โปรตุเกสถลุงลักเซมเบิร์ก คริสเตียโน โรนัลโด ทำแฮตทริกได้ ส่วนเดนมาร์กเฉือนออสเตรีย รักษาสถิติชนะรวด และการันตีตั๋ว ฟุตบอลโลก เรียบร้อยแล้ว
การแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม กลุ่มเอ “ฝอยทอง”โปรตุเกส เปิดสนามเอสตาดิโอ โด อัลการ์เว รับการมาเยือนของลักเซมเบิร์ก
- ปีศาจแดงแถลง ราฟาเอล วาราน เจ็บขาหนีบ – ส่อชวดบู๊ศึกแดงเดือด
- เวเนเซีย คว้า เซร์คิโอ โรเมโร อดีตนายด่าน แมนฯยู เฝ้าเสาไร้ค่าตัว
- อังกฤษ เตรียมต่อสัญญา เซาธ์เกต คุมทัพต่อหลัง ฟุตบอลโลก 2022
เกมนี้เจ้าถิ่นส่ง คริสเตียโน โรนัลโด, แบร์นาร์โด ซิลวา, อังเดร ซิลวา ลงตัวจริง ส่วนทีมเยือนใช้งาน ดาเนล ซินานี, เซบาสเตียง ธิลล์, เลอันโดร บาร์เรยโร
เริ่มเกมมาแค่ 6 นาที แบร์นาร์โด ซิลวา พยายามเลี้ยงผ่านกองหลังเข้าทางด้านขวาของเขตโทษ แล้วถูกขัดขาล้มลง ผู้ตัดสินมองว่าเข้าพื้นที่เขตโทษแล้ว จึงกลายเป็นจุดโทษของโปรตุเกส คริสเตียโน โรนัลโด ซัดไม่เหลือ เจ้าถิ่นนำ 1-0
นาที 10 คริสเตียโน โรนัลโด เลี้ยงผ่านกองหลังทางด้านขวาของเขตโทษ แล้วโดนผู้รักษาประตูปราดออกมารวบล้มลง โปรตุเกสได้จุดโทษอีกครั้ง โรนัลโดลุกมาสังหารตุงตาข่าย
อย่างไรก็ตาม ผู้ตัดสินให้ยิงใหม่เพราะมีผู้เล่นโปรตุเกสรายอื่นวิ่งเข้าเขตโทษก่อนที่เท้าโรนัลโดจะสัมผัสบอล ซึ่งโรนัลโดยิงอีกรอบก็ไม่พลาดอยู่ดี โปรตุเกสจึงทิ้งห่างไป 2-0
นาที 17 แบร์นาร์โด ซิลวา ได้บอลบริเวณมุมด้านขวาของเขตโทษ ก่อนจ่ายให้ บรูโน แฟร์นานเดส สอดมายิงมุมแคบผ่านเซฟนายทวารเข้าไป ครึ่งแรกเจ้าถิ่นนำห่าง 3-0
ครึ่งหลังนาที 68 คริสเตียโน โรนัลโด เกือบทำแฮตทริก เมื่อใช้เท้ารับบอลในเขตโทษแล้วเด้งลอยขึ้น เจ้าตัวจึงกระโดดยิงด้วยท่าจักรยานอากาศ แต่นายทวารยังโดดปัดทิ้งทัน
อย่างไรก็ตาม จากลูกเตะมุมต่อเนื่องนาที 69 บรูโน แฟร์นานเดส เปิดมาให้ เชา ปาลินญา ขึ้นโขกเข้าไป โปรตุเกสทิ้งห่าง 4-0
นาที 87 รูเบน เนเวส เปิดบอลลึกไปหน้าประตู คริสเตียโน โรนัลโด จึงโฉบมาโขกเผาขนตุงตาข่าย ผู้ตัดสินเช็กวีเออาร์แล้วตัดสินว่าไม่ล้ำหน้า กลายเป็นแฮตทริกของโรนัลโดจนได้ พร้อมกับที่โปรตุเกสชนะขาดลอย 5-0
โดยโรนัลโดบวกสถิติการเป็นนักเตะที่ยิงประตูให้ทีมชาติสูงสุดตลอดกาล ตอนนี้กดเพิ่มเป็น 115 ลูก จากการเล่นให้โปรตุเกส 182 นัด และผลงานแมตช์นี้ยังแฮตทริกครั้งที่ 10 ในนามทีมชาติของเจ้าตัวด้วย
ผลอีกคู่ในกลุ่มนี้ เซอร์เบีย ชนะ อาเซอร์ไบจาน 3-1
สถานการณ์ล่าสุด เซอร์เบียนำจ่าฝูง(ลงเตะ 7 นัด 17 คะแนน) อันดับ 2 โปรตุเกส(ลงเตะ 6 นัด 16 คะแนน) ทั้งคู่การันตีได้เพลย์ออฟเป็นอย่างน้อย แต่ยังต้องไปแย่งเข้ารอบแบบอัตโนมัติต่อไป
ส่วนอันดับ 3 ลักเซมเบิร์ก(6 นัด 6 คะแนน) อันดับ 4 ไอร์แลนด์(6 นัด 5 คะแนน) อันดับ 5 อาเซอร์ไบจาน(7 นัด 1 คะแนน) ตกรอบแล้วทั้งหมด
ด้านกลุ่มเอฟ “โคนม”เดนมาร์ก เปิดสนามปาร์เกน สเตเดียม เฉือนชนะออสเตรีย 1-0
เกมนี้เจ้าถิ่นได้ประตูชัยจาก โยอาคิม เมห์เล นาที 53
คู่อื่นในกลุ่มนี้ หมู่เกาะแฟโร แพ้ สกอตแลนด์ 0-1, อิสราเอล ชนะ มอลโดวา 2-1
ทำให้ผ่าน 8 นัดเท่ากันทุกทีม เดนมาร์กยังรักษาสถิติชนะรวด เก็บไป 24 คะแนนเต็ม การันตีซิวแชมป์กลุ่ม คว้าตั๋วฟุตบอลโลกทีมที่ 3 ต่อจากเจ้าภาพกาตาร์ และเยอรมนี นับเป็นการได้ลุยรอบสุดท้ายหนที่ 6
ส่วนอันดับ 2 สกอตแลนด์(17 แต้ม) อันดับ 3 อิสราเอล(13 แต้ม) ต้องไปแย่งเพลย์ออฟกันต่อ ขณะที่อันดับ 4 ออสเตรีย(10 แต้ม) ไม่เหลือความหวังอะไรในรอบคัดเลือกปกตินี้แล้ว แต่ยังมีโอกาสได้เตะเพลย์ออฟอยู่ โดยต้องรอลุ้นจากโควต้ายูฟ่า เนชันส์ ลีก
ด้านอันดับ 5 หมู่เกาะแฟโร(4 แต้ม) อันดับ 6 มอลโดวา(1 แต้ม) ตกรอบสนิท
กลุ่มไอ “สิงโตคำราม”อังกฤษ รองแชมป์ยูโร 2020 เปิดสนามเวมบลีย์ สเตเดียม เสมอกับ “แม็กยาร์”ฮังการี 1-1
เจ้าถิ่นได้จาก จอห์น สโตนส์ นาที 37 ส่วนทีมเยือนได้จาก โรลันด์ ซัลไล นาที 22(จุดโทษ)
คู่อื่นในกลุ่มนี้ แอลเบเนีย แพ้ โปแลนด์ 0-1, ซานมาริโน แพ้ อันดอร์รา 0-3
ผลกลุ่มอื่น
กลุ่มบี
สวีเดน 2-0 กรีซ
โคโซโว 1-2 จอร์เจีย
กลุ่มซี
ลิทัวเนีย 0-4 สวิตเซอร์แลนด์
บัลแกเรีย 2-1 ไอร์แลนด์เหนือ
กลุ่มดี
คาซัคสถาน 0-2 ฟินแลนด์
ยูเครน 1-1 บอสเนีย