สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อีสปอร์ต จัดงานเปิดตัวผู้สนับสนุนจำนวน 26 แบรนด์ ในการผนึกกำลังเพื่อการแข่งขันฟุตบอลไทยลีกฤดูกาล 2022/23 และการแข่งขันกีฬาอีสปอร์ตอย่างยิ่งใหญ่ ที่แคมป์สนามฝึกซ้อมสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เขากระโดง จ.บุรีรัมย์ พร้อมแสดงศักยภาพในการพัฒนานักฟุตบอลระดับเยาวชน จากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อะคาเดมี ที่สามารถขึ้นไปทดแทน ผู้เล่นชุดใหญ่ได้ในอนาคต โดยมีนายเนวิน ชิดชอบ ในฐานะประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กล่าวเปิดงาน และพูดถึงเป้าหมาย รวมถึงแสดงวิสัยทัศน์ของสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่จะมีขึ้นในปี 2022/23 พร้อมด้วยนายไชยชนก ชิดชอบ ประธานบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อีสปอร์ต, นายชนน์ชนก ชิดชอบ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาเยาวชน สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

นายเนวิน กล่าวว่า “เป้าหมายของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดของเราต่อจากนี้ คือการป้องกันแชมป์ทั้ง 3 แชมป์ ซึ่งการรักษาแชมป์มันสำคัญกว่าการเป็นแชมป์ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นทีมเดียวในเอเชียที่สามารถคว้าแชมป์ 3 แชมป์ต่อหนึ่งฤดูกาลได้ถึง 4 ครั้ง และในการเจอบีจี ปทุม ยูไนเต็ด วันที่ 4 กันยายนนี้ จะขอล้างตาให้ได้”

“พวกเราเชื่อว่าการทำทีมฟุตบอลไปสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืนได้ ก็อยู่ที่การสร้างคน ให้เป็นคน และสำคัญที่สุดคือการสร้างวินัย ไม่เคยเชื่อมาก่อนว่าฟุตบอลจะประสบความสำเร็จได้ เฉพาะพรสวรรค์เพียงอย่างเดียว แต่ผมเชื่อว่าการเป็นมนุษย์ พรแสวงสำคัญที่สุด ปีนี้เรามีเด็กอะคาเดมี มากกว่า 140 คน ปีที่แล้วเรามี 200 กว่าคน ค่าใช้จ่ายต่อคน ต่อปี อยู่ที่ประมาณ 300,000 บาท เพราะเราต้องรับผิดชอบทั้งที่นอน อาหาร การเรียน ทั้งหมดทุกอย่าง”

“เมื่อเดือนที่ผ่านมาทีมเราส่ง ศุภชัย ใจเด็ด, ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา และรัตนากร ใหม่คามิ ไปร่วมฝึกซ้อมกับสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ประเทศอังกฤษถึง 40 วัน พอกลับมาประเทศไทย เราเห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น สะท้อนให้เห็นว่าปัญหาในการฝึกซ้อมของทีมเรา ยังไม่เข้มข้นเพียงพอ เพราะฉะนั้นมาตรฐานฟุตบอลไทย จะก้าวหน้าไปเป็นเจ้าเอเชีย หรือไปแข่งขันในฟุตบอลโลก ผมมองว่ายังเป็นเรื่องที่พูดได้ แต่ทำไม่ได้ เพราะส่วนใหญ่คนที่พูดไม่ใช่คนที่มาทำฟุตบอลจริง ๆ”

“เราได้เห็นแล้วว่าการส่งเด็ก ๆ ไปฝึกซ้อมที่สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ประเทศอังกฤษ ตั้งแต่รุ่นแรกคือ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน, ยศพล เทียงดาห์ กลับมาก็สามารถรักษาการเล่นจนติดทีมชาติไทยมาอยู่ตลอด เพราะฉะนั้นจากนี้ไป ในทิศทางของเรากับการพัฒนาฟุตบอล พร้อมจะส่งศุภชัย ใจเด็ด, ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา และรัตนากร ใหม่คามิ กลับไปฝึกเลสเตอร์ ซิตี้ อีกครั้ง ในช่วงพักเลกไทยลีก เพื่อเรียนรู้ และเชื่อว่าจะกลับมาเป็นกำลังสำคัญของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และทีมชาติไทยได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ 8 เยาวชน ที่ขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ จากอะคาเดมี ประกอบไปด้วย ภัทร สร้อยมาลัย, ธีรภักดิ์ เปรื่องนา, ธนดล ขาวสะอาด, ภูมิวรพล วรรณบุตร, ธนิศร ไพบูลย์กิจเจริญ, พงศกร หาญรัตนะ, ธวัชชัย อินทร์ประโคน และเสกสรรค์ ราตรี จะมี 4 คนที่ผมจะส่งไปร่วมฝึกซ้อมกับทีมคอนซาโดเล ซัปโปโร ที่ประเทศญี่ปุ่น ในเดือนกันยายนนี้ เพื่อจะกลับมาช่วยทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และเป็นอนาคตของประเทศไทย”

นายเนวิ กล่าวต่อว่า “ได้มีการแจ้งกับนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยแล้วว่า ต่อไปนี้บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะไม่ส่งผู้เล่นที่มีอายุต่ำกว่า 19 ปี ไปร่วมแคมป์ทีมชาติไทยอีก เพราะที่ผ่านมา ทีมเราได้ปล่อยนักเตะเยาวชนเหล่านี้ไปร่วมทีมชาติ พอกลับมาแคมป์บุรีรัมย์ กลับเจอบุหรี่ไฟฟ้า เจอสิ่งที่ไม่ดี กลับมาแล้วขาดวินัย ทั้งที่ตอนที่อยู่กับเรามีวินัยดี แต่พอไปทีมชาติ ไปเจอเพื่อนมากมาย ที่มาจากหลายสโมสร หลายโรงเรียน ทำให้วินัยหายไป ผมเลยลงโทษไม่ให้ซ้อมฟุตบอล ให้ดูเพื่อน ๆ ซ้อม เป็นเวลา 3 สัปดาห์ เพื่อเตือนสติ”

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน