มวยสากลสมัครเล่น – 4 ปีครั้ง สำหรับมหกรรมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก เกมส์กีฬาของมวลมนุษยชาติ

ประเทศไทยส่งทัพนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขัน เพื่อสร้างประวัติศาสตร์ในการคว้าเหรียญรางวัลมามากกว่า 50 ปี ซึ่งบอกตามตรงความหวังในการคว้าเหรียญรางวัล อยู่กับสมาคมกีฬามวยสากลฯ มาโดยตลอด

ความสำเร็จของ “มวยสากล” เกิดขึ้นครึ่งแรกในโอลิมปิก1976 ที่มอนทรีออล ประเทศแคนาดา จากผลงานของ พเยาว์ พูลธรัตน์ คว้าเหรียญทองแดง ในยุคของ พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ ยมนาค เป็นนายกสมาคมฯ ถัดมา ทวี อัมพรมหา ก็สร้างประวัติศาสตร์ในการคว้า”เหรียญเงิน” ในกีฬาโอลิมปิก1984 ที่ลอสแองเจลิส สหรัฐฯ ในยุคของ พ.อ.อนุ รมยานนท์ เป็นนายกสมาคมฯ

หลังจากนั้นทำให้ไฟแห่งความหวังของ”มวยสากล” ก็ลุกโชนขึ้นมากับเป้าหมาย”เหรียญทอง” ในโอลิมปิก 1988 ที่กรุงโซล เกาหลีใต้ แต่สุดท้าย ผจญ มูลสัน ก็ทำได้ดีที่สุดแค่ “เหรียญทองแดง” ในยุคของ คุณไพโรจน์ รัตตกุล เป็นนายกสมาคมฯ

กระทั้งโอลิมปิก1992 ที่บาร์เซโลน่า ประเทศสเปน ในยุคที่มี”บิ๊กเหวียง” (พล..ท.)พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร มาเป็นนายกสมาคมฯ เราก็ทำได้เพียงแค่ “เหรียญทองแดง” เช่นเคยจากผลงานของ อาคม เฉ่งไล่

แต่ความพยายามของ “บิ๊กเหวียง” ไม่หยุดเพียงเท่านี้ เมื่อสามารถสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับกีฬาโอลิมปิกปี1996 ที่แอตแลนต้า สหรัฐฯ เมื่อ สมรักษ์ คำสิงห์ สามารถคว้า”เหรียญทอง” เหรียญแรกให้คนไทยได้ชื่นชม พร้อมกับ วิชัย ราชานนท์ คว้าเหรียญทองแดง มาครองอีก 1 รุ่น

 

ถัดมาอีก 4 ปีในโอลิมปิก2000 ที่เมืองซิดนีย์ ออสเตรเลีย ในยุคของ พล.อ.สำเภา ชูศรี เป็นนายกสมาคมฯ ก็ไม่น้อยหน้าเมื่อ วิจารณ์ พลฤทธิ์ คว้าเหรียญทอง พร้อมกับ พรชัย ทองบุราณ คว้าเหรียญทองแดง มาเช่นกัน

มาถึงโอลิมปิกปี2004 ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ ถือเป็นปีแห่งประวัติศาสตร์ ในยุคของ พล.อ.ทวีป จันทรโรจน์ ที่พาทีมกำปั้นคว้าเหรียญมาถึง 3 เหรียญครบทุกสี มนัส บุญจำนงค์ เหรียญทอง,วรพจน์ เพชรขุ้ม เหรียญเงิน และ สุริยา ปราสาทหินพิมาย เหรียญทองแดง

โอลิมปิก ปี2008 ที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน “เสธฯวีป” พล.อ.ทวีป จันทรโรจน์ ก็ยังสร้างประวัติศาสตร์ซ้ำสอง เมื่อ สมจิตร จงจอหอ คว้าเหรียญทอง พร้อมกับทำให้ มนัส บุญจำนงค์ คว้าเหรียญเงิน ซึ่งเป็นนักมวยคนแรกและคนเดียวจนถึงทุกวันนี้ที่กลับมาชกในโอลิมปิกแล้วได้เหรียญ 2 สมัยติดต่อกัน

พอมาถึงโอลิมปิก ปี2012 ที่กรุงลอนดอน อังกฤษ ในยุคของ “เสธฯอ้าย” พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ เป็นนายกสมาคมฯ กลับทำได้เพียงแค่ “เหรียญเงิน” เมื่อ แก้ว พงษ์ประยูร สู้สุดฤทธิ์แพ้ภัยการตัดสิน จนเป็นเหตุให้ “เสธฯอ้าย” ตัดสิน “ลาออก” ตามสัจจะวาจาชายชาติทหาร ถ้ามวยไม่ได้เหรียญทองกลับประเทศ

กระทั้งถึงโอลิมปิก ปี2016 ที่รีโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล ในยุคของ พิชัย ชุณหวชิร “บิ๊กบางจาก” นั่งนายกสมาคมฯ ปรากฏว่า มวยสากล กลับบ้านตัวเปล่าแบบไร้เหรียญคล้องคอกลับเมืองไทย มิหน่ำซ้ำยังทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ขันอาสานั่งเก้าอี้ “นายกฯ” ต่ออีกสมัยจนถึงโอลิมปิก2020(2021)

แม้ “น้องแต้ว” สุดาพร สีสอนดี นักชกหญิงจะคว้า “เหรียญทองแดง” กู้หน้าให้สมาคมมวยมาได้

แต่ในมุมกลับกันนั่นถือเป็นความล้มเหลว ที่น่าอายและอัปยศที่สุดของวงการมวยเสื้อกล้ามไทยในยุคนี้ ที่ 2สมัยกับโอลิมปิก ที่นายกสมาคมชื่อ “พิชัย ชุณหวชิร” สร้างความเสื่อมให้กับวงการมวยสากล แบบไม่เคยเกิดขึ้นในประวัตืศาสตร์ของนายกสมาคมคนใดมาก่อน

ถึงวันนี้แม้กระแสข่าว จะออกมาหนาหูว่า หลังการเลือกตั้งประธานโอลิมปิคไทย จะขออยู่เพื่อสู้ต่อ ใครคิดอย่างไรก็ตามแต่ แต่ในฐานะคนที่คลุกคลีและอยู่ในวงการมวยมาทั้งชีวิต

บอกได้เลยว่า มันคือระเบิดเวลาที่จะทำลายวงการมวยสากล ในอีก 3 ปีที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

แดง ตานี

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน