กลุ่มทุนจาก ซาอุดีอาระเบีย เทคโอเวอร์นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ลุล่วงเรียบร้อยแล้ว ด้วยมูลค่า 300 ล้านปอนด์ หลังเรื่องนี้กลับมาดำเนินการอีกครั้ง

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แถลงยืนยันว่า กลุ่มทุนจาก ซาอุดีอาระเบีย ประสบความสำเร็จในการเทคโอเวอร์ “สาลิกาดง”นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยมูลค่า 300 ล้านปอนด์ หลังเรื่องนี้กลับมาดำเนินการอีกครั้ง

โดยพรีเมียร์ลีกยอมอนุมัติการเทคโอเวอร์ครั้งนี้ หลังได้รับการประกันที่มีผลทางกฎหมายว่าภาครัฐซาอุดีอาระเบียจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการควบคุมสโมสร รวมถึงรายละเอียดข้อตกลงยังผ่านเกณฑ์ของกลุ่มเจ้าของและผู้อำนวยการสโมสรพรีเมียร์ลีกด้วย

สำหรับกลุ่มพับลิก อินเวสต์เมนต์ ฟันด์(พีไอเอฟ) ที่จะถือหุ้นสโมสร 80% ได้รับการยืนยันชัดเจนว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับภาครัฐซาอุดีอาระเบีย ซึ่งจากผลที่ออกมา เท่ากับว่าเป็นการสิ้นสุดระยะเวลาบริหารงานของ ไมก์ แอชลีย์ ไว้ที่ 14 ปี

แถลงการณ์จากพรีเมียร์ลีกระบุว่า “ข้อพิพาททางกฎหมายอันเกี่ยวพันกับองค์กรที่จะมีอำนาจควบคุมสโมสร พรีเมียร์ลีกได้รับการประกันแล้วว่าภาครัฐซาอุดีอาระเบียจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ซึ่งเป็นการสร้างความชัดเจนให้แก่สโมสรและแฟนบอล”

ทั้งนี้ แอชลีย์เคยตกลงขายสโมสรให้กลุ่มทุนดังกล่าวไปตั้งแต่เมื่อก่อนหน้านี้แล้ว แต่ข้อตกลงต้องล่มหลังเกิดกรณีพิพาทระหว่างซาอุดีอาระเบีย กับสถานีโทรทัศน์บีอิน สปอร์ตส์ กรณีมีการดูดสัญญาณถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีกไปแพร่ภาพในประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต

บีอินซึ่งเป็นสถานีโทรทัศน์ของกาตาร์ จึงออกโรงคัดค้านการเทคโอเวอร์ของกลุ่มทุนนี้ โดยให้เหตุผลว่าเรื่องที่เกิดขึ้นสร้างความเสียหายแก่ผู้ครองลิขสิทธิ์่ถ่ายทอดสด กระทั่งทั้ง 2 ฝ่ายเคลียร์ใจ และหาทางออกร่วมกันได้เมื่อ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ประเทศซาอุดีอาระเบียยังถูกโจมตีอย่างหนักเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนในชาติ แต่พรีเมียร์ลีกพิจารณาตามเงื่อนไขต่าง ๆ พบว่าไม่มีอะไรติดขัดกับการให้กลุ่มทุนนี้เทคโอเวอร์นิวคาสเซิล จึงอนุมัติให้ในที่สุด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน