ชนาธิป สรงกระสินธ์ ยอมรับร่างกายสุดเหนื่อยล้า ขอพักจากรายการชิงแชมป์อาเซียน หวังเปิดทางให้รุ่นน้องได้โอกาสฉายแสง

ชนาธิป สรงกระสินธ์ กองกลางคาวาซากิ ฟรอนตาเล ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากการช่วยทีมชาติไทย ลงทำศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 48 เผยตอนนี้ร่างกายเริ่มดีขึ้นเร็วกว่าที่คาด

กองกลางร่างเล็กทีมชาติไทย กล่าวว่า “ตอนนี้เริ่มวิ่งแล้วก็กลับมาแปบอลได้บ้างแล้ว ซึ่งทีมแพทย์ยอมรับว่าอาการบาดเจ็บหายไวกว่าที่คาดเอาไว้ โดยทีมแพทย์คาดหมายว่าเกมกับเกียวโต ซังงะ จะให้กลับมาลงสนามได้ แต่ทั้งนี้เขาจะถามเราด้วยว่าพร้อมมากแค่ไหน โดยส่วนตัวผมเองยังไม่อยากเร่งรีบอยากให้พร้อมมากที่สุด เพราะไม่อยากเจ็บอีกแล้ว”

“ที่ผ่านมาผมเจ็บแทบทุกปี ปีละ 3-4 ครั้ง ต้องยอมรับว่าร่างกายเหนื่อยล้ามาก แทนที่เราจะได้ไปสู้กับคนอื่นเพื่อโอกาสในลงสนาม ต้องมาสู้กับตัวเองเพื่อให้หายจากอาการบาดเจ็บ เมื่อหายเจ็บแล้ว ยังต้องมารอคิวเพื่อนคนอื่นในการหาโอกาสลงสนาม”

“ส่วนผลงานทีมชาติไทยทั้งเยาวชนและชุดใหญ่ที่ผลงานไม่ค่อยดีเท่าไหร่ในช่วงนี้ผมมองในสองมุม มุมแรกคือแฟนบอลแน่นอนว่าแฟนบอลต้องการเห็นทีมชาติไทยชนะและประสบความสำเร็จ ส่วนมุมของสมาคมฟุตบอลก็ต้องการความสำเร็จเช่นดียวกันถ้าไม่สำเร็จต้องโดนแฟนบอลด่าอยู่แล้ว บางคนอยากได้นักเตะคนนี้ไป แต่อีกคนอยากได้อีกคน สุดท้ายไม่ว่าจะอย่างไรต้องโดนด่าอยู่ดี”

“ฟุตบอลระดับอาเซียนไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่เก่ง ทุกทีมพัฒนาขึ้นมาอย่างต่อเนื่องพร้อมที่จะสู้กับเราได้ดี ทีนี้ต้องขึ้นอยู่กับไทยเราเองแล้วว่าจะพัฒนายกระดับนักเตะให้มีจำนวนมากขึ้นสำหรับทีมชาติไทยอย่างไร ฟุตบอลไทยต้องมีมาตรฐานที่ดีกว่านี้ไม่ใข่ว่ามีแต่ทีมใหญ่เพียง 4-5 ทีม”

“ถ้าเราพัฒนาฟุตบอลไทยได้มากกว่านี้จะเป็นผลดีต่อนักฟุตบอลไทยและต่อยอดไปในระดับทีมชาติไทยได้ ผมว่าตรงนี้แฟนบอลจะเข้าใจ อนาคตเราจะได้พัฒนาไปพร้อมกัน ผมเชื่อว่าหลายๆ สโมสรพร้อมให้การสนับสนุนทีมชาติไทยอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าจะสนับสนุนในทิศทางไหนเท่านั้น เช่นเดียวกับผมที่สนับสนุนทีมชาติอย่างเต็มที่ และผมไม่พอใจเหมือนกันที่ใครมาต่อว่าทีมชาติไทย”








Advertisement

“ส่วนฟุตบอลอาเซียนคัพ (เอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเล็กทริก คัพ) จริงๆ แล้วทางสโมสรสอบถามผมเหมือนกันว่าจะไปเล่นรายการนี้หรือเปล่า เพราะในญี่ปุ่นถ้าไม่ใช่ฟีฟ่าเดย์เขาไม่อยากให้ไปเล่น”

“โดยส่วนตัวแล้วผมไม่ใช่ว่าไม่อยากไปเล่นรายการนี้ แต่ปีที่แล้วผมเพิ่งไปเล่นและจู่ๆ ต้องย้ายมาคาวาซากิ ทำให้ร่างกายผมไม่ได้พักเลย ผมต้องมาสู้เพื่อโอกาสกับทีมใหม่ และปีนี้ฟุตบอลรายการนี้กลับมาอีกแล้ว ผมเล่นถ้วยนี้มา 4 ครั้งแล้ว ซึ่งปีนี้ผมคิดว่าตัวเองยังไม่พร้อม เพราะตลอด 4 ปี ผมเจ็บปีละ 4 ครั้ง เท่ากับว่าที่ผ่านมาผมจะได้พักก็ต่อเมื่อผมบาดเจ็บ ทำให้ร่างกายผมไม่ได้พักผ่อนจริงๆ”

“ปีนี้ผมเลยอยากจะรู้ว่าถ้าผมไม่เล่นชิงแชมป์อาเซียนปีหน้าร่างกายผมจะสดหรือเปล่า นอกจากนี้พวกเด็กรุ่นน้องเขารอโอกาสที่จะพัฒนาขึ้นมา ดังนั้นเราต้องให้โอกาสพวกเขาเพื่อจะได้มีทรัพยากรมากขึ้นในการไปสู้กับทีมระดับเอเชีย ถ้าถึงวันนั้นผมอาจจะเลิกเล่นทีมชาติ และไปนั่งดูพวกเขาเล่น”

“สำหรับทีมชาติไทยไม่ว่ารายการใดเราแพ้ไม่ได้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเอานักเตะคนไหนเล่นก็แล้วแต่ อยากให้ได้แชมป์ แน่นอนว่าการไม่ได้แชมป์จะทำให้แฟนบอลเราผิดหวัง แต่สิ่งที่ผมอยากเห็นคือการที่เราได้สร้างนักเตะรุ่นใหม่ๆ ขึ้นมา”

“แน่นอนว่าอาเซียนคัพครั้งนี้ผมไม่ได้ไปเล่นเพราะมีอาการบาดเจ็บค่อนข้างเยอะ ที่สำคัญรายการนี้เตะระหว่าง 20 ธ.ค. ถึง 16 ม.ค. แต่ทีมผมเข้าแคมป์วันที่ 15 ม.ค. นั่นหมายความว่าผมเข้าแคมป์ช้า ต้องมาสร้างความฟิตอีก ร่างกายผมจะไม่ได้พักอีก ถ้าผ่านไปสักพักอาจจะมีอาการเจ็บอีก ดังนั้นผมตัดสินใจเรื่องนี้มาหลายเดือนแล้วว่าจะไม่ไปเล่นรายการนี้ อยากเปิดโอกาสให้น้องๆ ได้เล่น เราจะได้เห็นว่าอนาคตฟุตบอลไทยจะไปได้ไกลแค่ไหน”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน