หลังจากที่ การกีฬาแห่งประเทศไทย (.กกท.) ร่วมมือกับ กระทรวงสาธารณสุข ปรับสภาพสนามกีฬาประจำจังหวัดต่างๆ มาเป็นโรงพยาบาลสนามเพื่อรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่เพิ่มมากขึ้นจนโรงพยาบาลต่างๆรองรับไม่ไหว โดยก่อนหน้านี้มีสนามกีฬา 6 แห่งด้วยกัน ประกอบด้วย ตรัง, เพชรบูรณ์ ,แม่ฮ่องสอน, อำนาจเจริญ, นราธิวาส และ กระบี่ รวมถึงอาคารนิมิบุตร กทม.
ล่าสุด ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เผยว่า ปัจจุบันโรงพยาบาทสนาม ที่ปรับสภาพมาจากสนามกีฬาประจำจังหวัดน่าจะเกิน 6 แห่งแล้ว โดยมีที่ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งใช้รองรับผู้ป่วย ขณะที่ สนามกีฬากลางจังหวัดสุพรรณบุรี ก็ทำเป็นควอรันทีน ส่วนที่สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ ก็ทำเป็นที่พักแพทย์ด้วย เช่นเดียวกับ ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพชรบูรณ์ และสระแก้ว
“การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้มีคำสั่งออกไปถึงสนามกีฬาทุกจังหวัดแล้วว่าต้องให้ความร่วมมือในการช่วยเหลือ และรองรับผู้ป่วย เพียงแต่ต้องดูสถานการณ์ และความจำเป็นประกอบกันด้วย เพื่อไม่ให้กระทบต่อการฝึกซ้อมของนักกีฬาทีมชาติไทย ที่กำลังฝึกเก็บซ้อมอยู่ อย่างที่จังหวัดนครราชสีมา ที่มีการเก็บตัวของนักกีฬาทีมชาติไทย และคนพิการ จำนวนมาก ก็มีการแบ่งสัดส่วน แยกทางเข้าออกชัดเจน ระหว่างผู้ป่วย กับนักกีฬา เพราะฉะนั้นจึงไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ”
ดร.ก้องศักด เผยอีกว่า สปอร์ต ควอรันทีน ที่เราจัดเตรียมใน ศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติมวกเหล็ก สระบุรี เพื่อให้นักกีฬาที่กลับมาจากการแข่งขันในต่างประเทศได้มากักตัว จะแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนนี้ ส่วนการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับนักกีฬา และเจ้าหน้าที่ ตอนนี้ดำเนินการไป 300 กว่าคนแล้ว ซึ่งเราจะทยอยฉีดไปเรื่อยๆจนครบ 5 พันกว่าคนตามรายชื่อ
พร้อมกันนี้ กกท. ยังอาจจะได้รับวัคซีน มาบริหารจัดการเอง เพื่อแบ่งเบากระทรวงสาธารณสุข และลดความแออัด ที่จะทำให้เกิดความสุ่มเสี่ยง เวลานักกีฬาจำนวนมากเดินทางไปฉีดวัคซีนได้
