เชลซีโชว์ฟอร์มสมราคาแชมป์เก่ายูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก เมื่อเปิดบ้านถล่มยูเวนตุสขาดลอย ฉลุยสู่รอบน็อกเอาต์อีกทีม ส่วนบาร์ซ่าเจ๊าจืด ต้องลุ้นถึงเกมสุดท้าย

การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน กลุ่มเอช “สิงโตน้ำเงินคราม”เชลซี แชมป์เก่าจากอังกฤษ เปิดสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ รับการมาเยือนของ “ม้าลาย”ยูเวนตุส จากอิตาลี

เกมนี้เจ้าถิ่นจัด คริสเตียน ปูลิซิช, ฮาคิม ซิเยช, คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย ลงนำเกมรุก ส่วนทีมเยือนใช้งาน อัลบาโร โมราตา, เฟเดริโก เคียซา, มานูเอล โลคาเตลลี

นาที 24 เชลซีได้ฟรีคิกทางกราบซ้าย รีซ เจมส์ ตัดสินใจลองปั่นหวังยิงเข้าเสาแรก วอยเช็ก เชสนี ยังพุ่งปัดทิ้งได้ทัน

นาที 25 ฮาคิม ซิเยช เปิดเตะมุมฝั่งซ้ายเข้าเขตโทษ บอลกระทบตัว อันโตนิโอ รูดิเกอร์ แล้วตกมาที่ เทรโวห์ ชาโลบาห์ วอลเลย์เสียบตาข่าย เชลซีจึงออกนำ 1-0

นาที 28 ยูเวนตุสน่าตีเสมอ มานูเอล โลคาเตลลี ยกบอลทะลุผ่านแนวรับให้ อัลบาโร โมราตา ปราดเข้ากระดกผ่านนายทวารไปแล้ว ติอาโก ซิลวา ยังไวตามไปเตะบอลทิ้งก่อนผ่านเข้าเส้นประตูนิดเดียว

นาที 37 โอกาสเป็นของเชลซี คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย กระดกบอลลอยไปให้ รีซ เจมส์ รับได้แล้วกดจากบริเวณริมกรอบเขตโทษด้านขวา วอยเช็ก เชสนี ต้องล้มตัวปัดทิ้ง จบครึ่งแรกเชลซีนำ 1-0

ครึ่งหลังนาที 56 เบน ชิลเวลล์ เปิดบอลจากฝั่งซ้ายเข้าเขตโทษ กองหลังยูเวนตุสโหม่งสกัดแล้วลูกหลุดมาเสาสอง รีซ เจมส์ จึงพักด้วยอกแล้ววอลเลย์มุมแคบเสียบตาข่าย เชลซีบวกเพิ่มเป็น 2-0

นาที 58 รูเบน ลอฟตัส-ชีก พยายามเลี้ยงบอลแหวกดงแนวรับยูเวนตุสในเขตโทษ แล้วบอลมาเข้าทางปืน คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย ซัดไม่เหลือ สกอร์จึงห่าง 3-0

นาที 83 ยูเวนตุสมีโอกาสตีไข่แตก เปาโล ดีบาลา ส่งบอลให้ เวสตัน แม็กเคนนี วอลเลย์จากหน้าเขตโทษ เอดูอาร์ เมนดี กระโดดปัดทิ้งได้ทัน

นาที 87 เชลซีเกือบบวกเพิ่ม ติโม แวร์เนอร์ ได้บอลหน้าเขตโทษ แล้วแปะให้ ฮาคิม ซิเยช หลุดเข้าไปยิงในเขตโทษ วอยเช็ก เชสนี ยังเซฟไว้ได้

นาที 90 ฮาคิม ซิเยช ได้บอลทางริมกรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนเปิดเรียดเข้าไปหน้าประตูให้ ติโม แวร์เนอร์ ชาร์จเผาขนไม่เหลือซาก ปิดท้ายให้เชลซีชนะขาดลอย 4-0

อีกคู่ในกลุ่มนี้ มัลโม(สวีเดน) เสมอ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก(รัสเซีย) 1-1

ทำให้ผ่านไป 5 นัด เชลซีขึ้นมานำจ่าฝูง ส่วนยูเวนตุสหล่นไปรองจ่าฝูง โดยมี 12 คะแนนเท่ากัน แต่เชลซีเฮดทูเฮดดีกว่า ซึ่งทั้งคู่ผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์แล้ว ขณะที่อันดับ 3 เซนิตฯ (4 คะแนน) ได้ไปยูฟ่า ยูโรปา ลีก ส่วนอันดับ 4 มัลโม (1 คะแนน) ตกรอบสนิท

กลุ่มอี “เจ้าบุญทุ่ม”บาร์เซโลนา จากสเปน เปิดบ้านเสมอ “เหยี่ยวลิสบอน”เบนฟิกา จากโปรตุเกส 0-0

ผลอีกคู่ ดินาโม เคียฟ(ยูเครน) แพ้ บาเยิร์น มิวนิก(เยอรมนี) 1-2

ทำให้ผ่านไป 5 นัดเท่ากัน บาเยิร์นชนะรวด เก็บไป 15 คะแนนเต็ม เข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มแน่นอนแล้ว ส่วนอันดับ 2 บาร์เซโลนา (7 คะแนน), อันดับ 3 เบนฟิกา (5 คะแนน) ต้องไปแย่งเข้ารอบกันแมตช์สุดท้าย ด้านอันดับ 4 ดินาโม เคียฟ (1 คะแนน) ตกรอบ

กลุ่มเอฟ “เรือดำน้ำสีเหลือง”บียาร์เรอัล จากสเปน แพ้คารังต่อ “ปีศาจแดง”แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จากอังกฤษ 0-2

ทีมเยือนได้ประตูจาก คริสเตียโน โรนัลโด นาที 78, เจดอน ซานโช นาที 90

ผลอีกคู่ ยัง บอยส์(สวิตเซอร์แลนด์) เสมอ อตาลันตา(อิตาลี) 3-3

ทำให้ผ่าน 5 นัด แมนฯ ยูไนเต็ดมี 10 คะแนน นำจ่าฝูงและการันตีผ่านเข้ารอบแล้ว ส่วนอันดับ 2 บียาร์เรอัล (7 คะแนน) และอันดับ 3 อตาลันตา (6 คะแนน) ต้องไปชิงเข้ารอบกันในแมตช์สุดท้าย ขณะที่อันดับ 4 ยัง บอยส์ (4 คะแนน) เหลือลุ้นแค่ตั๋วยูฟ่า ยูโรปา ลีก

กลุ่มจี เซบียา จากสเปน เปิดบ้านเอาชนะ “หมาป่า”โวล์ฟสบวร์ก จากเยอรมนี 2-0

เจ้าบ้านได้ประตูจาก โจอัน ฆอร์ดัน นาที 13, ราฟา มีร์ นาที 90

ผลอีกคู่ ลีลล์(ฝรั่งเศส) ชนะ เรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก(ออสเตรีย) 1-0

ทำให้ผ่าน 5 นัด ลีลล์นำจ่าฝูง (8 คะแนน), อันดับ 2 ซัลซ์บวร์ก (7 คะแนน), อันดับ 3 เซบียา (6 คะแนน), อันดับ 4 โวล์ฟสบวร์ก (5 คะแนน) ทุกทีมต่างยังมีลุ้นเข้ารอบ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน