ความเคลื่อนไหวการแข่งขันฟุตบอลอุ่นเครื่องตามปฏิทินฟีฟ่าเดย์ ประจำเดือนมีนาคม เมื่อวันที่ 24 มี.ค.65 ที่สนามชลบุรี สเตเดี้ยม เวลา 19.00 น. ขุนพล “ช้างศึก” ทีมชาติไทยชุดใหญ่ ทีมอันดับ 112 ของโลก ลงสนามพบ ทีมชาติเนปาล ทีมอันดับ 167 ของโลก ภายใต้การนำของ มาโน โพลกิง กุนซือใหญ่ทีมชาติไทย ชาวบราซิเลียน และ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมชาติไทย
โดยครั้งนี้เป็นการพบกันครั้งแรกในรอบ 15 ปี นับตั้งแต่ครั้งล่าสุด ที่เจอกัน เมื่อปี 2007 โดยขณะนั้นพวกเขาเป็นฝ่ายบุกมาเสียท่า ทีมชาติไทย ถึง 0-7 ในเกมอุ่นเครื่อง ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ทำให้ 3 นัดที่เคยพบกัน เนปาล แพ้รวด
เกมนี้ มาโน โพลกิง กุนซือใหญ่ทีมชาติไทย ทดลองส่งผู้เล่นหน้าใหม่ลงสนาม โดย 11 ตัวจริงทีมชาติไทย ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู : กัมพล ปฐมอรรฆ์กุล – กองหลัง : พรรษา เหมวิบูลย์, ทริส ตรองโด, เควิน ดีรมรัมย์, เฉลิมศักดิ์ อักขี – กองกลาง: ปฐมพล จริญรัตนาภิรมย์, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, เชาว์วัฒน์ วีระชาติ, พิชชา อุทรา, วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ และ กองหน้า : อดิศักดิ์ ไกรษร (กัปตัน)
เปิดฉากเริ่มเกม ทีมชาติไทยเปิดหน้าบุกทันที เพียงนาทีที่ 5 ได้ลุ้นก่อน ในจังหวะ ทริส ตรองโด ได้บอลขึ้นมาทางฝั่งขวา ก่อนจ่ายต่อไปให้ ปฐมพล จริญรัตนาภิรมย์ ได้ยิงไกลจากหน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งเข้ากรอบ แต่ยังไปตรงตัว กิราน คูมาร์ ลิมบู ผู้รักษาประตูของทีมเนปาล รับเอาไว้ได้
จากนั้นนาทีที่ 11 อดิศักดิ์ ไกรษร ครองบอลหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจ่ายบอลทะลุช่องให้ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ได้หลุดเดี่ยวเข้ากรอบเขตโทษ ก่อนตวัดยิง แต่บอลยังไปติดเซฟของ กิราน คูมาร์ ลิมบู ผู้รักษาประตูของทีมเนปาล ที่ออกมาปัดบอลออกไปได้อีกครั้ง
นาทีที่ 26 ทีมชาติไทยได้ลุ้นอีกครั้ง พิชชา อุทรา ได้บอลในเขตโทษ ก่อนเตะคืนให้ ปฐมพล จริญรัตนาภิรมย์ ได้ยิงอีกครั้ง แต่กดไม่ลง บอลพุ่งข้ามคานออกหลังไป จากนั้นยังเป็นทีมชาติไทยที่ทำได้ดีกว่า บุกได้อย่างต่อเนื่อง ทว่าจังหวะสุดท้ายยังไม่เด็ดขาด ทำให้จบ 45 นาทีแรก ยังเสมอ 0-0
ครึ่งหลัง เริ่มเพียงนาทีเดียว ทีมชาติไทยบุกขึ้นมาทางซ้าย เชาว์วัฒน์ วีระชาติ เปิดบอลโด่งไปกลางประตู อดิศักดิ์ ไกรษร ได้ขึ้นโหม่งคนเดียว แต่บอลยังไม่ตรงกรอบ
จากนั้นเป็นทีมชาติไทยที่เดินหน้าบุกอยู่ฝั่งเดียว นาทีที่ 65 ศศลักษณ์ ไหประโคน ตัวสำรองที่เพิ่งถูกส่งลงมา ได้บอลหนาเขตโทษ แตะต่อจังหวะเดียวให้ เควิน ดีรมรัมย์ หลุดเข้าไปดวลกับนายด่านเนปาล แต่ยิงไม่ดี งัดโด่งข้ามคานออกหลังไป
ถัดมานาทีเดียว ไทยน่าจะได้ประตูออกนำ ในจังหวะ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ เปิดบอลไปกลางประตู พรรษา เหมวิบูลย์ ขึ้นโหม่งบอลย้อยไปชนคานออกหลังไปแบบได้เสียว
จากนั้น นาทีที่ 78 ทีมชาติได้ได้โอกาสโต้กลับเร็ว ฟิลลิป โรลเลอร์ กระชากบอลขึ้นมา ทำชิ่งกับ ทริส ตรองโด ก่อนจะหลุดไปยิงเต็มข้อ ส่งบอลเข้าประตูให้ทีมชาติไทยออกนำ 1-0
ก่อนหมดเวลานาทีเดียว วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ แทงบอลทะลุ มาถึง เชาว์วัฒน์ วีระชาติ พลิกจับบอลหนึ่งจังหวะ แล้วยิงเน้นๆ ส่งบอลเข้าประตู ให้ทีมชาติไทย ขยับหนีห่าง 2-0 ก่อนจะจบเกม ทีมชาติไทย เอาชนะ เนปาล 2-0 ประเดิมชัยชนะศึกฟีฟ่าเดย์
สำหรับทีมชาติไทย มีโปรแกรมลงสนามพบ ทีมชาติซูรีนาม (อันดับที่ 140 ในฟีฟ่า แรงกิ้ง) ในวันที่ 27 มี.ค. เวลา 19.00 น. ที่บีจี สเตเดียม ถ่ายทอดสดทางช่อง 32 และ AIS Play
