โค้ชเช – การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) จัดพิธีมอบบัตรอวยพร แสดงความยินดีแก่ผู้ที่ได้รับเหรียญทอง ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 32 เบื้องหน้า พระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี ให้แก่ พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักกีฬาเทควันโดหญิงทีมชาติไทย บริเวณห้องโถง ชั้น 1 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา กกท. หัวหมาก เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2564






“เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ที่สร้างประวัติศาสตร์ คว้าเหรียญทองแรกให้กีฬาเทควันโด ในโอลิมปิก โตเกียว 2020 กล่าวว่า ตน และครอบครัว รวมถึงสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย ปลาบปลื้มในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ มอบบัตรอวยพรแสดงความยินดี มีใจความว่า ขอแสดงความยินดีกับคุณพาณิภัค ที่ประสบความสำเร็จในกีฬาโอลิมปิก มาให้ อย่างหาที่สุดมิได้ นับเป็นกำลังใจสำคัญ ในการสร้างผลงาน สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย ต่อไป

วันเดียวกัน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ “บิ๊กเอ” ผศ.ดร.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศพา โค้ช เช ยอง ซอก หัวหน้าผู้ฝึกสอนเทควันโดทีมชาติไทย และทนายความ มายื่นเอกสารขอสัญชาติไทยอย่างเป็นทางการ ต่อ พ.ต.อ.เอกพงษ์ กองนาค ผู้กำกับการฝ่ายกฏหมายและวินัย บก.อก.บช.ส เบื้องต้นจัดให้มีการสอบสัมภาษณ์ และทดสอบทักษะความเป็นคนไทย ประเมินเป็นคะแนนด้วย

ผศ.ดร.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดฯ กล่าวว่า วันนี้ได้พาโค้ชเช มายื่นเอกสาร ขอสัญชาติไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งโค้ชเช ได้ยื่นเอกสารครบทั้งหมด ได้สอบสัมภาษณ์ พิมพ์ลายนิ้วแล้ว จากนี้ไปทุกอย่างอยู่ในมือภาครัฐ ซึ่งก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ภาครัฐจะดำเนินการได้เร็วเพื่อให้โค้ชเช เป็นคนไทยได้เร็วที่สุด

ขณะที่ เช ยอง ซอก เปิดเผยว่า ตอนนี้ ตนชื่อ ชัชชัย ชเว แล้ว การได้มาทำเรื่องโอนสัญชาติ รู้สึกดีใจมาก ๆ และขอขอบคุณ ผศ.ดร.พิมล ศรีวิกรม์ ที่ช่วยเดินเรื่องให้ทุกอย่าง ตนอยากอยู่เมืองไทยนาน ๆ ตนรักเมืองไทย และครอบครัวก็รักเมืองไทย ที่ผ่านมาอยู่เมืองไทยมา 20 ปี ทำอะไรไม่ได้หลายอย่าง เพราะเราไม่ได้เป็นคนไทย แต่หลังจากนี้ คงได้เป็นคนไทยอย่างเต็มตัว ซื้อบ้านในเมืองไทย อยู่ไปตลอดชีวิต

“ตอนไปยื่นเอกสาร ผมมีโอกาสได้สอบสัมภาษณ์ทดสอบความเป็นคนไทย ซึ่งผลออกมา 100 คะแนนเต็ม รู้สึกยินดี และอนาคตถึงตนจะมีชื่อไทยเป็น ชัชชัย แต่ก็ยังให้คนไทยทุกคนเรียกผมโค้ชเช เหมือนเดิมได้”

ส่วน พ.ต.อ.เอกพงษ์ กองนาค ผู้กำกับการฝ่ายกฏหมายและวินัย บก.อก.บช.ส. เปิดเผยว่า กรณีของโค้ชเช ขอยื่นสัญชาติไทย ตามพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2508 ซึ่งมีเงื่อนไขว่า 1.โค้ชเช ต้องมีอายุบรรลุนิติภาวะ แล้ว ในส่วนที่ 2.เรื่องความประพฤติเราต้องตรวจสอบทั้งทางคดีอาญา และคดีความมั่นคงว่ามีคดีหรือไม่ ส่วนต่อไปคือการมีอาชีพ ซึ่งโค้ชเช มีอาชีพเป็นโค้ชทีมชาติ

ส่วนที่ 4.คือมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย ต้องไม่น้อยกว่า 5 ปี และส่วนที่ 5 ต้องมีความรู้ด้านภาษาไทย แต่เนื่องจากโค้ชเช เป็นผู้ที่ประกอบความดีความชอบ เข้าเงื่อนไขตามพระราชบัญญัติสัญชาติ มาตรา 11(1) เป็นไปตามแนวทางของ การกระทรวงมหาดไทย โดยหลังจากนี้ เราจะตรวจสอบเอกสารต่าง ๆ ให้ครบทั้ง 5 ส่วน และเมื่อได้เอกสารครบถ้วนแล้ว เราจะทำเรื่องเสนอไปที่ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ซึ่งจะทำเรื่องเข้าอนุกรรมการกลั่นกรองของมหาดไทย โดยมีอธิบดีกรมการปกครอง เป็นประธาน แล้วจะส่งเข้าคณะกรรมการชุดใหญ่ที่มีปลัดกระทรวง เป็นประธาน ซึ่งถ้าผ่านความเห็นชอบแล้ว จะส่งต่อไปให้รัฐมนตรีพิจารณา แล้วเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เสนอ สำนักงานราชเลขาธิการ นำความกราบบังคมทูล พระกรุณาทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต จากนั้นโค้ชเช จะต้องมาทำการปฏิญานตนว่าจะเป็นคนซื่อสัตย์สุจริตต่อประเทศไทย แล้วถึงจะส่งเรื่องกลับไปที่กระทรวงมหาดไทย เพื่อให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ว่าโค้ชเช ได้สัญชาติไทยเรียบร้อย และจะนำเอกสารนี้มาขอหนังสือรับรอง เป็นหนังสือสำคัญจากสันติบาล แล้วจะนำไปขอทำบัตรประจำตัวประชาชน ถึงจะเสร็จสิ้นสมบูรณ์ ซึ่งปกติแล้วจะใช้เวลาประมาณ 3 เดือน แต่เนื่องจากว่า ผู้บังคับบัญชาตำรวจแห่งชาติให้ความสนใจ ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล รวมถึงกระทรงมหาดไทย อาจทำให้ใช้เวลาเร็วขึ้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน