วิ่งส่งธงชาติไทย เป็นวันที่ 28 ของกิจกรรม ถึงสุพรรณบุรี เมืองขุนแผน พี่น้องคนไทยยังส่งกำลังใจล้นหลาม ครูหญิงวัย 48 ปีความมุ่งมั่นเกินร้อย แม้ทราบกระทันได้มีโอกาสร่วมวิ่งลงทุนเดินทางไกลกว่า 200 กม. มาร่วมวิ่ง เจ้าตัวรับทั้งตื่นเต้น ทั้งภูมิใจได้รับเกียรติวิ่งธงส่งต่อกำลังใจให้ทัพนักกีฬาไทย สู้ศึกโอลิมปิก โตเกียวเกมส์ สรุปหลังจบวันที่ 28 ของกิจกรรม วิ่งไปแล้ว 14 จังหวัด ระยะทางรวม 2,149 กม. ความเคลื่อนไหวของกิจกรรมประวัติศาสตร์ “FLAG OF NATION วิ่งส่งธงชาติไทย ไปโตเกียวโอลิมปิก” ซึ่งจัดขึ้นเพื่อส่งต่อกำลังใจจากพี่น้องคนไทยสู่นักกีฬาทีมชาติไทยผ่านการวิ่งคนละ 1 กม. ต่อเนื่อง 61 วัน 35 จังหวัด ระยะทาง 4,606 กม. เทียบเท่าระยะทางกรุงเทพฯ ไปยังกรุงโตเกียว เมื่อ 24 เม.ย.64 เป็นการวิ่งต่อเนื่องในวันที่ 28 จากจ.กาญจนบุรี ไปยัง จ.สุพรรณบุรี สำหรับการ วิ่งส่งธงชาติไทย เป็นวันที่ 28 ของกิจกรรม ช่วงเช้าซึ่งเป็นการรับลงทะเบียนก่อนเริ่มวิ่ง ฝ่ายจัดกิจกรรมฯ ยังคงตรวจคัดกรองนักวิ่งที่สมัครเข้ามาร่วมวิ่งอย่างเข้มข้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเชื้อไวรัสโควิด-19 เช่นเดิม โดยในวันนี้เป็นการวิ่งระยะทางรวม 65.7 กม. จากโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 45 จ.กาญจนบุรี ไปยังสนามกีฬากลางจังหวัดสุพรรณบุรี โดยก่อนออกสตาร์ทได้รับเกียรติจาก ร้อยโท ทศพล ไชยโกมินทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ทำหน้าที่เชิญธงชาติไทย ส่งต่อให้กับ พล.อ.ชินวัฒน์ แม้นเดช นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดกาญจนบุรี นักวิ่งคนแรก ทั้งนี้การวิ่งตลอดทั้งวันเป็นไปอย่างคึกคัก โดยยังคงมีพี่น้องนักวิ่งจากทั่วทุกพื้นที่ในจังหวัดกาญจนบุรี และสุพรรณบุรี ออกมาร่วมวิ่งธง ส่งกำลังใจให้ทัพนักกีฬาไทยอย่างล้นหลาม ขณะเดียวกันในหลายๆ ช่วงของการวิ่งธง ยังมีพี่น้องชาวไทยออกมาร่วมทักทาย โบกมือให้กำลังใจนักวิ่งด้วยเช่นกัน ก่อนท้ายที่สุดเหล่านักวิ่งจะช่วยกันนำธงชาติไทยมาปักยังจุดหมาย สนามกีฬา จ.สุพรรณบุรี จังหวัดที่ 14 ที่ธงชาติไทยเคลื่อนผ่านได้สำเร็จ พร้อมสะสมระยะทางไปแล้ว 2,149 กม. อินทรา อินนามเพ็ง คุณครูโรงเรียนปากลำปิล็อก อ.ทองผาภูมิ วัย 48 ปี เผยว่า สำหรับตนตั้งใจเดินทาง 200 กม. จากอ.ทองผาภูมิ ชายแดนพม่า เพื่อมาร่วมวิ่งธงชาติไทยที่กาญจนบุรี ส่วนตัวรู้สึกทั้งตื่นเต้น ดีใจและภาคภูมิใจมากๆที่ครั้งหนึ่งในชีวิตได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมส่งแรงกำลังใจเชียร์นักกีฬาไทย ผ่านการวิ่งธงไตรรงค์ คุณครูวัย 48 ยังเผยอีกว่า หลังสมัครไปแล้ว ตอนประกาศผล ตนไม่มีรายชื่อเข้าร่วมวิ่งธงชาติไทย แต่พอใกล้ถึงวันวิ่ง ทีมงานทักมาแจ้งในเฟซบุ๊คว่า ตนได้รับโอกาสให้เข้าร่วม ซึ่งก็คิดว่าน่าจะมีคนอื่นถอนตัวไป ก็ดีใจมากๆ ที่ได้รับโอกาสสำคัญแบบนี้ และอยากฝากส่งกำลังใจไปให้พี่น้องนักกีฬาไทยทุกคน ขอให้ทำให้เต็มที่ ตนและแฟนๆกีฬาไทยพร้อมสนับสนุนและให้กำลังใจเสมอ ด้าน ภาษิตา สรรสร้างเจริญ สาววัย 29 ปี อาชีพแพทย์แผนจีน โรงพยาบาลจันทรุเบกษา กรมแพทย์ทหารอากาศ เปิดเผยว่า ดีใจมากๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมวิ่งส่งธงชาติให้กำลังใจนักกีฬาไทย สำหรับตนได้วิ่ง 2 กม. วิ่งแทนผู้สมัครที่ถอนตัวไปอาจจะเหนื่อยนิดหน่อย แต่ก็ดีใจและภูมิใจมากที่ได้เป็นตัวแทน สำหรับตนขอให้กำลังใจนักกีฬาไทยทุกคนที่ได้ไปแข่งขันในกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิก ขณะที่ จรัญ และ จรัส พรมาก คู่ฝาแฝดมาแชล ที่ทำหน้าที่ร่วมวิ่งประกบนักวิ่งที่ทำหน้าที่ถือธงชาติ เปิดใจร่วมกันว่า ความยากง่ายของกิจกรรมวิ่งธงในครั้งนี้ คือการที่เราไม่รู้ว่าจะต้องเจอสถานการณ์แบบไหน แต่ละคนวิ่งช้า เร็ว ไม่เท่ากัน ซึ่งเราจำเป็นต้องบริหารจัดการแรงของตัวเองให้ดี เพื่อให้แรงเหลือ และสามารถวิ่งประกบกับนักวิ่งจากทางบ้านไปได้จนจบภารกิจให้ได้ ซึ่งนี่ถือเป็นความท้าทาย แต่ก็ตื่นเต้น สนุก และก็ภูมิใจไปพร้อมๆกันในความรู้สึกนี้ด้วย สำหรับกิจกรรม “FLAG OF NATION วิ่งส่งธงชาติไทย ไปโตเกียวโอลิมปิก” ในวันอาทิตย์ ที่ 25 เม.ย.64 จะวิ่งต่อเนื่องเป็นวันที่ 29 โดยจะออกสตาร์ทจากสนามกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี ไปยังสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ จ.ชัยนาท ระยะทางรวม 102.1 กม. ทั้งนี้การวิ่งธงในพื้นที่ จ.ชัยนาท ทางฝ่ายจัดการแข่งขัน จะเปลี่ยนแปลงการส่งต่อธงชาติไทย จากเดิมที่ให้พี่น้องคนไทยช่วยกันวิ่งคนละ 1 กม. มาเป็นการใช้ขบวนรถแทนตัวนักวิ่ง ทั้งนี้ก็เพื่อปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ของทางจ.ชัยนาท โดยนักวิ่งที่สมัครเข้าร่วมในพื้นที่ จ.ชัยนาท ยังสามารถติดตามรายละเอียดและขั้นตอนในการรับของรางวัลได้เช่นเดิม ผ่านทางเฟซบุ๊ค Road to Tokyo 2020 รวมถึงสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของกิจกรรมได้ผ่านช่องทางwww.stadiumth.com เเละเฟซบุ๊ค https://www.facebook.com/THStadium/

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน