การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก เกม แดงเดือด ครั้งที่ 205 “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เปิดรังแอนฟิลด์ รับ “ผีแดง” แมนฯยูไนเต็ด ซึ่งเดิมพันด้วยตำแหน่งจ่าฝูง โดยเวลานี้ แมนฯยู นำอยู่ทีมี 36 แต้ม(17นัด) นำ อันดับ 2 เลสเตอร์ 35 แต้ม(18 นัด) และอันดับ 3 ลิเวอร์พูล(17 นัด) และ อันดับ 4 สเปอร์ ที่มี 33 แต้ม (18นัด)

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

ผลงานของสองทีมสวนทางกัน แมนฯยู ชนะมา 3 เกมรวด ขณะที่ ลิเวอร์พูล แชมป์เก่าไม่ชนะมา 3 เกม ช่วงต้นเกม ลิเวอร์พูล เปิดเกมเข้าใส่ทันที ขณะที่แมนฯยู ตั้งเกมรับรอจังหวะสวนกลับ

นาที 25 แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กองหลังแมนฯยูออกบอลช้า โดน ซาดิโอ มาเน่ เกือบจะฉกไปได้ แต่ก็เปิดโอกาสให้ ลิเวอร์พูลเข้าทำ และเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ยิงหลุดกรอบออกไป

นาที 32 แซร์ดาน ชากีรี ต้องตัดฟาวล์ใส่ ลุก ชอว์ ที่ดันเกมขึ้นมา แมนฯยู ที่แทบไม่มีโอกาสได้ยิงเลย ได้ฟรีคิก และเป็น บรูโน่ แฟร์นันเดส ได้ปั่นฟรีคิกเฉียดเสาออกไปแบบมีลุ้น ก่อนที่จังหวะต่อมา ลิเวอร์พุลจะฉวยโอกาสเล่นเร็ว โมฮาเหม็ด ซาลาห์ พาบอลป่วน แม็กไกวร์ และ วิกตอร์ ลินเดอเลิฟ ที่ช่วยกันรุมสกัดก่อนบอลไปเข้าทาง โรแบร์โต ฟิรมิโน่ ได้ก้มหน้ายิงแต่บอล ตรงตัว ดาวิด เดอ เคอา นายด่านแมนฯยู

ครึ่งหลัง โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ เริ่มขยับปรับเกม นาที 61 ส่ง เอดินสัน คาวานี่ ลงมาแทน อองโธนี่ มาร์กซิยัล ที่มีบทบาทในเกมน้อย

ช่วงท้ายแมนฯยูไนเต็ด เริ่มจะต่อบอลได้มากขึ้น นาที 75 มาร์คัส แรชฟอร์ด พาบอลจี้กองหลัง ลิเวอร์พูลกอนจ่ายให้ ลุก ชอว์ ที่วิ่งสอดขึ้นมาตัดเข้ากลาง ถึง บรูโน แฟร์นันเดส วิ่งเข้ามาแปเน้นๆ แต่ ติดเท้า อลิสัน เบ็กเกอร์ ที่ล้มตัวสกัดเอาไว้ได้ นาที 78 ติอาโก อัลคันทาร่า สบช่องซัดไกลให้ เด เคอา ต้องออกแรงเซฟบ้าง

นาที 83 วานบิสซากา พาบอลขึ้นสูงก่อนจะไหลมาถึง ปอล ป็อกบา ได้หวดจังๆ ก็ยังไม่ผ่าน อลิสสัน เบ็กเกอร์

จบเกมเสมอกันไป 0-0 แบ่งกันไปทีมละ 1 แต้ม ผ่าน 18 นัด แมนฯยูไนเต็ด ยังเป็นจ่าฝูงมี 37 แต้ม นำ เลสเตอร์ อันดับ 2 อยู่ 2 คะแนน และ นำ ลิเวอร์พูล อันดับ 3 อยู่ 3 คะแนน โดย ลิเวอร์พูล ไม่ชนะมาแล้ว 4 เกมติด นับตั้งแต่ชนะ คริสตัล พาเลซ 7-0 เมื่อ 19 ธ.ค. แต่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน