เสี่ยโบ๊ท ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ โปรโมเตอร์ใหญ่ เพชรยินดี เผยถึง ปัญหาคนวงารมวย ในช่วงวิกฤตไวรัสโควิด ระลอกสอง ที่เกิดขึ้นในไทย และคนวงการมวยกำลังประสบปัญหาไม่สามารถจัดการแข่งขันได้ จนกว่า ภาครัฐจะไฟเขียว

ล่าสุด เจ้าตัวโพสต์ข้อความลงในโลกโซเชียล ซึ่งมีแฟนมวยผู้ติดตามมากมาย ใจความดังนี้
“ยิ่งนานวัน ยิ่งมีปัญหามากเท่าไหร่ โควิดมันทำให้เราได้เห็นชัดเจนว่าวงการมวยไทยของเราขาดสวัสดิการ ขาดการช่วยเหลือจากทั้งภาครัฐและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง วันนี้สิ่งที่เรากำลังประสบอยู่คือ เหมือนบ้านเรากำลังน้ำท่วมอยู่ในที่ห่างไกล แต่ไร้คนสนใจใยดี เรากำลังติดเกาะ คนมีกำลังหน่อย ก็เก็บเอาของเก่ามาประทังชีวิต ส่วนคนไม่มีกำลัง ไม่ต้องพูดถึง หนักหนาสาหัส จนต้องเลิกจากอาชีพมวยไทยไปมากมาย”

“คำถามของผมในวันนี้คือ? เรามีกฏหมายมวยไว้เพื่ออะไร มีประโยชน์อะไรบ้างสำหรับวงการมวยไทย??? เรามีกกท.ไว้เพื่ออะไร งบต่างๆที่ควรเจียดมาช่วยเหลือ นักมวยและหัวหน้าคณะต่างจังหวัดไปไหนหมด??? เอางบมาจัดมวยตามอีเว้นต่างๆได้แต่ไม่มีเงินเยียวยานักมวย?? เรามีองค์กรสมาคมมวยไว้เพื่ออะไร มีสมาคมมวยมา30-40ปี อยากรู้ว่าวงการมวยไทยได้ประโยชน์อะไรบ้าง???
วันนี้ผมไม่ได้กังวลเลยว่ามวยจะได้ชกเมื่อไหร่ เพราะยังไงก็ต้องกลับมาชกจะช้าหรือเร็ว
แต่สิ่งที่น่ากังวลใจที่สุดในตอนนี้คือ เหตุการณ์โควิดในครั้งนี้มันจะทำให้วงการมวยไทยสูญเสียและเสียหายหนักขนาดไหน และที่สำคัญจะเหลือค่ายมวยและนักมวยไทย สักกี่ค่ายและกี่คนที่เอาตัวรอดไปได้ อนิจจัง…วงการมวยไทย”

เสี่ยโบ๊ท ซึ่งได้รับเชิญไปร่วมให้ข้อมูล และประชุมแก้ไข ปรับร่าง พรบ.มวย ของ คณะกรรมาธิการกีฬา สภาผู้แทนราษฏร ซึ่งมี ดร.บุญลือ ประเสริฐโสภา เป็นประธาน เผยอีกว่า

“มวยไทยไม่เป็นหนึ่งเดียว!!! เมื่อวันก่อนผมได้มีโอกาสเข้าร่วมประชุม คณะอนุกรรมาธิการแก้ไขพรบ.มวย ถึงการแก้ไขกฏหมายมวยรายมาตรา จริงๆแล้วตามพรบ.มวย เรามีบทลงโทษไว้หมดแล้วสำหรับ การล้มมวย การทุจริตของกรรมการ การวางยานักมวย การจ้างวานการล้มมวย การจ้างวานกรรมการให้ทุจริต มีโทษจำคุกถึง 5 ปี ปรับอีกไม่เกิน 1 แสนบาท แต่ที่ผ่านมาตั้งแต่วันแรกที่มีพรบ.มวยจนถึงวันนี้ เรายังไม่สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดให้ได้รับบทลงโทษเลยได้สักคน เพราะระบบกฏหมายไทยคือการร้องทุกข์กล่าวโทษ ในเมื่อไม่มีใครร้องทุกข์หรือกล่าวโทษ ก็ไม่มีสามารถเอาความผิดได้”

“สิ่งที่ควรคิดและคำนึงถึงทุกวันนี้ที่สุดคือ เราควรปรับโครงสร้างกีฬามวยไทยได้แล้ว ที่ผ่านมา30-40ปี ต่างคนต่างทำ เราไม่มีหัวที่จะบริหารจัดการมวยไทยให้เป็นระบบ ยกตัวอย่างเช่น สมาคมฟุตบอล สมาคมเป็นตัวควบคุมดูแลจัดการกีฬาฟุตบอลทั้งระบบ ตั้งแต่ทีมชาติ สโมสร โค๊ชกรรมการผู้ตัดสิน เรียกได้ว่าใครที่เกี่ยวข้องกับกีฬาฟุตบอลต้องขึ้นตรงกับสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยทั้งหมด แล้วลองกลับมาดูมวยไทย เวทีนี้เอาแบบนึง เวทีนั้นเอาแบบนึง มวยล้ม อย่างมากก็เลิกมวยหรือซ้ำร้ายไปต่อยบ้านนอกสักสามสี่เดือนก็กลับมาชกใหม่ กรรมการทุจริต พักหนึ่งเดือน เดือนหน้ากลับมาโกงใหม่ คนจ้างวาน ไม่ต้องพูดถึงไม่เคยจับได้ทั้งที่รู้ว่าเป็นใคร เรามีสำนักงานกีฬามวยแต่ทำได้แค่เพียงออกใบอนุญาตินักมวย กับ คำสั่งงดห้ามจัดมวยในเวลาโควิด”

“เรามีสมาคมมวยมากมายหลายสมาคมเพื่ออะไร?? และ ประโยชน์ของสมาคมมวยมีไว้เพื่ออะไร?? สมาคมมวยเป็นของนายกสมาคมหรือเป็นของทุกคนในวงการมวยไทย??

จนถึงตอนนี้แล้วผมอายุ33ปี ผมยังนึกไม่ออกจริงๆว่าจะไปหาคำตอบที่ไหน สิ่งที่จำเป็นที่สุดวันนี้คือ เราจะทำยังไงที่จะปรับโครงสร้างมวยไทยทั้งระบบ สร้างมาตรฐาน สร้างรากฐานที่เป็นหนึ่งเดียวได้ยังไง?? ทุกวันนี้วงการมวยไทยอยู่ภายใต้อำนาจหน้าที่ของใครกันแน่?? กกท. หรือ สำนักงานกีฬามวย หรือ สมาคมมวย (สมาคมไหน??) ????? จริงๆคำถามเหล่านี้อยู่ในใจผมมานานมาก แต่วันนี้มันตกผลึกทางความคิดว่า ถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราจะปฏิวัติโครงสร้างการบริหารจัดการวงการมวยไทยกันสักที???”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน