ทีมวีลีก จำนวน 14 สโมสรออกโรงไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการที่สหพันธ์ฟุตบอลเวียดนาม จะเลื่อนฟุตบอลวีลีก กลับมาเตะอีกครั้งในเดือนก.พ.ปีหน้า เนื่องจากโควิด-19

ทีมวีลีก ทั้ง 14 สโมสรยืนยันไม่เห็นด้วยจากการที่สหพันธ์ฟุตบอลเวียดนาม อาจจะพิจารณาเลื่อนเกมนัดสุดท้ายฤดูกาลปกติ รวมถึงเกมรอบชิงแชมป์ลีก ไปเตะในเดือนก.พ.ปีหน้า เนื่องสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไม่มีทีท่าว่าจะเบาบางลง

สถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ของประเทศเวียดนามในขณะนี้ ทวีความรุนแรงมากขึ้น ยอดผู้ติดเชื้อในรอบ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่วันละ 3,219 คน และมียอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 51,002 คน ส่งผลให้รัฐบาลเวียดนาม ตัดสินใจล็อกดาวน์เมืองทางตอนใต้ของประเทศที่มีอัตราการแพร่ระบาดสูง เช่น โฮจิมินห์ ซิตี้ และกำลังพิจารณาล็อกดาวน์เมืองหลวงของประเทศอย่างฮานอย ด้วย

ส่วนฟุตบอลในลีกเวียดนาม (วีลีก) จำเป็นต้องหยุดการแข่งขัน เดิมที ฟุตบอลวี-ลีก จะมีกำหนดการกลับมาแข่งอีกครั้งในวันที่ 31 ก.ค. หลังแข่งขันไปแล้ว 12 นัด โดยยังเหลือเกมในสเตจแรกอีก 1 นัด และสเตจที่ 2 ที่จะนำทีมอันดับ 1-6 ในสเตจแรกมาชิงแชมป์กันอีก 5 เกม และอันดับ 7-14 ที่จะชิงแชมป์ในสเตจที่ 2 อีก 7 เกม

แต่จากสถานการณ์แพร่ระบาดครั้งนี้ ทำให้สมาคมฟุตบอลอาชีพเวียดนาม (VPF) มีมติให้ฟุตบอลลีกเวียดนามเลื่อนการแข่งขันในปี 2021 และกลับมาแข่งขันอีกครั้งในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2022 โดยจะแข่งขันให้จบในเดือนมีนาคม และเปิดฤดูกาล 2022 ในเดือนกรกฎาคม ขั้นตอนเหลือเพียงการอนุมัติจากสหพันฟุตบอลเวียดนาม (VFF) ที่จะชี้ขาดในขั้นตอนสุดท้าย

การเลื่อนโปรแกรมในลักษณะเช่นนี้ จะทำให้ทีมฟุตบอลทีมชาติเวียดนาม สามารถโฟกัสกับโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ที่จะแข่งขันจำนวน 6 เกม ในเดือนกันยายน, ตุลาคม, พฤศจิกายน รวมถึงฟุตบอลเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 ในช่วงวันที่ 5 ธันวาคม 2021 – 1 มกราคม 2022 และยังมีโปรแกรมฟุตบอลยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย 2022 รอบคัดเลือก อีกหนึ่งรายการ

แต่การตัดสินใจเช่นนี้ ทำให้สโมสรในวี-ลีก แสดงความไม่เห็นด้วย อย่างเช่น ตรัน ไท ตวน ผู้อำนวยการสโมสรนัม ดินห์ เปิดเผยว่า “แนวคิดนี้เป็นแนวทางที่ใช้ไม่ได้ เพราะแค่นี้สโมสรทั้ง 14 ทีมก็ต้องแบกรับค่าใช้จ่าย ในระยะเวลา 6 เดือนที่ไม่มีโปรแกรมแข่งขัน และถ้าสถานการณ์โควิด-19 ไม่ดีขึ้น จะเป็นอย่างไร หากสมาคมฟุตบอลเวียดนามตัดสินใจเช่นนี้ ทีมในวี-ลีก จะตายกันหมด”

เช่นเดียวกับสโมสรฮองอันห์ ยาลาย ต้นสังกัดปัจจุบันของ “ซิโก้เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือใหญ่ได้แถลงข่าวว่า “เราควรคิดถึงผลกระทบของผู้เล่น 400 คนที่จะตามมา เรามีผู้เล่นทีมชาติ 40-50 คน แต่ที่เหลือจะทำอย่างไร สโมสรคงไม่สามารถปล่อยให้พวกเขาว่างงานได้ ส่วนนักเตะต่างชาติ เราก็ไม่สามาถยกเลิกสัญญาได้ เพราะค่ายกเลิกสัญญาแพงมาก”

ทั้งนี้รายงานจาก VNEXPRESS สื่อกีฬาในเวียดนาม ระบุว่า ทั้ง 14 สโมสรในลีกสูงสุดของเวียดนาม มีค่าเฉลี่ยเงินเดือนนักเตะอยู่ที่เดือนละประมาณ 1.4-3 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าสหพันธ์ฟุตบอลเวียดนาม จะมีบทสรุปในประเด็นนี้อย่างเร่งด่วน ภายในสัปดาห์นี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน