พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ จอมเตะฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ เผยรู้สึกอบอุ่นหลังเดินทางถึงไทย ยันถ้าร่างกายพร้อมก็อยากแข่งโอลิมปิก 2024 อีก

เมื่อวันที่ 26 กรกฏาคมที่ผ่านมา ที่สนามบินนานาชาติภูเก็ต นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมคณะ ได้นำฮีโร่เหรียญทองประวัติศาสตร์เทควันโดโอลิมปิกเกมส์ “น้องเทนนิส”พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ จอมเตะหมายเลข 1 ของโลก พร้อมด้วย นายธนฑิตย์ รักตะบุตร เลขาธิการสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้จัดการทีม, โค้ช เช ยอง ซอก หัวหน้าผู้ฝึกสอนเทควันโดทีมชาติไทย , โค้ชวิชิต สิทธิกัณฑ์ และ “จูเนียร์”รามณรงค์ เสวกวิหารี นักเทควันโดรุ่น 58 กก.ชาย เดินทางกลับจากการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

โดยสายการบิน สิงโปร์แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ SQ726 มาถึงเมืองไทย ลงเครื่องที่สนามบินนานาชาติภูเก็ต เมื่อเวลา 09.25 น. พร้อมเข้าโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เป็นเวลา 14 วัน โดยมีชาวเมืองภูเก็ตแห่มาให้การต้อนรับสุดอบอุ่น

“เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ เจ้าของเหรียญทองเทควันโดโอลิมปิกเกมส์ กล่าวว่า วันนี้กลับมาถึงประเทศไทย ดีใจ รู้สึกอบอุ่นมากๆ ที่มีพี่ๆ ทุกคนมาต้อนรับ ดีใจที่สุดในชีวิต โดยเฉพาะได้รับพระมหากรุณาธิคุณดอกไม้พระราชทานจาก สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงพระราชทานให้ และกำลังใจจากพระองค์ที่ส่งถึงทีมงานทุกคน ส่วนตอนนี้ มาถึงภูเก็ต ตนอยากกินคุกกี้ เค้ก พวกอาหารทะเล และเนื้อย่าง ส่วนเป้าหมายหลังจากนี้ ยังคงขอทำหน้าที่ต่อไป อยากทำไปทีละขั้นเหมือนตอนทำผลงานในทุกสนามให้ดีที่สุด ในขณะที่ร่างกายยังสมบูรณ์ดีพร้อมก็อยากไปแข่งโอลิมปิกเกมส์ 2024 ให้ได้ ขอบคุณคนไทยทั้งประเทศที่ตามเชียร์ วันนี้ได้เหรียญทองกลับบ้านแล้วอยากมอบให้คนไทยทุกคน ขอขอบคุณมากๆ ค่ะ

ด้านโค้ชเช ยอง ซอก หัวหน้าผู้ฝึกสอนเทควันโด ทีมชาติไทย เปิดเผยว่า ดีใจมากครับ อยู่เมืองไทยมาเกือบ 20 ปี ทุกครั้งที่คุมทีมชาติไทยไปแข่งขัน ทำเต็มที่ที่สุด ดีใจที่สุดชัยชนะครั้งนี้ไม่ใช่พวกเรา แต่เป็นของคนไทยทั้งประเทศ ส่วนสัญชาติไทย ถ้าได้แล้วก็ยังคงทำหน้าที่เหมือนเดิม แต่ตอนนี้ถ้าเป็นไปได้อยากได้สัญชาติไทยเร็วๆ ครับ

คุณพ่อสิริชัย วงศ์พัฒนกิจ กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณทุกคนทั้งคนไทยที่อยู่ในประเทศไทย และคนไทยทั่วโลก ที่เชียร์กันทุกมุมโลก เชียร์กันทุกบ้าน ซึ่งกีฬาเทควันโดก็เป็นเกมที่พลิกไปพลิกมา ช่วง 4-5 วินาทีสุดท้ายเป็นเรื่องสำคัญ ว่าใครจะมีประสบการณ์ที่เหนือกว่าที่จะแก้เกมได้ แต่การแข่งขันเราก็ต้องเตรียมใจ ไม่แพ้ก็ชนะ แต่ครั้งนี้ตน และทีมงานเทควันโดทุกคนก่อนไปเรามั่นใจว่า นิส ต้องได้เหรียญทองและเราก็ทำได้สำเร็จ ซึ่งช่วง 7 วินาทีสุดท้ายมันเหมือนกับที่เราไปแข่ง ริโอเกมส์ 2016 โดยตอนนั้นหรือ 4 วินาทีสุดท้าย เรานำอยู่ 6-4 นิส พยายามเข้าไปแลกเพื่อทำแต้มให้ขาดแต่ไปพลาดท่าให้เขาเตะหัว เราเลยต้องแพ้ 1 แต้ม ซึ่งประสบการณ์ครั้งนั้นคงจดจำว่าช่วงวินาทีสุดท้ายประมาทไม่ได้ และที่สำคัญครั้งนี้ก่อนการแข่งขันทุกครั้ง นิส จะโทรไลน์มาคุยทุกครั้ง ตนได้ให้กำลังใจและบอก นิส ต้องสู้จนวินาทีสุดท้าย เพื่อนำเหรียญทองกลับมาให้ได้ เพื่อให้คนไทยทั้งประเทศได้ชื่นชม และมีความสุข เพราะตนย้ำเสมอว่า นิส ไปแข่งในนามของคนไทยทั้งประเทศ เมื่อ นิส ชนะ เท่ากับคนไทยทั้งประเทศชนะ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน