ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กล่าวว่า การแก้ไขร่างกฎหมายพระราชบัญญัติควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา คณะกรรมการกฤษฎีกา ได้พิจารณาร่างกฎหมายรายมาตราครบทั้งฉบับแล้ว และจะมีการพิจารณาอีกครั้ง

ในส่วนเรื่องธงชาติไทย ที่ถูกห้ามตอนนี้ ทาง กกท.ได้ดำเนินเพื่อเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ได้ประสานขออนุญาตใช้ธงที่มีตราสัญลักษณ์คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ และ คณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย เพื่อใช้แทนธงชาติไทย นอกจากนี้ในส่วนของกองเชียร์สามารถโบกสะบัดธงชาติไทยในสนามได้เช่นกันโดยไม่ผิดกฎของวาด้า

กกท. ขอแจ้งแนวทางการปฏิบัติตามประกาศของ องค์การต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก หรือ วาดา ลงวันที่ 14 ตุลาคม 2564 เกี่ยวกับผลกระทบเนื่องจากการไม่ปฏิบัติตามประมวลกฎการต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก (WADA Code) โดยมีประเด็นสำคัญ คือ

1. ประเทศไทย สามารถจัดการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ ในระดับภูมิภาค, ระดับทวีป และระดับโลก ในรายการที่ได้รับสิทธิ์ในการเป็นเจ้าภาพ ก่อนวันที่บทลงโทษจากวา จะมีผล (ก่อนวันที่ 8 ตุลาคม 2564) และประเทศไทย จะไม่สามารถเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาในระดับนานาชาติทุกระดับ หลังจากบทลงโทษมีผล ทั้งนี้ บทลงโทษข้อนี้ ไม่ได้บังคับใช้กับการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกเกมส์

2. ประเทศไทย สามารถใช้ธงชาติไทย ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก พาราลิมปิก โอลิมปิกฤดูหนาว และยูธโอลิมปิก ได้ แต่ ห้ามใช้ธงชาติไทยในการแข่งขันมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติ ในระดับภูมิภาค, ระดับทวีป และระดับโลก รวมทั้งรายการแข่งขันที่สหพันธ์เป็นผู้จัดการแข่งขันในทุกระดับ จะไม่สามารถใช้ธงชาติไทยได้เช่นกัน สำหรับเครื่องแต่งกายของนักกีฬาไทย ที่เข้าร่วมการแข่งขันทุกระดับ สามารถติดธงชาติไทยและใช้ข้อความว่า THAILAND บนเครื่องแต่งกายได้ทุกรายการ

3. เพื่อให้การใช้ธงชาติไทย ในรายการที่มีข้อห้าม เป็นไปในทิศทางเดียวกัน กกท. อยู่ในระหว่างการประสานขออนุญาตใช้ธงที่มีตราสัญลักษณ์คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ และ คณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย เพื่อใช้แทนธงชาติไทย ซึ่งในระหว่างนี้ ขอให้สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย ประสานไปยังสหพันธ์กีฬาของตนเอง เพื่อขอใช้ธงสมาคมกีฬา หรือ ธงสหพันธ์ ในการเข้าร่วมการแข่งขันไปพลางก่อน และกกท. จะมีหนังสือแจ้งให้ทราบและถือปฏิบัติต่อไป
ในส่วนของกองเชียร์คนไทย ที่เดินทางไปร่วมเชียร์หรือคนไทยที่อยู่ในประเทศที่จัดในมหกรรมการแข่งขันกีฬานั้น ๆ สามารถที่จะนำธงชาติไทยไปโบกสะบัดเชียร์ทีมไทยได้ โดยทางวาดา ไม่ได้มีข้อห้ามนี้ไว้

4. ก่อนจะมีการดำเนินการใด ๆ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ ในทุกระดับ ขอให้สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย ประสานสหพันธ์กีฬาที่สังกัด เพื่อสอบถามแนวทางในการปฏิบัติเพื่อความถูกต้องต่อไป

ส่วนความคืบหน้าของการแก้ไขร่างกฎหมายพระราชบัญญัติควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2564 คณะกรรมการกฤษฎีกาได้พิจารณาร่างกฎหมายรายมาตราครบทั้งฉบับแล้ว และจะมีการพิจารณาอีกครั้ง เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วจะมีการแปลเป็นภาษาอังกฤษเพื่อส่งให้ วาดา พิจารณาให้ความเห็นทันที โดยเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2564 กกท. มีหนังสือรายงานความคืบหน้าต่อวาดา อย่างเร่งด่วนแล้ว

และสืบเนื่องจากที่ผู้ว่าการกกท. ได้ตั้งคณะทำงานบริหารจัดการศูนย์บริหารและบริการข้อมูลกรณีผลกระทบที่เกิดขึ้นจาก วาดา ประกาศไม่ให้การรับรองประเทศไทย โดยมี ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการกกท. เป็นประธานคณะทำงานฯ และได้จัดตั้ง “ศูนย์อำนวยการข้อมูลกรณีผลกระทบจากวาดา” ขึ้น โดย นายประชุม บุญเทียม รองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา ได้เข้าตรวจเยี่ยมศูนย์ฯ พร้อมทั้งมอบแนวทางในการดำเนินการตอบข้อซักถาม และประสานข้อมูลกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นให้กับสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย และผู้ที่ได้รับผลกระทบจากกรณี WADA โดยสามารถติดต่อได้ที่ โทรศัพท์ 02-186 7255 , 02-186 7111 ต่อ 7255 ในวันและเวลาราชการ อีเมล Email : [email protected]

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน