“บิ๊กเสือ”นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) กล่าวถึงภารกิจของทัพนักกีฬาไทยตลอดปี2561 นี้ว่าตลอดปีจะเป็นปีที่หนักของทัพไทย เพราะมีทัวร์นาเมนต์กีฬาสำคัญๆ ให้แข่งขันกันตลอด เริ่มจากกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ฤดูหนาว 2018 ที่เมืองพยองชัง ประเทศเกาหลีใต้ ระหว่างวันที่ 9-25 ก.พ. รายการนี้ตั้งเป้าว่านักกีฬาจะทำสถิติได้ดีขึ้นจาก 4 ปีที่แล้ว เพราะโอกาสในการลุ้นเหรียญรางวัลยังยากอยู่
รายการถัดมาระหว่าง 19-29 มี.ค. จะเป็นการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 34 “น่านเกมส์” ที่จ.น่าน และมหกรรมอย่างกีฬาผู้สูงอายุแห่งชาติ ซึ่งเจ้าภาพกีฬาเยาวชนแห่งชาติจะต้องจัดมหกรรมนี้ต่อ ขณะที่ระหว่างวันที่ 18 ส.ค. – 2 ก.ย. จะเป็นมหกรรมใหญ่สุดของปีคือกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่กรุงจาการ์ตา และเมืองปาเล็มบัง ประเทศอินโดนีเซีย รายการนี้ตั้งเป้าว่าทัพไทยจะต้องได้ไม่ต่ำกว่าเมื่อ 4 ปีที่แล้วคือ 20 เหรียญทอง
หลังจากนั้นจะมีรายการสปอร์ตฮีโร่แห่งชาติ ครั้งที่ 2 ปรีอีเวนต์ ที่จ.ชลบุรี ในเดือนกันยายน ต่อด้วยกีฬาผู้พิการทางสมอง สเปเชียลโอลิมปิก ที่จ.ชลบุรี ส่วนในช่วง 6-18 ตุลาคม จะมีการแข่งขันกีฬายูธโอลิมปิเกมส์ ครั้งที่ 3 ที่กรุงบูโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ตั้งเป้าว่าทัพไทยจะต้องมี 4 เหรียญหรือมากกว่า แต่ไม่ควรต่ำกว่าเมื่อ 4 ปีที่แล้วที่เมืองนานจิง ประเทศจีน ปิดท้ายปีด้วยกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 46 “เจียงฮายเกมส์” ระหว่างวันที่ 18-28 พ.ย. ที่จ.เชียงราย
