ความเคลื่อนไหวของมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 และอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 11 ซึ่งเวียดนามจะเป็นเจ้าภาพที่ กรุงฮานอย ช่วงเดือน พฤศจิกายน ถึง เดือนธันวาคม โดยก่อนหน้านี้ เวียดนาม เริ่มประสบปัญหากับการจัดการแข่งขัน เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่กำลังเล่นงานหลายประเทศอย่างหนัก
ล่าสุดสื่อเวียดนาม ตีข่าวว่า ฮอง เดา คอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กรุงฮานอย และ 11 เมืองใกล้เคียง ยังคงเตรียมการสำหรับกิจกรรมที่จะจัดขึ้นตามกำหนด ไม่ได้คิดที่จะเลื่อนหรือยกเลิกการแข่งขัน
“เรายังคงเดินหน้าจัดการแข่งขันทั้ง 2 รายการไว้ตามปกติ และงานของคณะอนุกรรมการคือพยายามไม่ให้มีความล่าช้า แต่ปัญหาที่ยากอีกประการคือโรคนี้ซับซ้อนมาก มีการแพร่กระจายสูง ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การระบาด แม้แต่ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่โตเกียวที่กำลังจะมีขึ้น ก็ยังไม่มีความแน่นอนเกิดขึ้่น อย่างไรก็ตามขณะนี้เรายังคงนโยบายจัดการแข่งขันด้วยจิตวิญญาณของความเสมอภาค ความเป็นมิตร และความยุติธรรม ที่สำคัญคือการประหยัด ไม่ใช่เพื่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกใหม่”
ขณะเดียวกันสื่อเวียดนาม Thanh Nien ก็ได้ออกสำรวจ และสัมภาษณ์ชาวเวียดนามจำนวนมาก ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ไม่ต้องการให้ประเทศเป็นเจ้าภาพซีเกมส์และพาราเกมส์ในสถานการณ์เช่นนี้
เหวียน ฮง มินห์ อดีตหัวหน้าแผนกกีฬายอดเยี่ยมของสำนักงานบริหารการกีฬาแห่งชาติ หนึ่งในผู้ที่ถูกสอบถาม เผยว่า “ในฐานะที่เป็นคนที่ติดตามกีฬามาเกือบตลอดชีวิต คงรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งสำหรับนักกีฬาที่ไม่มีโอกาสได้แข่งขันในซีเกมส์และพาราเกมส์ หากต้องถูกยกเลิก แต่ผมคิดว่าการยกเลิกเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง”
“เวียดนามวางแผนที่จะใช้จ่าย 2.2 พันล้านบาท สำหรับการเพิ่ม และปรับปรุงเพื่อจัดซีเกมส์ และอาเซียนพาราเกมส์ ให้ประสบความสำเร็จ แต่ตอนนี้ดูเหมือนงบประมาณก้อนนี้่อาจเป็นภาระที่หนักเกินไป หากเทียบกับ เศรษฐกิจที่มีแนวโน้มอ่อนลง ซึ่งขณะนี้เวียดนามมีงานเร่งด่วนมากขึ้น อย่างคำกล่าวของอดีตนายกรัฐมนตรี เหวียน ซวน ฟุก กล่าวไว้ว่าการต่อสู้กับโรคระบาดนั้นเหมือนกับการต่อสู้กับ ศัตรู เมื่อเรายังไม่สามารถไล่ ศัตรู ออกไปได้ ก็จำเป็นต้องตัดสินใจอย่างกล้าหาญ ผมแค่ยกตัวอย่าง กิจกรรมดังกล่าวต้องการอาสาสมัคร ซึ่งส่วนใหญ่มาจากมหาวิทยาลัย แต่เนื่องจากการป้องกันโรคระบาด ไม่อนุญาตให้มีการชุมนุมเกิน 10 คน แล้วคณะกรรมการจัดงานจะเรียกนักเรียนจำนวนมากมาได้อย่างไร และอีกสิ่งหนึ่งที่กังวลคืออาจมีประเทศที่ไม่สามารถเดินทางมาเวียดนามเพื่อเข้าร่วมซีเกมส์ได้” มินห์กล่าว
“เวียดนามควรยกเลิกการแข่งขันทั้งหมด ไม่ใช่เลื่อนไปปีหน้า เพราะซีเกมส์และพาราเกมส์จัดขึ้นทุกสองปี หากเลื่อนไปปีหน้าจะส่งผลต่อการเตรียมทีมสำหรับซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ในปี 2023 ที่กัมพูชา อีกทั้งคงไม่ใช่เรื่องดีหากเวียดนามเลือกที่จะแข่งขันโดยไม่มีแฟนๆเข้าไปเชียร์ในสนาม เพราะเป้าหมายสูงสุดประการหนึ่งของการจัดซีเกมส์ในประเทศของเราคือการสร้างแรงผลักดันในการส่งเสริมกีฬา ดังนั้นหากไม่มีกองเชียร์ก็คงไร้ความหมาย” มินห์กล่าว
ทั้งนี้มีรายงานด้วยว่า ทิศทางของซีเกมส์ ครั้งนี้ จะถูกตัดสินในวันที่ 15 มิถุนายน ใน การประชุมหัวหน้าคณะผู้แทนที่เข้าร่วมซีเกมส์จัดขึ้นทางออนไลน์ โดย ตราน ดึ๊ก ฟาน รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารการกีฬาแห่งชาติ เวียดนาม จะแจ้งความคืบหน้าในการเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันกีฬาและรับฟังความคิดเห็นของประเทศอื่นๆ เกี่ยวกับการจัดการแข่งขัน จากนั้นคณะกรรมการจัดงานจะพิจารณายื่นข้อเสนอให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ก่อนรายงานต่อคณะกรรมการอำนวยการแห่งชาติในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 31
