทยไม่อนุญาติให้ต่างชาติเดินมาแข่งขันกีฬาภายในประเทศเหตุนี้ก็เข้าใจได้ แต่กลับกลายเป็นว่าฟีบ้าบังคับให้ทุกทีมออกไปแข่งแทน แทนที่จะให้เลื่อนออกไปก่อน

“นอกจากประเด็นของความน่าเป็นห่วงสวัสดิภาพของนักกีฬาทุกคนแล้ว การส่งนักกีฬาไปแข่งขันต่างประเทศในเวลานี้ยิ่งต้องมีค่าใช้จ่ายมหาศาลตามมาด้วย ซึ่งต้องบอกเลยว่าการส่งทีมบาสเกตบอลชายไปแข่งขันที่บาห์เรนหนนี้มีค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนสูงถึง 2 ล้านบาท เยอะที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ของสมาคมกีฬาบาสเกตบอลแห่งประเทศไทยตั้งแต่ส่งนักกีฬาไปแข่งขันนานาชาติมาเลย เพราะการดูแลรักษานักกีฬาตามขั้นตอนต่างๆ เพื่อป้องกันไวรัสนั้นมีค่าใช้จ่ายที่สูงมากๆ ทางการกีฬาแห่งประเทศไทยที่อนุญาติให้ทีมบาสฯ ไทยออกไปแข่งขันได้ก็ช่วยในเรื่องงบประมาณมาจำนวนหนึ่ง แต่มากกว่าครึ่งของงบประมาณทั้งหมดทางสมาคมฯ นั้นต้องหามาเองเพื่อส่งนักกีฬาไปแข่งให้สำเร็จตามที่ทางฟีบ้าเวิลด์ได้กำชับมา ผมจึงยืนยันได้เลยว่าไม่น่าจัดแข่งเลยจริงๆ ในช่วงเวลานี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือสวัสดิภาพของนักกีฬา เป็นห่วงทุกคนมาก” เฮียต่ายกล่าว

ขณะที่ประเด็นของกระแสโซเชียลที่แห่แหนกันคอมเมนต์มายังสมาคมกีฬาบาสเกตบอลแห่งประเทศไทยถึงรายชื่อนักกีฬาที่ออกมาที่เดินทางไปแข่งขันทั้ง 10 คนยังประเทศบาห์เรนว่าทำไมถึงไม่มีชื่อของบางคนที่อาจจะฟอร์มกำลังดีในรายการภายในประเทศแต่หลุดทีมชาตินั้น เฮียต่าย กล่าวว่า ในเรื่องนี้ตนขอชี้แจงว่า ตั้งแต่ที่มีหนังสือจากทางฟีบ้ามาว่าให้ไปร่วมแข่งขันนั้นตนก็ทราบแล้วว่าน่าจะเป็นเรื่องยากที่นักกีฬาจะตอบรับร่วมไปแข่งขัน จึงไม่ได้ทำการประกาศเชิญนักกีฬาออกมาเป็นรายชื่อในหนังสือ เพื่อกันว่าหากนักกีฬาคนนั้นๆ ปฏิเสธเข้าร่วมจะเจ้าตัวจะไม่ได้ไม่พบกับเรื่องเสียหายในภายหลัง

ทางสมาคมฯ เองจึงได้ใช้วิธีการโทรศัพท์ส่วนตัวไปเชิญมาร่วมคัดเลือกโดยตรงซึ่งผลก็เป็นไปตามคาดว่ายอดฝีมือหลายๆ คนได้ปฏิเสธการไปแข่งขันครั้งนี้ แต่ไม่ว่าเหตุผลจะเป็นด้วยสาเหตุอะไร นักกีฬาห่วงเรื่องสวัสดิภาพของตนเองที่ต้องไปพบไวรัสแล้วจะนำมาติดคนในครอบครัว หรือจะเป็นเรื่องการที่นักกีฬาติดสอบติดเรียนทางสมาคมฯ ก็เข้าใจเหตุผลส่วนตนของแต่ละคนเป็นอย่างดี เพราะส่วนตนเองก็ไม่ได้อยากให้ทีการเดินทางไปร่วมแข่งขันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ดังนั้นตนจึงขอวอนโลกโซเชียลว่าอย่าซ้ำเติมกันเลย รายการนี้ที่ต้องส่งทีมไปร่วมก็เพราะกลัวว่าวงการบาสฯ ไทยจะถูกแบนด์จากสหพันธ์ฟีบ้า ทุกอย่างมันกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ลำบากกันหมด

ส่วนเรื่องการตั้งความหวังของการเดินทางไปแข่งครั้งนี้ของทัพยัดห่วงหนุ่มไทยนั้น ประมุขบาสฯ ไทยเผยว่า ทีมชาติไทยชุดนี้มีแกนหลักเป็นนักกีฬาที่มาจากสโมสรไฮ-เทคและไทยเครื่องสนาม ส่วนนักกีฬาไทยคนอื่นทางสมาคมฯ ได้โทรเรียกเชิญให้มาคัดเลือกแล้วแต่ก็ถูกตอบปฏิเสธหมด ขณะที่ผู้เล่นลูกครึ่งตัวความหวังนั้น ไทเลอร์ แลมบ์ กับ โมเซส มอร์แกน อยู่ที่อเมริกา และ “เฟรดดี้” เฟรเดริค ลิช อยู่ที่อิสราเอล ทั้งหมดติดปัญหาเรื่องการเดินทางจึงไม่สามารถเข้าร่วมได้ อย่างไรก็ดีทีมชาติชุดนี้เป็นระดับหัวกะทิของประเทศที่มาจากทีมแชมป์และรองแชมป์ของศึกไทยแลนด์โอเพนล่าสุด ขณะที่ข่าวคราวจากฟิลิปปินส์เองก็มีมาว่าผู้เล่นตัวเก่งๆ ปฏิเสธเข้าร่วมแข่งขันเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ไทยก็มีโอกาสชนะเช่นกัน

“มองอีกแง่ก็คือทีมบาสเกตบอลไทยจะถือเป็นกีฬาประเภททีมชนิดแรกที่เป็นแม่แบบในการเดินทางออกไปแข่งขันยังต่างประเทศในช่วงสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ระบบการป้องกันต่างที่ฝ่ายจัดได้ตระเตรียมไว้จะทำให้หลังจากนี้กีฬาต่างๆ ในประเทศจะได้รับทราบว่าทีมบาสฯ ไทยได้ทำอย่างไร ปฏิบัติอย่างไรและพบเจอกับอะไรบ้าง อย่างไรเสีย ผมก็ขอให้ชาวบาสฯ ไทยทุกคนสบายใจได้ เพราะผมได้ทำประกันไว้ให้นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ไทยทุกคนที่เดินทางไปแข่งขันคนละ 1 ล้านบาท และประกันอุบัติเหตุคนละ 5 ล้านบาท อีกทั้งถ้าทีมไทยสามารถชนะฟิลิปปินส์หรืออินโดนีเซียได้จะอัดฉีดให้นักกีฬาอีก 1 ล้านบาทไปแบ่งกัน ถือเป็นการตอบแทนที่พวกเขามีน้ำใจเดินทางไปแข่งขันเพื่อประเทศชาติไทยของเรา” ประมุขยัดห่วงกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน