“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า ตามที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ กำหนดจัดการแข่งขันจักรยานเสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย)

และการแข่งขันจักรยาน “ปั่นเพื่อชีวิต Sport Tourism Bike 4 All” ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2564 รวมทั้งสิ้น 4 สนาม ในการนี้ สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้ปรับเปลี่ยนพื้นที่การแข่งขันในบางสนาม

โดยพิจารณาจากการมีแหล่งท่องเที่ยวภายในพื้นที่เป็นหลัก วัตถุประสงค์เพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ซบเซาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2563

พลเอกเดชา กล่าวว่า การแข่งขันจักรยานเสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย) และ “ปั่นเพื่อชีวิต Sport Tourism Bike 4 All” ในแต่ละสนาม จะมีนักปั่นเดินทางไปร่วมแข่งขันรวมทั้งผู้ติดติดตามมีจำนวนไม่ต่ำกว่า 2,000 คน

ทำให้มีเงินสะพัดหลายล้านบาท เพราะมีผู้คนไปจับจ่ายใช้สอย ส่งผลให้เศรษฐกิจในพื้นที่นั้น ๆ มีความคึกคัก โรงแรมที่พักถูกจับจองเต็มเกือบหมด ร้านอาหารต่าง ๆ ก็มีลูกค้าเข้าอุดหนุนแน่นร้าน พ่อค้าแม่ค้าที่เป็นชาวบ้านในท้องถิ่นต่างมีรายได้เพิ่มมากขึ้น

เป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจในระดับรากหญ้า และเป็นการสนองนโยบายรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจและกระจายรายได้สู่ชุมชน รวมทั้งส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในประเทศได้อีกทางหนึ่ง

นายกสองล้อไทย กล่าวอีกว่า สำหรับการสนามที่ 1 ระหว่างวันที่ 17-18 กรกฎาคม 2564 จากเดิมกำหนดไว้ที่อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี ก็จะย้ายไปแข่งที่เขื่อนกระเสียว อำเภอด่านช้าง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามและขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งของจังหวัดสุพรรณบุรี

และมีสถานที่ให้กางเต็นท์พักแรมเพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า นอกจากนี้ยังสามารถเดินทางต่อไปเที่ยวยังอ่างเก็บน้ำหุบเขาวง, อุทยานแห่งชาติพุเตย รวมทั้งหุบเสือโหน่ง ที่อยู่ในอำเภอด่านช้างเช่นเดียวกัน

ส่วนสนามที่ 2 ที่วัดพิกุลทอง จังหวัดสิงห์บุรี ระหว่างวันที่ 21-22 สิงหาคม 2564 ก็มีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ๆ มากมาย โดยเฉพาะที่วัดพิกุลทอง นักปั่นสามารถไปสักการะพระพุทธรูปปางประทานพรองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย คือ พระพุทธสุวรรณมงคลมหามุนี หรือ หลวงพ่อใหญ่ และไปกราบสรีระสังขารหลวงพ่อแพ (พระเทพสิงหบุราจารย์) พระเกจิชื่อดังที่ได้รับการขนานนามว่า “เทพเจ้าแห่งลุ่มแม่น้ำน้อย” เพื่อความเป็นสิริมงคล

“สำหรับสนามที่ 3 จะไปแข่งขันที่เขื่อนแก่งกระจาน อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ระหว่างวันที่ 4-5 กันยายน 2564 นักปั่นสามารถท่องเที่ยวภายในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

ชมทะเลสาบแก่งกระจาน, สะพานแขวนเขื่อนแก่งกระจาน, เขาพะเนินทุ่ง, น้ำตกป่าละอู และถ้ำหัวช้าง เป็นต้น

ขณะที่สนามที่ 4 สนามสุดท้าย แข่งขันที่เขื่อนขุนด่านปราการชล จังหวัดนครนายก ระหว่างวันที่ 18-19 กันยายน 2564 ซึ่งในจังหวัดนครนายกนี้มีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย

นอกจากเขื่อนขุนด่านปราการชล ที่สามารถขึ้นไปชมวิวบนสันเขื่อนและล่องเรือชมธรรมชาติภายในเขื่อนแล้ว ยังมีสถานที่อื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น สะพานทุ่งนามุ้ย ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายรูปบนสะพานไม้ไผ่กลางทุ่งนา, อุโมงค์ป่าไผ่ ด้านหน้าวัดจุฬาภรณ์วนาราม ซึ่งเกิดขึ้นตามธรรมชาติ, อุทยานพระพิฆเนศ รวมทั้งน้ำตกต่าง ๆ อาทิ น้ำตกวังตะไคร้, น้ำตกสาริกา, น้ำตกนางรอง, น้ำตกช่องลม เป็นต้น” พลเอกเดชา กล่าว

พลเอกเดชา กล่าวต่อไปว่า สำหรับปฏิทินการแข่งขันจักรยานชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2564 ได้วางโปรแกรมการแข่งขันทุกประเภทเอาไว้แล้ว ทั้งประเภทถนน, เสือภูเขา, ลู่, บีเอ็มเอ็กซ์, เสือภูเขาทางเรียบ (ใจเกินร้อย) และ ปั่นเพื่อชีวิต Sport Tourism Bike 4 All รวมทั้งสิ้น 28 สนาม

ซึ่งจังหวัดต่าง ๆ ที่ร่วมเป็นเจ้าภาพมีความพร้อมแล้ว สมาคมกีฬาจักรยานฯ จึงกำหนดแถลงข่าวรายละเอียดการแข่งขันในวันที่ 7 มกราคม 2564 เวลา 14.00 น. ที่โรงแรมโกลเด้นทิวลิป ซอฟเฟอรีน พระราม 9

โดยเรียนเชิญ ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้เกียรติมาเป็นประธานในการแถลงข่าว และมีผู้ว่าราชการจังหวัด, รองผู้ว่าราชการจังหวัด หรือผู้แทนจากจังหวัดที่ร่วมเป็นเจ้าภาพ ร่วมแถลงข่าวด้วย

นอกจากนี้ พลเอกเดชา ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า จากการที่ตนได้เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ครั้งล่าสุด พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย และประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ

ได้มอบนโยบายให้แก่สมาคมกีฬาต่าง ๆ จัดการแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทยให้มากที่สุด เพื่อที่จะได้นักกีฬาฝีมือดีมาเสริมทัพทีมชาติในการส่งเข้าแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนาม ระหว่างวันที่ 21 พฤศจิกายน – 2 ธันวาคม 2564

โดยมีเป้าหมายในการเป็นเจ้าเหรียญทองชนิดกีฬาสากลให้ได้ สมาคมกีฬาจักรยานฯ จึงสนองนโยบายท่านประธานคณะกรรมการโอลิมปิคฯ ด้วยการจัดการแข่งขันประเภทที่มีการชิงเหรียญรางวัลในกีฬาซีเกมส์ ทั้งประเภทถนน และเสือภูเขา เพื่อให้ได้นักกีฬาหน้าใหม่มาเป็นตัวเลือกเพิ่มมากขึ้น

นายกสองล้อไทย กล่าวอีกว่า สำหรับแนวทางการคัดเลือกนักกีฬาจักรยานทีมชาติไทย สมาคมฯ จะให้สิทธิ์นักกีฬาที่ได้เหรียญทองจากการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ เป็นตัวยืน

และจะมอบให้สตาฟฟ์โค้ชทีมชาติไทย ได้แก่ “โค้ชตั้ม” พันจ่าอากาศเอก วิสุทธิ์ กสิยะพัท หัวหน้าผู้ฝึกสอนประเภทถนน กับ “โค้ชปู” เรืออากาศเอก สุภัทร ศรีไสว หัวหน้าผู้ฝึกสอนประเภทเสือภูเขา พิจารณาคัดเลือกนักกีฬาดาวรุ่งฝีมือดีจากการแข่งขันจักรยานประเภทถนน และประเภทเสือภูเขา ชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานฯ ประจำปี 2564 มาเสริม

ดังนั้นนักปั่นที่จะเข้าร่วมการแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทย ขอให้ฟิตซ้อมร่างกายให้ดี เพราะถ้าโชว์ฟอร์มเข้าตาสตาฟ์โค้ชก็มีสิทธิ์ติดธงเป็นนักปั่นทีมชาติได้เช่นกัน

“สำหรับนโยบายหลักอีกประการหนึ่งในการแข่งขันประจำปี 2564 สมาคมกีฬาจักรยานฯ จะเน้นเรื่องของการทำบัตรอนุญาตการแข่งขัน หรือไลเซ่น (license) และการทำประกันอุบัติเหตุ ซึ่งนักปั่นทุกคนที่เข้าร่วมการแข่งขันรายการต่าง ๆ ทุกสนามจะต้องมีหลักฐาน 2 สิ่งนี้ คือบัตรไลเซ่นและเอกสารในการทำประกันอุบัติเหตุมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่

หากขาดอย่างใดอย่างหนึ่งทางสมาคมฯ จะไม่อนุญาตให้ทำการแข่งขัน การที่สมาคมฯ เน้นให้ทุกคนต้องทำประกันอุบัติเหตุก็เพื่อป้องกันตัวนักปั่นเอง ในกรณีที่มีการเฉี่ยวชนจนได้รับบาดเจ็บ หรือแม้กระทั่งการเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด

เช่น นักวิ่งที่เสียชีวิตในระหว่างการแข่งขันถึง 3 รายเมื่อไม่นานมานี้ จะได้มีหลักประกันในการรักษาพยาบาลและเงินชดเชยต่าง ๆ รวมไปถึงภาคเอกชนที่ต้องการให้สมาคมกีฬาจักรยานฯ รับรองการจัดแข่งขัน นักปั่นที่ลงแข่งทุกคนก็ต้องมีการทำประกันอุบัติเหตุด้วยเช่นกัน” นายกสองล้อ กล่าวเสริม

ทั้งนี้ สมาคมกีฬาจักรยานฯ จะประเดิมจัดการแข่งขันรายการแรกของปี 2564 คือการแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์ภูมิพล” และการแข่งขันจักรยานประเภทเสือภูเขาชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประจำปี 2564 สนามที่ 1 ระหว่างวันที่ 15-17 มกราคม 2564 ที่จังหวัดสงขลา

ซึ่งสมาคมฯ จะเปิดรับสมัครในเร็ว ๆ นี้ อย่างไรก็ตาม นักปั่นทุกคนต้องทำบัตรอนุญาตแข่งขัน หรือไลเซ่น (license) ประจำปี 2564 ให้เรียบร้อยเสียก่อน

โดยสามารถเข้าไปทำไลเซ่นได้ที่เว็บไซต์ www.thaicycling.or.th ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป หรือสอบถามรายละเอียดได้ที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ โทร.0-2719-3340-2 ในวันและเวลาราชการ.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน