แคสเปอร์ โดลเบิร์กเบิล2ประตู ช่วยให้ “โคนม” เดนมาร์ก ถล่มเอาชนะ “มังกรแดง” เวลส์ 4-0 พร้อมกับตีตั๋วผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ ผลบอลยูโร 2020
การแข่งขันฟุตบอลยูโร 2020 ประจำวันที่ 26 มิ.ย. เป็นการประเดิมสนามในรอบ 16 ทีมสุดท้าย คู่แรก เวลา 23.00 น (ตามเวลาประเทศไทย) ที่สนามโยฮัน ครัฟฟ์ อารีนา ประเทศเนอร์แลนด์ “มังกรแดง” เวลส์ ลงสนามพบกับ “โคนม” เดนมาร์ก
สถิติที่ผ่านมาทั้งสองทีมเคยเจอกันมาแล้ว 10 ครั้ง เวลส์ ชนะ 4 ครั้ง และ เดนมาร์ก ชนะ 6 ครั้ง หนล่าสุดเจอกันในฟุตบอลเนชันส์ ลีก เมื่อปี 2018 เดนมาร์ก เฉือนชนะไป 2-1
ส่วนเส้นทางในฟุตบอลยูโรหนนี้ เวลส์ เข้ารอบมาในฐานะ อันดับสองของกลุ่ม เอ เก็บไป 4 แต้ม จาก 3 นัด ในรอบแบ่งกลุ่ม โดยเสมอ สวิตเซอร์แลนด์ 1-1, ชนะตุรกี 2-0 และ แพ้อิตาลี 0-1
ทางด้านเดนมาร์ก เข้ารอบมาในโควต้ารองแชมป์กลุ่ม บี เก็บได้ 3 แต้ม จาก 3 นัด เริ่มจากแพ้ฟินแลนด์ 0-1, แพ้เบลเยียม 1-2 และชนะ รัสเซีย 4-1
เกมนี้ เวลส์ ส่งผู้เล่น 11 คนแรก ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู แดนนี วอร์ด กองหลัง เบน เดวิส, โจ โรดอน, คอนเนอร์ โรเบิร์ตส์, คริส มีแฟม กองกลาง โจ อัลเลน, โจ มอร์เรลล์, คีฟเฟอร์ มัวร์ , แดเนียล เจมส์ หน้าเป็น อารอน แรมซีย์ จับคู่กับ แกเร็ธ เบล
ขณะที่ เดนมารร์ก ส่งผู้รักษาประตู แคสเปอร์ ชไมเคิล กองหลัง ยานนิก เวสเตอร์การ์ด, ซิมอน เคียร์, โยอาคิม เมห์เล, เยนส์ สตรีเกอร์ ลาร์เซน, แอนเดรียส คริสเตนเซน กองกลาง โธมัส เดอลานีย์, แคสเปอร์ โดลเบิร์ก, กองหน้า มิกเคล ดามสการ์ด, ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก และ มาร์ติน เบรธเวต
ก่อนเกมจะเริ่มขึ้น แกเร็ธ เบล มอบเสื้อทีมชาติเวลส์ ที่สกรีนชื่อของ คริสเตียน อีริคเซน พร้อมลายเซ็นจากนักเตะทีมชาติเวลส์ ให้กับ ซิมง เคียร์ กัปตันทีมชาติเดนมาร์ก ก่อนเกมการแข่งขัน ยูโร 2020 รอบ 16 ทีมสุดท้าย คู่แรกของทัวร์นาเมนต์ เพื่อนำไปให้กับ อิริคเซ่น เพื่อนร่วมอาชีพของพวกเขา
เริ่มเกม นาทีที่ 9 เป็น เวลส์ ที่ได้ทักทายก่อน ในจังหวะ แกเร็ธ เบล ได้กระชากบอลเข้าเขตโทษ ก่อนซัดด้วยซ้าย บอลพุ่งเลยเสาไกลออกหลังไปนิดเดียว
เข้าสุ่ช่วงนาทีที่ 20 เกมเริ่มเป็นของเดนมาร์ก ที่ครองเกมได้เหนือกว่า และพยายามบุกเข้าทำ กระทั่งนาทีที่ 27 แคสเปอร์ โดลเบิร์ก ได้บอลหน้าเขตโทษ ก่อนซัดด้วยขวา บอลพุ่งเข้าประตูไปอย่างสวยงาม ให้เดนมาร์ก ขึ้นนำ 1-0
จากนั้นเกมยังเปิดแลกกันสนุก เดนมาร์ก ยังคงครองเกมได้มากกว่าชัดเจน แต่สุดท้ายไม่มีสกอร์เพิ่ม จบครึ่งแรก เดนมาร์ก ยังรักษาความได้เปรียบไว้ได้
ครึ่งหลังเปิดฉากเพียง 3 นาที เดนมาร์ก ได้ประตูหนีห่างอย่างรวดเร็ว ในจังหวะบุกขึ้นมาครั้งแรก มาร์ติน เบรธเวต พาบอลขึ้นมาทางขวา ก่อนจ่ายตัดเข้ากลางประตู ยานนิก เวสเตอร์การ์ด แนวรับเวลส์ สกัดบอลไม่ดี บอลไปเข้าทาง แคสเปอร์ โดลเบิร์ก ที่ยืนดักรออยู่ในเขตโทษยิงจ่อๆไม่มีพลาด เดนมาร์ก นำ 2-0 พร้อมกับเป็นประตูที่ 2 ของเจ้าตัวในเกมนี้ด้วย
จากนั้น เวลส์ ที่สกอร์ตามหลัง พยายามตั้งเกมบุกหวังทวงประตูคืน ทว่ายังไม่ดีพอจะผ่านแนวรับ โคนม ขณะที่ เดนมาร์ก รอโอกาสสวนกลับได้อย่างยอดเยี่ยม กระทั่งช่วงท้ายเกม ก่อนหมดเวลา โยอาคิม เมห์เล ได้หลุดเข้าไปในเขตโทษ ล็อกเข้าซ้าย ก่อนยิงเต็มข้อ บอลพุ่งเข้าประตูให้เด็นมากหนีห่าง 3-0
เท่านั้นยังไม่พอ ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แอนเดรียส คอร์เนลิอุส เตะบอลต่อให้ มาร์ติน เบรธเวต ยิงจ่อๆไม่เหลือ เข้าประตู ผู้ตัดสินเช็ควีเออาร์ ให้ก่อนชี้เป็น ประตูปิดฝาโรงของ เดนมาร์ก
ทว่าช่วงเวลาที่เหลือไม่มีสกอร์เพิ่ม ทำให้จบเกม เดนมาร์ก เอาชนะ เวลส์ 4-0 ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย ไปรอพบผู้ชนะคู่เนเธอร์แลนด์-สาธารณรัฐเช็ก