ทัพสุนัขจิ้งจอกผงาดคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ หนแรกในประวัติศาตร์สโมสร หลังเฉือนชัยเชลซีแบบหืดจับ ชนิดที่เกือบโดนตีเสมอท้ายเกมด้วย

การแข่งขันฟุตบอล เอฟเอ คัพ อังกฤษ นัดชิงชนะเลิศ เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2 ทีมจากพรีเมียร์ลีกเจอกัน “สิงโตน้ำเงินคราม”เชลซี รองแชมป์เก่า ปะทะกับ “สุนัขจิ้งจอก”เลสเตอร์ ซิตี้ เตะที่สนามเวมบลีย์ สเตเดียม กรุงลอนดอน

เกมนี้เชลซีจัด ติโม แวร์เนอร์, ฮาคิม ซิเยช, เมสัน เมาต์ ลงสนาม ส่วนเลสเตอร์เลือกใช้งาน เจมี วาร์ดี, เคเลชี อิเฮียนาโช, อโยเซ เปเรซ

ครึ่งแรกทั้งคู่พยายามเปิดเกมบุกใส่กัน แต่จังหวะจบสกอร์ยังไร้ความเฉียบคม ผู้รักษาประตูไม่ได้ออกแรงเซฟหวาดเสียวเลยสักครั้ง จบครึ่งแรกเสมอกัน 0-0 ชนิดที่ไม่มีการยิงตรงกรอบเกิดขึ้นเลย

ครึ่งหลังนาที 63 ยูรี ตีเลอมันส์ รับบอลจากเพื่อนแล้วพามากระหน่ำจากระยะราว 30 หลา บอลพุ่งเป็นจรวดเสียบตาข่ายสุดสวย เลสเตอร์ออกนำ 1-0

นาที 78 เชลซีน่าตีเสมอ เอ็นโกโล กองเต เปิดจากด้านขวาของเขตโทษให้ เบน ชิลเวลล์ โหม่งทำท่าจะเสียบมุม แคสเปอร์ ชไมเคิล พุ่งปัดไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม

นาที 87 โอกาสเป็นของเชลซีอีกครั้ง จากบอลเปิดเข้าเขตโทษแล้วแนวรับเลสเตอร์โหม่งสกัดไม่ขาดเข้าทาง เมสัน เมาต์ วอลเลย์ในเขตโทษเต็มข้อ แคสเปอร์ ชไมเคิล พุ่งปัดทิ้งแบบเหลือเชื่อ

นาที 89 ติอาโก ซิลวา เปิดจากกลางสนามลึกเข้าไปในเขตโทษคู่แข่ง เบน ชิลเวลล์ สปีดถึงแล้วจิ้มไปทางกองหลังเตะสกัดมาอัดตัวชิลเวลล์เข้าสู่ก้นตาข่าย แต่เมื่อดูวีเออาร์พบว่าชิลเวลล์ล้ำหน้าแบบฉิวเฉียด ลูกนี้จึงไม่เป็นประตู จบเกมเลสเตอร์ชนะ 1-0

เลสเตอร์จึงได้แชมป์นี้ไปครองหนแรกในประวัติศาสตร์สโมสร ก่อนหน้านี้เคยเข้าชิงชนะเลิศ 4 ครั้ง แล้วได้แค่รองแชมป์หมด ส่วนเชลซีได้รองแชมป์หนที่ 7 จากการเข้าชิงชนะเลิศ 15 ครั้ง และยังเป็นแค่พระรอง 2 ฤดูกาลติดต่อกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน