การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ที่เอดูเคชัน ซิตี้ สเตเดียม เมื่อคืนวันที่ 6 ธันวาคม เป็นการแข่งขันรอบ 16 ทีมสุดท้าย โดย สเปน เข้ารอบมาในฐานะอันดับ 2 กลุ่มอี ส่วน โมร็อกโก เป็นอันดับ 1 กลุ่มเอฟ

เกมนี้ โมร็อกโก มาในระบบ 4-3-3 ประกอบด้วย ยัสซิน โบโน : อัชราฟ ฮาคิมี, นาเยฟ อาเกิร์ด, โรแม็ง ซาอิสส์, นุสแซร์ มาสราอุย : อาซเซดีน โอนาฮี, โซฟียาน อัมราบัต, เซลิม อามัลลาห์ : ฮาคิม ซิเยช, ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี, โซฟียาน บูฟาล

ส่วน สเปน มาในระบบ 4-3-3 ประกอบด้วย อูไน ซิมอน : มาร์กอส ยอเรนเต, โรดรี เอร์นานเดซ, อายเมอริก ลาปอร์กต์, จอร์ดี อัลบา : กาบี, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, เปดรี กอนซาเลซ : เฟร์รัน ตอร์เรส, มาร์โก อเซนซิโอ, ดานี โอลโม

เริ่มเกม สเปนเป็นฝ่ายขึงเกมบุกอย่างต่อเนื่อง แต่ทำอะไรไม่ได้มาก ขณะที่ โมร็อกโก ลงไปรับแน่น และเมื่อตัดบอลได้ก็พยายามรุกเร็ว จนนาที 42 โมร็อกโก เกือบได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะฟรีคิก ที่เปิดไปทางด้านขวา ก่อนตบกลับมาด้านซ้าย ถึง โซฟียาน บูฟาล ที่ใช้ความสามารถเฉพาะตัวล็อกหลบผู้เล่นสเปน และตักย้อนไปทางเสาไกลให้ นาเยฟ อาเกิร์ด ขึ้นโขก แต่ข้ามคาน

ครึ่งหลัง ยังคงเป็นสเปนที่เป็นฝ่ายครองบอลบุกอย่างต่อเนื่อง แต่เกมรับโมร็อกโก ก็ยังคงเหนียวแน่น ทำให้ไม่สามารถรุกเข้าไปในพื้นที่สุดท้ายได้ จนนาที 75 สเปน เพิ่งจะมีโอกาสเข้าทำเพียง 2 ครั้งเท่านั้น อย่างไรก็ตามช่วง 5 นาทีสุดท้าย ทั้งสองทีมหันมาเปิดเกมรุกเข้าใส่กันอย่างดุเดือด แต่ก็ยังทำได้เพียงหวาดเสียว จบ 90 นาที ยังเสมอกัน 0-0 ต้องต่อเวลาพิเศษ

ช่วงต่อเวลาพิเศษ รูปเกมยังไม่แตกต่างจากเดิม โดย นาที 104 โมร็อกโก มีโอกาสต่อบอลกันได้สวยเข้าไปให้ วาลิด เชดดิรา หลุดเข้าไปยิง แต่ก็ยังติดเซฟ อูไน ซิมอน

ช่วงเวลาที่เหลือ สเปนยังโหมบุกหนัก และเกือบได้ประตูชัยหลายจังหวะ แต่จนแล้วจนรอด โมร็อกโก ก็ยังช่วยกันเซฟป้องกันไว้ได้ ทำให้จบ 120 นาที ทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้ เสมอกัน 0-0 ต้องดวลกันที่ จุดโทษ

ผลการดวลจุดโทษปรากฏว่า โมร็อกโก ทำได้อย่างยอดเยี่ยมยิงเข้าทั้ง 3 ลูก และเซฟลูกยิงของสเปน ทั้ง 3 ลูก เอาชนะ 3-0 ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้เป็นครั้งแรก ส่วน สเปน ตกรอบ








Advertisement

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน