ซีอีโอไทยลีก นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล ยืนยันไทยลีกไม่เกี่ยวข้องกับการอ้างสิทธิ์คืนลีกสูงสุดของอีสาน ยูไนเต็ด ชี้เป็นข้อขัดแย้งของสโมสรสมาชิกกับสมาคมลูกหนัง

ซีอีโอไทยลีก – หลังจากที่สโมสรอีสาน ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นผู้ชนะคดีพิพาทย์กับสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ โดยก่อนหน้านี้ศาลปกครองอุบลราชธานี สั่งให้สมาคมลูกหนังไทยชดใช้ความเสียหายให้กับอีสานเป็นเงินพร้อมดอกเบี้ยรวมเกือบ 32 ล้านบาท ซึ่ง “เสี่ยติ่ง”ชัยกร ชัยมงคลยศ ผู้บริหารของอีสานเผยว่าตอนนี้ได้เงินครบแล้ว แต่ยังดำเนินการเพื่อขอสิทธิ์ในการเล่นลีกสูงสุดคืนกลับมา ดังนั้นแนะนำให้สโมสรสมาชิกสามารถทวงเงินสนับสนุนที่สมาคมยืนยันว่าจะให้ได้ตามสะดวกเพราะบัญชีไม่โดนอายัดแล้ว

“สิทธิ์ของอีสาน ยูไนเต็ด ยังไงต้องอยู่ในไทยลีก ตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุด ผมได้ทำหนังสือทวงถามไปยังสมาคมฟุตบอล เป็นครั้งที่ 2 แล้ว คือเราจะให้เวลาสมาคมได้ตัดสินใจ 15 วัน เรารอคำตอบอยู่ ประมาณวันที่ 22-23 ธ.ค.65 ถ้าหากสมาคมฟุตบอลไม่ดำเนินการตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุด เราคงต้องยื่นเรื่องกับการกีฬาแห่งประเทศไทยที่ถือว่าเป็นนายทะเบียน”

“จะมาบอกว่าสมาคมบอล และไทยลีก เป็นคนละหน่วยงานหรือคนละคนกัน แต่ผมยืนยันว่าไทยลีก ถือหุ้นโดยสมาคมฟุตบอลบอล 99.98 เปอร์เซนต์ กรรมการผู้มีอำนาจคือ ท่านสมยศ (พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคม) นั่นแปลว่าเป็นคนๆ เดียวกัน” นายชัยกร กล่าวไว้ก่อนหน้านี้

เกี่ยวกับเรื่องนี้ “แชมป์”กรวีร์ ปริศนานันทกุล รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยลีก จำกัด เผยว่าเรื่องหนังสือการทวงสิทธิ์ของอีสานนั้นเป็นการส่งไปทวงถามสิทธิ์จากสมาคมฟุตบอลตรงนี้ไม่เกี่ยวข้องกับไทยลีก ที่สำคัญไทยลีกไม่เคยได้เห็นคำสั่งศาลว่าให้สมาคมฟุตบอลชดใช้ความเสียหายเพียงอย่างเดียวหรือว่าคืนสิทธิ์การเล่นให้กับอีสานกลับมาเล่นฟุตบอลลีกอาชีพด้วย

“ผมต้องเรียนให้ทราบตรงกันว่าบริษัท ไทยลีก จำกัด มีหน้าที่ในการจัดการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพของประเทศไทย ไม่ได้มีสิทธิ์ตัดสินใจว่าสโมสรใดจะได้เล่นในลีกระดับไหน เรื่องการคืนสิทธิ์เราเองไม่ได้เห็นคำสั่งศาล และผมคิดว่าเรื่องนี้ฝ่ายกฎหมายของสมาคมฟุตบอลคงกำลังดำเนินการอยู่”

“กลับมาที่เรื่องสิทธิ์ของอีสานจึงเป็นข้อขัดแย้งระหว่างอีสาน ยูไนเต็ด กับสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ บริษัท ไทยลีก จำกัด ไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการตัดสินของสมาคมกับสโมสรสมาชิกได้ ยกเว้นในกรณีที่สมาคมมีคำสั่งให้สโมสรใดเข้าสู่ฟุตบอลลีกอาชีพ จากนั้นจึงจะเป็นหน้าที่ของไทยลีกรับไปดำเนินงานต่อ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบคุณสมบัติตามระเบียบใบอนุญาตเข้าร่วมการแข่งขัน (คลับไลเซนซิ่ง) และเรื่องอื่นๆ”

“อย่างไรก็ดีผมคิดว่าตอนนี้เรามีเรื่องให้คิดวางแผนเกี่ยวกับฟุตบอลลีกอาชีพมากมาย ดังนั้นเราคงไม่เอาเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้นมาคิดล่วงหน้าว่าต้องทำอย่างไร สิ่งที่ทำได้คือรอให้กระบวนการระหว่างอีสานกับสมาคมฟุตบอลสิ้นสุดลงก่อน ส่วนจะผลอย่างไรกับไทยลีกหรือฟุตบอลลีกอาชีพเราค่อยมาหาทางแก้ไขหรือแก้ปัญหากันต่อไป”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน