ศึกระหว่าง “อุรุกวัย-กานา” เกือบจะกลายเป็นการฉายหนังซ้ำจากฟุตบอลโลก 2010 เมื่อมีความ ดราม่า ทำนองเดียวกันเกิดขึ้นอีกครั้ง แต่หนนี้ฉากจบกลับต่างออกไป

แฟนบอลทั่วโลกคงรู้สึกราวกับได้ชมหนังรีรันคู่กานา-อุรุกวัยจากฟุตบอลโลก 2010 ซึ่งคราวนั้นเกิด ดราม่า เมื่อกานาได้จุดโทษ แต่มือสังหารอย่าง กียาน อซาโมอาห์ กลับสังหารไม่เข้า และอุรุกวัยเป็นฝ่ายชนะการดวลจุดโทษเข้ารอบต่อไป

พอมาถึงฟุตบอลโลก 2022 กานาที่กำลังอยู่ในจุดมีโอกาสเข้ารอบสูง ได้จุดโทษในการเจอกับอุรุกวัยอีก คราวนี้มือสังหารจะเปลี่ยนเป็น อังเดร อายิว แต่อายิวก็ดันยิงไม่เข้า แล้วหลังจากนั้นกลายเป็นว่าอุรุกวัยมาบดชนะไปได้ 2-0

ร้ายไปกว่านั้น เมื่อคราวปี 2010 หลุยส์ ซัวเรซ เป็นผู้สละตัวเองยอมโดนใบแดงทำแฮนด์บอลเพื่อเซฟอุรุกวัยไม่ให้เสียประตู ซึ่งเหตุการณ์นั้นทำเอาชาวกานาโกรธแค้นอย่างมาก ขณะที่หนนี้ซัวเรซก็มีส่วนสำคัญทำให้ทั้ง 2 ประตูของเกมเกิดขึ้นเสียอีก

อย่างไรก็ตาม หนังเวอร์ชั่นปี 2022 กลับมีจุดจบที่ไม่เหมือนเดิม เมื่อท้ายที่สุดแล้วอุรุกวัยไม่ดีพอที่จะเข้ารอบต่อไป พอจะทำให้กานาได้ระรื่นบ้างที่ฉุดอริรายนี้ให้ตกรอบตามพวกตัวเอง

ที่จริงแล้วเกมนี้กานาก็เริ่มต้นด้วยการบุกได้ดี แต่นอกจากยิงจุดโทษไม่เข้าแล้ว ความผิดพลาดในเกมรับยังทำให้ทีมเสียไป 2 ประตู แม้หลังจากนั้นจะไม่ถูกยิงเพิ่มอีก แต่นี่เป็นเรื่องที่กานาต้องนำไปปรับปรุงแก้ไขกันต่อไป

ขณะที่อุรุกวัยยุคนี้เกมรุกมีปัญหามาก นอกจาก 2 เกมแรกในฟุตบอลโลกหนนี้ที่ยิงไม่ได้แล้ว ตอนรอบคัดเลือกโซนอเมริกาใต้ก็ต้องพึ่งซัวเรซที่ยิงไป 8 ประตู และจอร์จาน เด อาร์รัสกาเอตา ยิงอีก 5 ประตู ทีมถึงคว้าตั๋วมาฟุตบอลโลก ส่วนคนอื่นแทบไม่ช่วยยิงเลย

ดาร์วิน นูนเญซ ที่ถูกฝากความหวังให้เป็นแกนนำทีมยุคใหม่นั้น ต้องบอกว่าไม่เคยเป็นที่พึ่งให้ทีมชาติได้เลย ตั้งแต่รอบคัดเลือกก็ยิงไปเพียง 1 ประตู พอมารอบสุดท้ายได้ลงตัวจริง 3 นัด ก็ไม่ยิงและไม่แอสซิสต์เลยอีก








Advertisement

อีกอย่างอุรุกวัยเองก็ประมาท เลือกที่จะผ่อนเกมรุกหลังนำไป 2 ประตู ซึ่งอาจเพราะไม่เชื่อว่าเกาหลีใต้จะเอาชนะโปรตุเกสได้ แต่พอรู้ผลของอีกสนามจึงกลับมาโหมบุกอีกครั้ง

ถึงกระนั้น เมื่อช่วงเวลาที่เหลือมันน้อยเกินไป บวกกับเกมรุกของอุรุกวัยก็ทื่ออย่างที่บอก สุดท้ายแล้วกานาจึงสามารถยันไม่ให้เสียประตูเพิ่ม และทำให้กอดคอกันตกรอบในที่สุด

หลังจากนี้ซัวเรซที่สูงวัยก็จะไม่สามารถแบกทีมได้อีกแล้ว ลำพังจะพึ่งพาเด อาร์รัสกาเอตา ที่เป็นกองกลางให้ทำสกอร์ตลอดก็คงไม่ไหว ถ้าอุรุกวัยไม่เร่งสร้างขุมกำลังแนวรุกตัวใหม่ขึ้นมา การคว้าตั๋วฟุตบอลโลกหนหน้าอาจเป็นงานที่หนักหนาสาหัสเลยทีเดียว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน