ปีศาจแดงทำไม่ได้ตามเป้าหมาย บุกพ่ายต่อไลป์ซิก ส่งผลให้ต้องตกรอบยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ขณะที่ม้าลายบุกขยี้บาร์ซ่า แซงหน้าคว้าแชมป์กลุ่มไปครอง

การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม กลุ่มเอช ไลป์ซิก จากเยอรมนี เปิดสนามเรดบูลล์ อารีนา รับการมาเยือนของ “ปีศาจแดง”แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จากอังกฤษ

ก่อนแข่ง แมนฯยูไนเต็ด นำหัวตาราง มี 9 คะแนนเท่ากับปารีส แซงต์-แชร์กแมง จากฝรั่งเศส และไลป์ซิก ขอเพียงแต้มเดียวก็การันตีเข้ารอบ

เกมนี้เจ้าถิ่นจัด ดานี โอลโม, คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู, เอมิล ฟอร์สเบิร์ก ลงสนาม ส่วนทีมเยือนใช้งาน มาร์คัส แรชฟอร์ด, บรูโน แฟร์นานเดส, เมสัน กรีนวูด

เริ่มเกมมาแค่ 2 นาที มาร์เซล ซาบิตเซอร์ พาบอลจากครึ่งสนามเยื้องไปทางกราบขวา แล้วตัดสินใจโยนข้ามแนวรับไปยังพื้นที่ด้านซ้ายของกรอบเขตโทษ อังเคลินโญ จึงสบโอกาสวิ่งมาตะบันตูมเดียมเสียบตาข่าย ไลป์ซิกนำเร็ว 1-0

นาที 9 แมนฯยูไนเต็ดมีโอกาสตีเสมอ เมสัน กรีนวูด รับบอลจ่ายจากเพื่อน แล้วโยกหลอกกองหลังจนได้สับไกยิงในเขตโทษ ปีเตอร์ กูลาชี ยังล้มตัวเซฟไว้ได้

นาที 13 อังเคลินโญ ได้บอลทางกราบซ้ายแล้วเปิดไปเสาสองอย่างสวยงามถึง อมาดู ไอดารา บรรจงตั้งเท้าแปวอลเลย์เข้าไป สกอร์กลายเป็น 2-0

นาที 30 มาร์เซล ซาบิตเซอร์ เปิดบอลเข้าเขตโทษให้ อิบราฮิมา โคนาเต โขกชนเสาเด้งมาเข้าทาง วิลลี ออร์บาน ซ้ำเผาขนไม่เหลือ แต่ออร์บานล้ำหน้าเสียก่อน จบครึ่งแรกไลป์ซิกยังนำ 2-0

ครึ่งหลังนาที 66 แมนฯยูไนเต็ดมีโอกาสตีไข่แตก บรูโน แฟร์นานเดส รับบอลจากเพื่อนแล้วลองซัดจากระยะไกล ปีเตอร์ กูลาชี ต้องปัดออกหลังไป

นาที 68 ทีมเยือนได้ฟรีคิกบริเวณหน้าเขตโทษเยื้องซ้ายมือ บรูโน แฟร์นานเดส ปั่นข้ามกำแพงไปชนคานเต็มๆ

นาที 69 อังเคลินโญ เปิดบอลจากฝั่งซ้ายเข้าไปในเขตโทษดูเหมือนไม่อันตรายนัก แต่แนวรับแมนฯยูไนเต็ดกลับไม่มีใครสกัดได้ ทำให้หลุดไปถึง ยุสติน ไคลเวิร์ต ยิงเข้าไป ไลป์ซิกทิ้งห่าง 3-0

นาที 70 แมนฯยูไนเต็ดมีลุ้นอีก สกอตต์ แม็กโทมิเนย์ ลองส่องจากนอกเขตโทษระยะประมาณ 20 หลา ทำท่าจะพุ่งหามุมประตู ปีเตอร์ กูลาชี ยังบินปัดทิ้งได้

นาที 72 ทีมเยือนยังไม่สามารถจบสกอร์ได้ เมสัน กรีนวูด โชว์ทักษะพลิกหลุดกองหลังเข้าไปยิงในเขตโทษ ปีเตอร์ กูลาชี ยังเซฟไว้ได้เยี่ยม

นาที 74 บรูโน แฟร์นานเดส ลองส่องจากบริเวณใกล้มุมเขตโทษด้านขวา ปีเตอร์ กูลาชี ยังคงหนึบปัดออกไปได้อีก

นาที 78 เมสัน กรีนวูด พาบอลเข้าเขตโทษแล้วโดน อิบราฮิมา โคนาเต ตามมาชนล้มจากด้านหลัง แมนฯยูไนเต็ดจึงได้จุดโทษ บรูโน แฟร์นานเดส สังหารเข้าไปให้สกอร์ลดความห่างมาเป็น 1-3

นาที 82 บรูโน แฟร์นานเดส เตะมุมจากฝั่งซ้ายไปเสาสอง ปอล ป๊อกบา ขึ้นโขกกดลงมาแฉลบศีรษะ แฮร์รี แม็กไกวร์ ไปแฉลบต้นขา อิบราฮิมา โคนาเต เข้าประตู แมนฯยูไนเต็ดไล่มา 2-3 นับเป็นการทำประตูของแม็กไกวร์

จากนั้นแมนฯยูไนเต็ดพยายามบุกหนักหวังตีเสมอ แต่ไม่มีประตูเกิดขึ้นอีก จบเกมไลป์ซิกจึงเป็นฝ่ายชนะไป 3-2

อีกคู่ของกลุ่มนี้ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง รองแชมป์เก่าจากฝรั่งเศส เจอกับอิสตันบูล บาซักเซฮีร์ จากตุรกี ต้องยกเลิกกลางคันตั้งแต่ครึ่งแรก หลังมีข้อกล่าวหาว่าผู้ตัดสินที่ 4 ใช้วาจาเหยียดผิวกับทีมงานผู้ฝึกสอนทีมเยือน จนนักเตะพากันเดินออกจากสนามและไม่แข่งต่อ

ทำให้สถานการณ์ตอนนี้ ไลป์ซิกเตะจบ 6 นัด เก็บไป 12 คะแนน ผ่านเข้ารอบแน่นอน ส่วนแมนฯยูไนเต็ดมี 9 แต้ม จบอันดับ 3 หล่นไปยูฟ่า ยูโรปา ลีก

ด้านเปแอสเชแม้จะแข่ง 5 นัด มีอยู่ 9 แต้ม แต่ด้วยเฮดทูเฮดที่ดีกว่าแมนฯยูไนเต็ด ทำให้การันตีเข้ารอบแน่นอนแล้ว ไม่ว่าผลการแข่งขันกับบาซักเซฮีร์จะลงเอยอย่างไร ขณะที่บาซักเซฮีร์แข่ง 5 นัด มีอยู่ 3 แต้ม ตกรอบสนิท

กลุ่มจี “เจ้าบุญทุ่ม”บาร์เซโลนา จากสเปน แพ้คารังต่อ “ม้าลาย”ยูเวนตุส จากอิตาลี 0-3 แมตช์นี้ 2 สตาร์แห่งยุคอย่าง ลิโอเนล เมสซี และคริสเตียโน โรนัลโด ปะทะกันอีกครั้ง เมื่อต่างได้ลงตัวจริงให้ต้นสังกัดตัวเอง

ทีมเยือนได้จาก คริสเตียโน โรนัลโด นาที 13(จุดโทษ) และ 52(จุดโทษ), เวสตัน แม็กเคนนี นาที 20

ส่วนอีกคู่ ดินาโม เคียฟ จากยูเครน เอาชนะเฟเรนช์วารอส จากฮังการี 1-0 เจ้าถิ่นได้จาก เดนิส โปปอฟ นาที 60

ทำให้จบ 6 นัด ยูเวนตุสปาดหน้าบาร์เซโลนาคว้าแชมป์กลุ่ม โดยทั้งคู่มี 15 แต้ม และเข้ารอบเหมือนกัน แต่วัดอันดับกันที่เฮดทูเฮด ด้านอันดับ 3 ดินาโม(4 แต้ม) ไปยูฟ่า ยูโรปา ลีก และอันดับ 4 เฟเรนช์วารอส(1 แต้ม) ตกรอบสนิท

กลุ่มเอฟ “อินทรีฟ้าขาว”ลาซิโอ จากอิตาลี เปิดบ้านเสมอคลับ บรูช จากเบลเยียม 2-2 ทำให้เจ้าถิ่นได้ตั๋วสู่รอบน็อกเอาต์อีกใบไปครอง

เจ้าถิ่นได้จาก ฆัวกิน กอร์เรอา นาที 12, ชิโร อิมโมบิเล นาที 27 ส่วนทีมเยือนได้จาก รุด ฟอร์เมอร์ นาที 15, ฮันส์ ฟานาเกน นาที 76 โดยคลับ บรูช ต้องเหลือ 10 คน เอดูอาร์ด โซโบล ถูกไล่ออกนาที 39

อีกคู่ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก จากรัสเซีย แพ้ต่อโบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์ จากเยอรมนี 1-2 เจ้าถิ่นได้จาก เซบาสเตียน ดริอุสซี นาที 16 ส่วนทีมเยือนได้จาก ลูคัส พิสเซ็ก นาที 68, อักเซล วิตเซล นาที 78

เมื่อจบ 6 นัด ดอร์ตมุนด์ได้แชมป์กลุ่ม(13 คะแนน) ตามด้วยอันดับ 2 ลาซิโอ(10 แต้ม) เข้ารอบทั้งคู่ อันดับ 3 คลับ บรูช(8 แต้ม) ไปยูฟ่า ยูโรปา ลีก และอันดับ 4 เซนิตฯ(1 แต้ม) ตกรอบสนิท

กลุ่มอี “สิงโตน้ำเงินคราม”เชลซี จากอังกฤษ เสมอกับคราสโนดาร์ จากรัสเซีย 1-1 เจ้าถิ่นได้จาก จอร์จินโญ นาที 28(จุดโทษ) ส่วนทีมเยือนได้จาก เรมี กาเบลลา นาที 24

อีกคู่ แรนส์ จากฝรั่งเศส แพ้ให้กับเซบียา จากสเปน 1-3 เจ้าถิ่นได้จาก ชอร์ชินโย รุตแตร์ นาที 86(จุดโทษ) ส่วนทีมเยือนได้จาก ฌูลส์ คูนเด นาที 32, ยุสเซฟ เอน เนซีรี นาที 45 และ 81

หลังจบ 6 นัด เชลซีจบแชมป์กลุ่ม(14 แต้ม) ตามด้วยอันดับ 2 เซบียา(13 แต้ม) เข้ารอบทั้งคู่ อันดับ 3 คราสโนดาร์(5 แต้ม) ไปยูฟ่า ยูโรปา ลีก และอันดับ 4 แรนส์(1 แต้ม) ตกรอบสนิท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน