เพชรยินดี ปิดค่าย ส่งเหล่านักสู้กลับภูธรถิ่นเกิด -มวยไทยหัวทิ่ม กสทช. สั่งเบรก เพชรยินดี ห้ามถ่ายทอดสดจากเมืองกาญจน์ คนมวยเชื่อ เรื่องในวงการ ถึงขั้นเตะชามข้าวทิ้งกันเอง !!


จากกรณี ครอบครัว เพชรยินดีโปรโมชั่น ตระกูล “วชิรรัตนวงศ์” นำโดย “เสี่ยเน้า” วิรัตน์ , “เสี่ยตังค์” ปิยะรัตน์ และ “เสี่ยโบ๊ท” ณัฐเดช พยายามต่อลมหายใจให้ คนวงการมวยแก้ไขปัญหาเรื่องปากท้องนักมวยไทยหลังจากต้องหยุดทำการแข่งขันมายาวนานนับตั้งแต่ “โควิด-19” แพร่ระบาดในเมืองไทย ด้วยการพยายามประเดิมจัดมวยไทยใน 2 รายการ ได้แก่ รายการ ศึกเพชรยินดี และ “มวยมันส์ วันศุกร์” ศึกทรู 4 ยู โดยเบื้องต้นเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ล็อกเป้าไปที่เวทีมวยรังสิตนานาชาติ จ.ปทุมธานี แต่โดนคำสั่งเบรกของผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี

ต่อมาทีมงานผู้จัดฯ เห็นว่าการจัดมวยในพื้นที่สีแดง กรุงเทพ และปริมณฑล เป็นไปได้ยาก ประกอบกับนักมวยเดือดร้อนกันอย่างหนัก จึงเบนเข็มไปจัดต่างจังหวัด ซึ่งได้มีการไปสำรวจสถานที่และประกาศออกสาธารณะว่า มวยไทยรายการดังกล่าวจะย้ายไปจัดที่ จ.กาญจนบุรี สัญจร รวม 3 สัปดาห์ติดต่อกัน ยิงสดทาง ทรูโฟร์ยู 24 และ ททบ.5 เริ่มนัดแรก วันพฤหัสบดีที่ 8 ก.ค. 64 และวันศุกร์ที่ 9 ก.ค. ตามลำดับ ต่อเนื่องนาน 3 สัปดาห์

 

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเมื่อ 7 ก.ค.64 เกิดปรากฎการณ์ฟ้าผ่ากับวงการมวยเมืองไทยอีกรอบ เมื่อทาง เพจ Petchyindee MuayThai เผยว่า “ทรู 4 ยู งดถ่ายทอดสด เนื่องจาก กสทช. (คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ) ไม่อนุญาตให้มีการถ่ายทอดสด จึงจำเป็นยกเลิกรายการทั้งหมด ส่งผลให้ศึกมวยไทยเพชรยินดี และ “มวยมันส์ วันศุกร์ ศึกทรู 4 ยู” ต้องยกเลิกไปโดยปริยาย

จากการสอบถาม ด้าน”เสี่ยโบ๊ท”ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ โปรโมเตอร์ใหญ่ เพชรยินดี เผย “ผมเพิ่งทราบข่าวระงับการถ่ายทอดสดเมื่อช่วงเที่ยงคืนถึงเช้ามืดที่ผ่านมา เมื่อผมระบายความรู้สึกออกไปทางไลฟ์ของเพชรยินดี ช่วงสายวันนี้ ก็มีตัวแทนของทาง กสทช. โทรมา ขอให้ผมลบเฟซ ลบเพจ นั้นทิ้งเสีย พร้อมชี้แจงว่า การขออนุญาตถ่ายทอดเป็นเรื่องที่ ทาง สถานีช่อง ทรู ต้องทำรายงานชี้แจงล่วงหน้าอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ไปให้ กสทช. พิจารณา ตามกฏระเบียบซึ่งเป็นเรื่องปกติ ที่เขาไม่สามารถอนุญาตให้ถ่ายทอดสดได้”

 

ถึงตอนนี้ เสี่ยโบ๊ทกล่าวอีกว่า “ผมได้พยายามอย่างที่สุดแล้ว สำหรับการช่วยเหลือคนวงการมวย ความจริงท่านผู้ว่าฯกาญจนบุรี ท่านให้ความยินดีสนับสนุน และอยากช่วยเหลือเต็มที่ แต่เมื่อมาโดนคำสั่งกระทันหันจาก กสทช. เช่นนี้อีก ทางเพชรยินดีต้องสูญเสียเงินไปเปล่าๆ ไม่ต่ำกว่า 5 แสนบาท ทั้งค่ามัดจำ ต่างๆ ตลอดจนดูแล เบี้ยเลี้ยงนักมวยรอบด้าน”

“ตลอดเวลาที่ผ่านมา เราพยายามดิ้นรนเพื่อนักมวยที่ต้องถูกเลื่อนและยกเลิกมาสองสัปดาห์ติดต่อกัน ตอนนี้ผมได้ปิดค่ายมวยลงชั่วคราว พร้อมส่งจ่ายค่ารถส่งนักมวยเดินทางกลับภูมิลำเนากันหมด ทุกการกระทำที่ผ่านมาด้วยความตั้งใจทุ่มเทช่วยเหลืออย่างถึงที่สุดแล้ว จากนี้ไปก็ขอให้นักมวยในความดูแลทุกคนรักษาตัวและโชคดี อดทนต่อสู้กับชะตาชีวิตกันต่อไป”

ด้าน “เสี่ยเน้า” วิรัตน์ ประธานบริษัท เพชรยินดี กล่าวว่า “เจอเหตุการณ์นี้เข้า ผมก็พูดอะไรไม่ออก ผมพยายามทำเต็มที่หมดแล้วจนสุดความสามารถ ก็เห็นๆอยู่ว่า ผมไม่ได้นิ่งนอนใจใดๆ ที่ทำทั้งหมดไม่ได้ทำเพื่อส่วนตัว แต่ถึงขณะนี้ก็ขอให้แฟนมวยติดตามสถานการณ์กันต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร ผู้ว่าฯ กกท. ออกคำสั่ง วันจันทร์ที่ 5 ก.ค. แต่มวย ถ่ายทอดสดช่อง 3 เมื่อวันเสาร์ ที่ 3 ก.ค. ยังจัดผ่านไปได้ ถึงตอนนี้ถ้าจะมีใครออกมาช่วยเยียวยานักมวย ผมก็ยินดี และเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง ในเมื่อเขาไม่ให้ถ่ายทอด นั่นแสดงว่า เขาไม่ต้องการให้มีคนดู แล้วจะทำไปทำไมเพื่ออะไร ตอนนี้ เรามึนไปหมด ไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร ท้ายนี้ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆคนพยายามสู้กันต่อไป”

หลังจากข่าวเผยแพร่ออกไปในวงกว้าง มีกระแสความรู้สึกของคนวงการมวยหลายราย อาทิ “พี่ระ” เขาทราย แกแล็คซี่ อดีตแชมป์โลก เผย ตนเพิ่งทราบข่าวเรื่องนี้ ในฐานะคนที่เกิดจากวงการมวย ก็รู้สึกเป็นห่วงคนวงการมวย ซึ่งโดยพื้นฐานมีความยากลำบากใช้ชีวิตกันอยู่แล้ว
แต่ถ้วยสถานการณ์โควิดระบาดขณะนี้ ก็น่าเห็นใจ ที่ทุกฝ่ายต้องปฏิบัติตามกฏระเบียบ แต่กรณี หากมีสองมาตรฐานเป็นที่ครหาแก่สังคมนั้น ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องชี้แจงได้
“ส่วนตัวแล้ว ตอนนี้ คนมวยจะตายกันหมดแล้ว อย่าว่าแต่ข้าวเลย ขนาดแกลบก็ไม่มีจะให้กิน อยากให้รัฐหันมาเหลียวมองวงการนี้บ้าง รู้สึกสงสารสุดหัวใจ”

ขณะที่ “พี่ต้อย”ดีเซลน้อย ช.ธนสุกาญจน์ ตำนานยอดมวยไทยในอดีต เผย “บอกตรงๆ รัฐบาลทำงานเหมือนขาดคนมีความรู้ ในความเป็นจริง เรื่องของคนมวยนั้น จริงๆแล้ว เขามีมาตรการป้องกันตัวเองอย่างเข้มงวด ปฏิบัติตามกฏเฝ้าระวังทุกอย่าง เพื่อขอให้ได้ขึ้นเวทีชก”
“ผมไม่ได้มองว่า โบ๊ท เป็นเด็ก แต่ผมมองว่า เค้าเป็นคนที่ปกป้องร้องเรียน ออกมาสู้เพื่อส่วนรวม ไม่ได้ก้าวก่ายหรือข้ามหัวใคร มีผู้ใหญ่ในวงการมวยคนไหนกล้าทำแบบนี้บ้าง นับวันภาพเหตุการณ์เหล่านี้ ก็ปรากฏชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ถึงวันนี้อยากให้คนมวยรวมตัวกัน หัวหน้าคณะ นักมวย พวกคุณเดือดร้อนหรือเปล่า ถึงเวลาหรือยัง อยากให้พวกคุณลุกขึ้นมาเป็นปากเสียงในเรื่องนี้อย่างจริงจังพร้อมใจกันเสียที ผมกล้าพูดได้เลยว่า ในวงการกีฬา ไม่ว่าสมาคมฯไหนๆ ก็ยังไม่เคยมีใครกล้าออกมา เรียกร้องสิทธิ์ให้กับ นักมวย นักกีฬา ได้เหมือนอย่างน้องโบ๊ทในวันนี้”

นาย ประเสริฐ หอธรรมรัตน์ สื่ออาวุโสประธานชมรม สื่อสร้างสรรค์กีฬามวย ขยายความว่า ..
“นับตั้งแต่วิกฤตโควิดตั้งแต่ปีที่แล้ว เพชรยินดี พยายามเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้คนวงการมวย รวมทั้งสูญเสียเงินจากการเยียวยา ช่วยเหลือค่ายมวยในสังกัด หมดทุนตัวเองไปไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท”

” ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 5 ก.ค.64 ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้ออกหนังสือด่วนที่สุด ถึงนายกสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย จำนวน 88 สมาคม เรื่อง ขอความร่วมมือป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้งด หรือ เลื่อนจัดการแข่งขัน ซึ่งเราก็ต้องเข้าใจว่า มวยที่จัดไปก่อนหน้านี้เมื่อสุดสัปดาห์ผ่านไปแล้ว แต่ผู้ว่าฯ กกท. ท่านเพิ่งมีคำสั่งขอมาในช่วงรุ่งขึ้นวันจันทร์ กสทช. จึงอาจลงมาล้่วงลูกในกรณีนี้”

“จริงๆเรื่องนี้มันประสานงานกันได้ แต่ว่าต่างคนต่างใหญ่ไม่หารือกันให้ชัดเจน ทั้งนี้ ก็ต้องขอชื่นชมเพชรยินดีเค้า ที่พยายามดิ้นรนช่วยเหลือนักมวยมาโดยตลอด เขาสู้จนถึงที่สุด เที่ยวนี้มวยเลื่อนมา 2 ครั้ง ก็ต้องเข้าเนื้อไปไม่ต่ำกว่า 5 แสนบาท โดยไม่มีใครมาช่วย นับว่าน่าเห็นใจ”

ทางด้าน แฟนมวยจำนวนไม่น้อยตั้งข้อสังเกตถึง กรณีการจัดมวยไทยอย่างน่าคิดว่า เดิมทีสัปดาห์ที่ผ่านมา วันเสาร์ที่ 3 ก.ค. รายการมวยไทย ศึกจ้าวมวยไทย สามารถจัดแข่งขัน ถ่ายทอดสดช่อง 3 ได้ โดยย้ายเวทีไปจัดที่จังหวัดชลบุรี เช่นเดียวกับ รายการมวยไทยไฟต์ วันอาทิตย์ ถ่ายทอดสดช่องเดียวกัน ที่ ชลบุรี

แฟนมวยผู้ไม่กล้าเผยนาม เพราะกลัวไข้โป้ง ให้ความเห็นอีกว่า “ปกติ กสทช. ไม่เคยเข้าไปก้าวก่ายเรื่อง รายละเอียดที่จะต้องมีมาตรการเข้มข้นใดๆ ในเรื่องการตรวจสอบหยุมหยิม เพราะไม่ใช่หน้าที่ของคุณ มันเป็นเรื่องของ ศบค. ,สาธารณสุข ที่เขาจะต้องเข้ามาดูแลไม่ใช่หรือ ส่วนคุณก็รอรับส่วนแบ่งลิขสิทธิ์ค่าถ่ายทอดสดไป แต่พอมาคราวนี้ เขาจะถ่ายทอดสด จากเมืองกาญจน์ คุณก็เข้ามาเบรกเขา มันเป็นเรื่องที่ปกติ ไม่เคยเกิดขึ้น”

“หากจะมองอีกแง่มุม วงการมวยเขาก็ไม่ได้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ใครๆก็รู้อยู่ ใครอยู่ฝั่งไหน ใครเชียร์ฝั่งไหน มันเป็นเรื่องการเมืองภายใน แต่มองกันตามจริง เหตุการณ์อย่างครั้งนี้ ก็เหมือนไปรังแกเขานั่นแหละ เพียงแต่ว่า ครั้งนี้ มันเป็นการเดิมพันที่รุนแรงไปหน่อยไหม จู่ๆคุณมาโยนชามข้าวทิ้ง คุณมาเตะชามข้าวที่กินรวมด้วยกันจนกระจาย มันโหดร้ายไปหรือไม่ โดยไม่มองถึงตัวนักมวย ไม่เห็นใจบุคคลากรต่างๆที่ต่างคนก็ต้องทำมาหากิน การที่คุณกลั่นแกล้งกัน ทำแบบนี้ ก็ไม่ต่างกับคนวงการมวยพยายามฆ่ากันเอง เพราะความอิจฉาริษยา ข้ามหน้าข้ามตากัน”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน