ศศลักษณ์ ไหประโคน ริมเส้นฝั่งซ้ายทีมชาติไทย เผยใช้ความคาดหวังของแฟนบอลเป็นแรงผลักดันในการทำหน้าที่แทน ธีราทร บุญมาทัน ที่ถอนตัวจากทัพช้างศึก

ศศลักษณ์ ไหประโคน ดาวเตะวัย 25 ปี เพิ่งบรรลุข้อตกลงย้ายจากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไปเป็นนักเตะใหม่ของชุนบุค ฮุนได มอเตอร์ส สโมสรยักษ์ใหญ่ในศึกเคลีก เกาหลีใต้ ด้วยสัญญายืมตัว 6 เดือน โดยขณะนี้กำลังเก็บตัวฝึกซ้อมร่วมกับทีมชาติไทยในการสู้ศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก

“ตอนนี้สภาพร่างกายของผมดีขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่เรามาอยู่ที่นี่ โค้ชนิชิโนะและทีมงานวางโปรแกรมซ้อมที่ทำให้สภาพร่างกายของนักเตะดีขึ้น บรรยากาศในทีมตอนนี้ดีมากครับ ทุกคนช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพราะอย่างที่รู้ว่าทีมเราขาดนักเตะตัวหลักถึง 3 ราย ก็พยายามใช้ทีมเวิร์กของพวกเราเข้าสู้”

“เกมอุ่นเครื่อง 3 นัดที่ผ่านมา ผมคิดว่าเป็นแมตช์ที่ทำให้พวกเราได้ทดลองทีม ทดลองตัวผู้เล่นมากกว่า โค้ชนิชิโนะต้องการดูศักยภาพของนักเตะแต่ละคนว่าใครเหมาะสำหรับวิธีการเล่นแบบไหน แต่พวกเราพยายามทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ เพื่อให้พร้อมที่สุดก่อนเข้าสู้ทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก”

“ส่วนตัวผมคิดว่ายังต้องปรับอีกหลายอย่างให้เข้ากับสิ่งที่โค้ชต้องการ เพื่อที่จะได้เป็นตัวเลือกแรกๆ ในการลงสนาม ช่วงอุ่นเครื่องที่ผ่านมาผมคิดว่าโค้ชยังไม่ได้ใส่แท็กติกอะไรมาก แต่หลังจากนี้จะมีการมส่รายละเอียดวิธีการเล่นแบบเข้มข้นอย่างแน่นอน”

“โค้ชนิชิโนะเน้นไปที่เรื่องทีมเวิร์กสำคัญสุด โค้ชเข้าใจว่าทีมเราต้องเผชิญกับอุปสรรคหลายอย่าง เช่น โควิด-19 ดังนั้นการเป็นหนึ่งเดียวกันในทีมจึงเป็นเรื่องสำคัญที่สุดสำหรับการแข่งขันครั้งนี้”

ศศลักษณ์ยังเผยถึงโอกาสการลงสนามในตำแหน่งกราบซ้ายของทัพช้างศึกในทัวร์นาเมนต์นี้ว่า “ผมยังไม่รู้ว่าโค้ชจะตัดสินใจเลือกใช้ใครในตำแหน่งนี้ แต่ตัวผมเองจะพยายามเตรียมความพร้อมให้พร้อมที่สุด ไม่ว่าโอกาสนั้นจะมาถึงตอนไหนไม่สำคัญ ตัวเราเองต้องพร้อมที่สุดในการลงสนาม”








Advertisement

เมื่อถูกถามถึงความกดดันและความคาดหวังจากแฟนบอลเกี่ยวกับการก้าวขึ้นมาทดแทน ธีราทร บุญมาทัน ในตำแหน่งริมเส้นฝั่งซ้าย ศศลักษณ์กล่าวว่า”ผมใช้คำพูดเหล่านั้นเป็นแรงผลักดันตัวเองมากกว่า พยายามเรียนรู้ในทุกเรื่องอยู่แล้ว ไม่ว่าผมจะเผชิญกับปัญหาอะไร ส่วนตัวผมเองพอรู้มาบ้างว่ามีแฟนบอลคาดหวังเรื่องนี้กับผม ลึกๆ แล้วผมรู้สึกดีใจมากกว่า แต่ไม่ได้กดดันตัวเอง เพราะรู้อยู่แล้วว่าเวลาของตัวเองจะมาถึงตอนไหน”

“ส่วนความคาดหวังส่วนตัว ผมต้องการเป็น 1 ใน 23 นักเตะ สำหรับลงเล่นในทัวร์นาเมนต์นี้ จะพยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้เต็มที่ เตรียมพร้อมตัวเองให้พร้อมลงสนามมากที่สุด”

“การเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้าย แม้ว่ามันอาจจะเป็นเรื่องที่ยาก แต่พวกเราจะพยายามทำให้ได้ เพื่อความสุขของแฟนบอลชาวไทยทุกคน”

สำหรับโปรแกรมฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง ของทีมชาติไทย ในกลุ่มจี เหลืออีก 3 นัด ประกอบด้วย วันที่ 3 มิ.ย. พบอินโดนีเซีย ที่สนามอัล มัคตูม เวลา 23.45 น., วันที่ 7 มิ.ย. พบยูเออี ที่ซาบีล สเตเดียม เวลา 23.45 น. และวันที่ 15 มิ.ย. พบมาเลเซีย ที่สนามอัล มัคตูม เวลา 23.45 น.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน