คาราบาวคัพ เริ่มแล้วรอบ8ทีม ปืนใหญ่ชนเรือใบ สาลิกาพบผึ้งเพชฌฆาต
คาราบาวคัพ – กลางสัปดาห์แบบนี้มีฟุตบอลให้ตามลุ้นเพียบ โดยเฉพาะ คาราบาว คัพ
อาร์เซนอล ต้องเจอแชมป์เก่าอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เบรนต์ฟอร์ด พบ นิวคาสเซิล
วันอังคารที่ 22 ธันวาคม 2563
คาราบาว คัพ อังกฤษ
รอบก่อนรองชนะเลิศ
เบรนต์ฟอร์ด-นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
“ผึ้งเพชฌฆาต” เบรนต์ฟอร์ด จากลีก แชมเปียนชิพ เปิดสนามเบรนต์ฟอร์ด คอมมูนิตี้ สเตเดียม รับการมาเยือนของ “สาลิกาดง” นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด จากพรีเมียร์ลีก
ย้อนเส้นทางที่ผ่านมา เบรนต์ฟอร์ดเตะรอบแรกเสมอวีคอมบ์ วันเดอเรอร์ส 1-1 (เหย้า, ชนะจุดโทษ 4-2) รอบสองชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 2-0 (เยือน) รอบสามเสมอเวสต์บรอมวิช อัลเบียน 2-2 (เยือน, ชนะจุดโทษ 5-4) และรอบ 16 ทีมสุดท้ายชนะฟูแลม 3-0 (เหย้า)
ด้านนิวคาสเซิลเริ่มจากรอบสอง ชนะแบล็กเบิร์น โรเวอร์ส 1-0 (เหย้า) รอบสามชนะมอร์แคมบ์ 7-0 (เยือน) และรอบ 16 ทีมสุดท้ายเสมอนิวพอร์ต เคาน์ตี 1-1 (เยือน, ชนะจุดโทษ 5-4)
ฟอร์มในลีกล่าสุด เบรนต์ฟอร์ดลงเตะในลีกแชมเปียนชิพไปแล้ว 20 นัด ชนะ 9 เสมอ 8 แพ้ 3 เก็บไป 35 คะแนน อยู่อันดับ 4
ผลงานเกมลีก 5 แมตช์หลัง เสมอแบล็กเบิร์น โรเวอร์ส 2-2 (เหย้า), เสมอดาร์บี เคาน์ตี 0-0 (เหย้า), ชนะน็อตติงแฮม ฟอเรสต์ 3-1 (เยือน), เสมอวัตฟอร์ด 1-1 (เยือน), ชนะเรดดิง 3-1 (เหย้า)
ส่วนนิวคาสเซิลเล่นในพรีเมียร์ลีกไป 13 นัด ชนะ 5 เสมอ 3 แพ้ 5 มีอยู่ 18 แต้ม ยึดอันดับ 12
ผลงานเกมลีก 5 แมตช์หลัง แพ้เชลซี 0-2 (เหย้า), ชนะคริสตัล พาเลซ 2-0 (เยือน), ชนะเวสต์บรอมวิช อัลเบียน 2-1 (เหย้า), แพ้ลีดส์ ยูไนเต็ด 2-5 (เยือน), เสมอฟูแลม 1-1 (เหย้า)
รอบ 10 ปีหลังสุด คู่นี้ได้เจอกันแมตช์ทางการเพียง 2 นัด ในลีกแชมเปียนชิพฤดูกาล 2016-17 นิวคาสเซิลชนะในบ้าน 3-1 และชนะเกมเยือนอีก 2-1
สำหรับผลงานในถ้วยนี้ เบรนต์ฟอร์ดเคยทำได้ดีสุดเพียงรอบ 16 ทีมสุดท้าย เมื่อฤดูกาล 2010-11 ฤดูกาลที่แล้วจอดป้ายแค่รอบแรก ด้านนิวคาสเซิลทำได้ดีสุดถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ 6 ครั้ง ฤดูกาลก่อนจอดป้ายเพียงรอบสอง
เกมนี้คาดว่าเบรนต์ ฟอร์ดจะใช้แผน 4-3-3 ลุก แดเนียลส์ : ทาริก โฟซู, ชาร์ลี กูด, อีธาน พินน็อก, ริโก เฮนรี : เอมิเลียโน มาร์กอนเดส, คริสเตียน นอร์การ์ด, มาธิอัส เยนเซน : ซามาน กอดดอส, มาร์คุส ฟอร์ส, เซร์กี กานอส
ขณะที่นิวคาสเซิลคงวางหมาก 4-4-2 มาร์ก กิลเลสพี : เดอันเดร เยดลิน, เฟเดริโก เฟร์นานเดซ, เซียแรน คลาร์ก, แมตต์ ริตชี : จาค็อบ เมอร์ฟี, จอนโจ เชลวีย์, ฌอน ลองสตาฟฟ์, ไรอัน เฟรเซอร์ : แอนดี แคร์โรลล์, ดไวต์ เกย์ล
เบรนต์ฟอร์ดแม้จะอยู่ลีกรอง แต่ถือว่ามีความแกร่งใช่ย่อย ตอนนี้กำลังฟอร์มดีด้วย เจอนิวคาสเซิลที่ผลงานไม่ได้โดดเด่นอะไร แถมยังไม่ค่อยเน้นถ้วยนี้อีก เจ้าถิ่นลุ้นชนะได้เลย
เฮดทูเฮด 10 นัดหลัง
เบรนต์ฟอร์ด-นิวคาสเซิล
เบรนต์ฟอร์ด 1-2 นิวคาสเซิล (แชมเปียนชิพ)
นิวคาสเซิล 3-1 เบรนต์ฟอร์ด (แชมเปียนชิพ)
นิวคาสเซิล 4-1 เบรนต์ฟอร์ด (ลีก คัพ)
นิวคาสเซิล 5-1 เบรนต์ฟอร์ด (ดิวิชั่น 1)
เบรนต์ฟอร์ด 1-2 นิวคาสเซิล (ดิวิชั่น 1)
นิวคาสเซิล 3-2 เบรนต์ฟอร์ด (เอฟเอ คัพ)
เบรนต์ฟอร์ด 1-0 นิวคาสเซิล (ดิวิชั่น 2)
นิวคาสเซิล 1-0 เบรนต์ฟอร์ด (ดิวิชั่น 2)
เบรนต์ฟอร์ด 0-2 นิวคาสเซิล (เอฟเอ คัพ)
เบรนต์ฟอร์ด 3-0 นิวคาสเซิล (ดิวิชั่น 2)
***************
เสียงจากแฟนบอลไทย : มาร์คมั่นใจสาลิกาลิ่วตัดเชือก
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี แฟนบอลพันธุ์แท้ของ “สาลิกาดง” นิวคาสเซิล เผยว่า ต้องยอมรับว่า ทีมอย่างนิวคาสเซิลในช่วงนี้คงไม่สามารถยืนระยะในพรีเมียร์ ลีกได้ ซึ่งเราเชื่อว่าไม่มีอะไรเกินหวังไปกว่าฟุตบอลถ้วยอีกแล้ว ปีนี้เส้นทางในคาราบาว คัพ เราถือว่าโชคดีมากที่รอบผ่านๆมาไม่เจอกับทีมจากพรีเมียร์ ลีก เลย แต่โปรแกรมรอบ 8 ทีมสุดท้ายฟุตบอล อยู่ในช่วงเวลาที่ไม่ดีเท่าไร เพราะ ทีมกำลังมีปัญหานักเตะติดโควิด-19 หลายคน จัดทีมได้ลำบาก ส่วนพวกที่หายมา ก็ยังไม่เต็ม 100% ขณะที่ เบรนต์ฟอร์ด ตอนนี้ถือว่าฟอร์มดี แต่ก็เชื่อว่าจะยังผ่านได้
“หากเราผ่านรอบนี้ไปได้ ก็เหลืออีก 2 นัดเท่านั้น่ ผมคิดว่าปีนี้กองเชียร์นิวคาสเซิล คงไม่สบอารมณ์มาตั้งแต่ เจ้าของทีม และผู้จัดการทีม แต่ก็ต้องยอมรับว่า สตีฟ บรู๊ซ ก็ทำให้เก็บแต้มได้มาก ซึ่งเราคงต้องอยู่กันไปแบบนี้อีกสักพัก ส่วนนักเตะที่ทำได้ดีเป็นพิเศษคือ คัลลัม วิลสัน ที่ยิงได้เป็นกอบเป็นกำ และ อแล็ง แซงต์ มักซิแมง ที่ขยันเล่น และสุดท้ายก็หวังว่า โจเอลลินตันจะเล่นได้คุ้มค่าตัวในเร็วๆ นี้”
***************
อาร์เซนอล-แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ทีมจากพรีเมียร์ลีก เจอกันเอง “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล เปิดสนามเอมิเรตส์ สเตเดียม รับการมาเยือนของแชมป์เก่า “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ย้อนเส้นทางที่ผ่านมา อาร์เซนอลเตะรอบสามชนะเลสเตอร์ ซิตี้ 2-0 และรอบ 16 ทีมสุดท้ายเสมอลิเวอร์พูล 0-0 (ชนะจุดโทษ 5-4) ส่วนแมนฯ ซิตี้รอบสามชนะบอร์นมัธ 2-1 และรอบ 16 ทีมสุดท้ายชนะเบิร์นลีย์ 3-0
ฟอร์มในลีกล่าสุด อาร์เซนอลลงเตะไปแล้ว 14 นัด ชนะ 4 เสมอ 2 แพ้ 8 มีอยู่ 14 แต้ม ยึดอันดับ 15 ด้านแมนฯ ซิตี้แข่ง 13 นัด ชนะ 6 เสมอ 5 แพ้ 2 เก็บไป 23 คะแนน รั้งอันดับ 7
ผลงานเกมลีก 5 แมตช์หลัง อาร์เซนอลแพ้วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 1-2 (เหย้า), แพ้ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 0-2 (เยือน), แพ้เบิร์นลีย์ 0-1 (เหย้า), เสมอเซาธ์แฮมป์ตัน 1-1 (เหย้า), แพ้เอฟเวอร์ตัน 1-2 (เยือน)
ส่วนแมนฯ ซิตี้ชนะเบิร์นลีย์ 5-0 (เหย้า), ชนะฟูแลม 2-0 (เหย้า), เสมอแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-0 (เยือน), เสมอเวสต์บรอมวิช อัลเบียน 1-1 (เหย้า), ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 1-0 (เยือน)
สถิติพบกัน 5 ครั้งหลังสุด อาร์เซนอลชนะ 1 นัด แมนฯ ซิตี้ชนะ 4 นัด ล่าสุดพบกันในลีกไปเมื่อเดือนตุลาคม แมนฯ ซิตี้เปิดบ้านชนะ 2-0
สำหรับผลงานในถ้วยนี้ อาร์เซนอลได้แชมป์ 2 หนเมื่อฤดูกาล 1986-87, 1992-93 ฤดูกาลที่แล้วจอดป้ายรอบ 16 ทีมสุดท้าย ด้านแมนฯ ซิตี้ซิวแชมป์ 7 สมัย 1969-70, 1975-76, 2013-14, 2015-16, 2017-18, 2018-19, 2019-20 เท่ากับว่าครองแชมป์มาตลอด 3 หนหลังสุด
คาดว่าเกมนี้อาร์เซนอลจะใช้แผน 3-4-3 แบร์นด์ เลโน : ชโคดราน มุสตาฟี, กาเบรียล มาร์กัลเญส, ดาวิด ลุยซ์ : เอ็กตอร์ เบเยริน, ดานี เซบายอส, โมฮาเหม็ด เอลเนนี, เซอัด โคลาซินัช : โจ วิลล็อก, เอ็ดดี เอ็นเคเทียห์, บูคาโย ซากา
ส่วนแมนฯซิตี้จะวางหมาก 4-2-3-1 แซ็ก สเตฟเฟน : เชา คันเซโล, จอห์น สโตนส์, นาธาน อาเก, แบงฌาแมง เมนดี : แฟร์นานดินโญ, อิลคาน กุนโดกัน : ริยาด มาห์เรซ, ฟิล โฟเดน, เฟร์รัน ตอร์เรส : เซร์คิโอ อเกโร
ชั่วโมงนี้อาร์เซนอลกำลังเสียศูนย์ แต่ก็ยังไม่น่าทิ้งแนวทางให้โอกาสตัวสำรอง ส่วนแมนฯ ซิตี้ชัดเจนว่าไม่ใช้ผู้เล่นหลักแน่ กระนั้นขุมกำลังสำรองก็แกร่งใช่ย่อย ทีมเยือนน่าบุกชนะได้
เฮดทูเฮด 10 นัดหลัง
อาร์เซนอล-แมนฯซิตี้
แมนฯ ซิตี้ 1-0 อาร์เซนอล (พรีเมียร์ลีก)
อาร์เซนอล 2-0 แมนฯ ซิตี้ (เอฟเอ คัพ)
แมนฯ ซิตี้ 3-0 อาร์เซนอล (พรีเมียร์ลีก)
อาร์เซนอล 0-3 แมนฯ ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก)
แมนฯ ซิตี้ 3-1 อาร์เซนอล (พรีเมียร์ลีก)
อาร์เซนอล 0-2 แมนฯ ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก)
อาร์เซนอล 0-3 แมนฯ ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก)
อาร์เซนอล 0-3 แมนฯ ซิตี้ (ลีก คัพ)
แมนฯ ซิตี้ 3-1 อาร์เซนอล (พรีเมียร์ลีก)
อาร์เซนอล 2-1 แมนฯ ซิตี้ (เอฟเอ คัพ – ต่อเวลา)