มวยโลก นั้นนอกจากจะสร้าง ชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ สร้างความภาคภูมิใจให้กับตัวตนและวงศ์ตระกูล ยังสามารถต่อยอดเป็นธุรกิจ ทำเงินโกยทองได้มหาศาล หากรู้วงจรกระบวนการวิวัฒนาการ นับแต่อดีตที่ผ่านมา

ตั้งแต่ฝรั่งจัดมวยเดิมพัน ล้อมผ้าประจันหน้าต่อยกัน ตามคณะละครเร่ ละครสัตว์ ดูอย่างพระเอก ทอม ครูซ ในหนัง (Far and Away)จนมีวิวัฒนาการขึ้นมา นับตั้งแต่ จอห์น แอล ซัลลิแวน (John L. Sulrivan)ปี ค.ศ.1889 สวมนวมชก แบ่งเป็นยกตัดสิน และชิงแชมป์กันในปัจจุบัน นับรวมไม่น้อยกว่า 100 ปีพอดี (NBA องค์กรมวยโลกแห่งแรกของสหรัฐ ก่อตั้งปี 1921 ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็น WBA)

อเมริกา ถือเป็นชาติแรกๆ ที่เริ่มมีการถ่ายทอดสดทีวี คนไทยเรียกขานว่า การแข่งขันนี้ว่า “มวยตู้” ดูกันตั้งแต่ยุคขาวดำ แรกเริ่มก็เป็นของใหม่ และเริ่มบูมขึ้นมาเรื่อยๆ ฝรั่งอเมริกัน เจ้าพ่อวงการมวย มักจะนิยมเสริมส่งมวยยักษ์ รุ่นใหญ่สุดเป็นคู่สำคัญ

จากมวยตู้ยุคขาวดำ พัฒนามาเป็น สี ยุคของ “แคสเซียส เคลย์” หรือ โมฮัมเหม็ด (มูฮัมหมัด) อาลี (Muhammad Ali) นี่ถือว่า รุ่นบุกเบิกโด่งดังสุดๆแห่งยุค ศตวรรษที่ 20

นอกจากถ่ายทอดสดทั่วโลก ข้ามทวีปให้คนดูแล้ว ตัวนักกีฬาเองจะต้องมี”จุดขาย” เคลย์ หรือ อาลี เป็นมวยรุ่นยักษ์ฝีมือดี แต่เมื่อครั้งยังไม่เด่นดัง ไม่มีใครรู้จัก วันนึงได้รับเชิญไปออกอากาศ ทางรายการวิทยุ สถานีแห่งหนึ่ง เขากลับพูดตะกุกตะกัก พรีเซ็นต์โปรโมทตัวเองไม่เป็น หลังรายการดีเจ เพื่อนซี้แนะนำว่า


“เฮ้ ! เคลย์ ถ้านายอยากดัง อยากเป็นซุปตาร์ นายต้องกล้าพูด กล้าทำให้มากกว่านี้นะ เมื่อมือถือไมค์ ไฟต์ส่องหน้า (เอะ ไม่ใช่ซิ นั่นมันนักร้อง เอาใหม่ๆ)
“นายต้องกล้าพูด กล้าแอคติ้งให้มากกว่านี้หน่ะ !!”
และอีกครั้งต่อมา เมื่อเขาได้พบกับ กอร์จัส จอร์จ นักมวยปล้ำชื่อดังรุ่นพ่อ (วัย 46 ปี) ในล็อคเกอร์รูม ที่สอนเคล็ดลับว่า “ผู้คนมากมายยอมจ่ายเงิน เพื่อมาดูนายถูกทุบ ฉะนั้นนายต้องคุยโวให้คนหมั่นไส้สุดๆไปเลย”

นับแต่นั้นมา เคลย์ ก็เปลี่ยนลุคตัวเองใหม่ เขาหันหน้าเข้าหากระจก แม้แต่ เสาไฟฟ้า (สมัยแรกๆ) แล้วเอาแต่พูด พูด พูด ก่อนจะสู้หน้าสาธารณชน แน่นอนสิ่งที่เขาพูด คือการคุยโวโอ้อวดตัว แต่สิ่งสำคัญอื่นใดคือเขาต้องทำให้ได้ ด้วยคติประจำใจ
“ยิ่งพูดมากเท่าไหร่ ยิ่งไม่ต้องคิดเลย ว่าจะมีคนมากมายขนาดไหน ยอมจ่ายเงินมาดู ผมถูกทุบ !!”

เคลย์ มักจะคุยโวกับสื่อว่า เขาจะน็อกคู่ชก คนนั้นคนนี้ ภายในยกนั้นยกนี้ให้จงได้ ซึ่งส่วนใหญ่เขาก็ทำได้สำเร็จ ครั้งหนึ่งสื่อถามว่า ไหนคุณบอกว่าจะน็อกยกนั้น ยกนี้ ทำนายสองทีไม่เหมือนกัน แต่ เคลย์ ก็สวนกลับว่า คุณก็เอาคำทำนายของผมสองครั้งนั้นมารวมกัน ซึ่งมันตรงกับยกที่ผมจะน็อกได้พอดี !!
เห็นไหมถึงความกะล่อนสิ้นดี แต่ต้องยอมรับนับถือว่า อาลี มีฝีมือ และเชาว์ไหวพริบได้ดีพอๆกัน
นั่นคือปัจจัยหนึ่งสำคัญ สำหรับการสร้างสรรมวยโลกชั้นดี ซึ่ง เคลย์ (อาลี) มีวลีอมตะติดตัวให้โลกจำไปจนตายว่า
“โบยบินเหมือนผีเสื้อ แต่ต่อยเจ็บเหมือนผึ้ง” (float like a butterfly sting like a bee)และด้วย ผลงานความสามารถทั้งในและนอกสังเวียนของตัว จึงทำให้ มูฮัมหมัด อาลี ถูกยกย่องให้เป็น “บุคคลแห่ง ศตวรรษที่ 20 ของโลก” เลยทีเดียว

นอกจากตัว “นักมวย” แล้ว สิ่งสำคัญถัดมาคือ “โปรโมเตอร์” การจะสนับสนุน ผลักดัน สร้างนักมวยซึ่งเป็น “วัตถุดิบ”สำคัญให้โด่งดังขึ้นได้นั้น จะต้องมี แมตช์เมคเกอร์ (แมวมอง) ผู้ต่อยอดส่งมวยดี ขึ้นไปถึงมือ โปรโมเตอร์ อีกขึ้นหนึ่ง ซึ่งหากองค์ประกอบเหล่านั้น หากทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพลงตัว การสร้างมวยคู่สำคัญๆ การจัดบิ๊กไฟต์ นัดยิ่งใหญ่ เพื่อเรียกแฟนๆแห่แหนเข้าชม จึงจะถือเป็น ธุรกิจพาณิชยนิยม ที่เรียกความสนใจผู้ชมทั่วโลก
จึงไม่แปลกใจเลย ว่ามันจะทำเงินเข้ากระเป๋าโปรโมเตอร์ชื่อดังๆก้องโลกในยุคศตวรรษ 20 อย่าง “หัวฟู” ดอน คิง หรือ บ๊อบ อารัม ได้มากมายเพียงใด ถึงปัจจุบันโลกจะเปลี่ยนไป ระบบถ่ายทอดสดเก็บค่าเปเปอร์วิว จากสถานีทีวีอย่าง เอ็นบีซี ,เอชบีโอ ฯลฯ จะถูกทดแทนด้วย ความนิยมผ่านโลกแอพพลิเคชัน อย่างเจ้าพ่อ ดาโซน DAZN ก็ตามที

ย้อนกลับมาเมืองไทย ในเชิงมวยสากลอาชีพระดับโลก เพียงแค่หนึ่งช่วงอายุคน ประเทศไทย เพิ่งมีแชมเปี้ยนโลกคนแรก จาก โผน กิ่งเพชร เมื่อ 3 เมษายน 2503(61 ปีก่อน) ยังก้าวตามหลัง ฟิลิปปินส์ และ ญี่ปุ่น แม้จะร่วมกันก่อตั้ง สหพันธ์มวยภาคตะวันออกไกล และแปซิฟิค (OPBF)มาด้วยกัน (ก่อตั้ง พ.ศ.2498) หรือ 66 ปีก่อน

และยังเกิดช่องว่างขาดช่วงไปเกือบ 6 ปี นับตั้งแต่ แสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์ (แชมป์โลกคนที่ 5) เสียเข็ดขัดโลก WBC ซูเปอร์ไลต์เวต ในปี พ.ศ.2521 กระทั่ง พเยาว์ พูลธรัตน์ มาสานฝันแชมป์โลกคนที่ 7 ซูเปอร์ฟลาย WBC ช่วงปลายปี 2526

ถึงจะมีกลุ่มคนมากมายอีกหลายคณะ เพียรพยายามผลักดันวงการมวยโลกในเมืองไทยต่อเนื่องเสมอมา แต่ช่วงระยะเวลา 40 ปีที่ผ่านมา ด้วยผลพวงความสามารถของชายร่างเล็กนาม สมภพ ศรีสมวงศ์ ฉายา “บิ๊กอึ่ง” นายสนามมวยเวทีช่อง 7 สี ผู้กำลังจับมือกับเพื่อนซี้ชาวต่างชาติจากศรีลังกา มร.เอ็ดเวิร์ด ตังคะราชา ได้ช่วยกันสรรสร้าง นักมวยไทยอีกหลายคน ก้าวทยอยขึ้นสู่ ทำเนียบ แชมเปี้ยนโลกในสาย WBC

หากคุณยังสนใจ ยังมีติดตามได้ ในตอนต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน