เมื่อ 29 เม.ย. ที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ได้มีการจัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรให้กับประชาชนชาวไทยที่พักอาศัยอยู่ในประเทศกัมพูชา ซึ่งมีผู้ลงทะเบียนมาใช้สิทธิที่นี่ 696 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศเป็นไปอย่างเรียบง่าย มีประชาชนไทยที่พักอาศัยอยู่ในกรุงพนมเปญ เดินทางมาใช้สิทธิอย่างไม่ขาดสาย ในขณะที่ระบบการจัดการของสถานเอกอัครราชทูตไทยฯ ทำได้อย่างราบรื่น มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลให้ความรู้กับประชาชนเป็นอย่างดี และใช้เวลาไม่นานในการใช้สิทธิเลือกตั้ง

นอกเหนือจากประชาชนที่มาเลือกตั้งแล้ว ยังมีนักกีฬาไทย ที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่32 ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ระหว่างวันที่ 5-17 พฤษภาคม บางส่วนที่เดินทางมาถึงแล้ว และได้ลงทะเบียนใช้สิทธิล่วงหน้านอกราชอาณาจักร อาทิเช่น คริกเก็ต, เจ้าหน้าที่ของคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ และฝ่ายแพทย์ มาใช้สิทธิที่สถานทูต ในช่วงบ่าย จากการอำนวยความสะดวกของสถานทูต

ขณะที่ทีมนักฟุตบอลชายทีมชาติไทย ซึ่งมีโปรแกรมแข่งนัดแรกพบกับสิงคโปร์วันที่ 30 เม.ย. มีเพียงเจ้าหน้าที่ทีมบางส่วนเท่านั้นที่ลงทะเบียนใช้สิทธิ์เลือกตั้งนอกราชอาณาจักร โดยคนที่ไม่ได้ลงทะเบียนนั้นเกิดจากปัญหาหลายอย่าง เช่น แม้ว่าก่อนหน้านี้ทางทีมงานจะส่งลิงก์สำหรับลงทะเบียนล่วงหน้าแล้ว แต่นักเตะบางรายเผยว่าไม่ทราบว่าตนเองจะมีชื่อติดทีมชาติไทยในซีเกมส์ ครั้งนี้หรือไม่ อีกอย่างคือระบบลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์นั้นเกิดปัญหาเว็บไซต์ล่มจึงไม่สามารถลงทะเบียนได้
นายเชิดเกียรติ อัตถากร เอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ เปิดเผยว่า การมาใช้สิทธิของประชาชนถือว่าเรียบร้อยดี มีระบบที่ช่วยทำให้การลงคะแนนนั้นเป็นไปได้อย่างสะดวกสบายมีความรวดเร็วมากขึ้น เชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะผ่านไปด้วยดี

นายเชิดเกียรติ กล่าวอีกว่า มีคนไทยลงทะเบียนเลือกตั้งทั้งสิ้นกว่า 696 คน รวมทั้งมีนักกีฬาที่เดินทางมาถึงแล้ว ลงทะเบียนเลือกตั้งเช่นกัน อาทิ นักกีฬาคริกเก็ต และฟุตบอล ซึ่งถือว่าได้รับการตอบรับในการใช้สิทธิ์เลือกตั้งเป็นอย่างดี

นางสาวบุษกร โพธิมาศ เจ้าของร้านอาหารไทยในกรุงพนมเปญ เปิดเผยว่า การมาเลือกตั้งล่วงหน้าครั้งนี้มีความคึกคักดี ประชาชนที่มาก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี หวังว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะทำให้อะไรๆ มันดีขึ้นกว่าเดิม

ขณะที่นายประขันธ์ชัยน์ เลินไธสอง ซึ่งอยู่กัมพูชามาตั้งแต่ปีพ.ศ.2541 กล่าวถึงผู้สมัครในใจว่า โดยส่วนตัวแล้วเป็นคนที่เลือกตัวพรรคกับนโยบายพรรคมากกว่า หวังว่ามันจะดีขึ้นกว่ายุคก่อนๆ ถ้าหากว่าเราได้ผู้นำที่ดี ประเทศไทยก็น่าจะดีขึ้น

ด้านนายณัฐพล หวังพานิช พนักงานบริษัท อายุ 37 ปี กล่าวว่า ตนมาทำงานที่กัมพูชาได้ 7 ปีแล้ว ในความคิดของตัวเองคิดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้น่าจะมีการเปลี่ยนแปลง อยู่ที่ว่าแต่ละคนจะเลือกใครเข้าไป คิดว่าในเรื่องของเศรษฐกิจมันก็น่าจะดีขึ้นหลังจากการเลือกตั้งครั้งนี้

“ส่วนตัวยังคงติดตามข่าวสารการเมืองอยู่เรื่อยๆ ผ่านทางโซเชียลมีเดียบ้าง ก่อนจะมาใช้สิทธิก็ติดตามข่าวอยู่ ส่วนการเลือกของตัวเองดูที่นโยบายพรรคเป็นหลัก ดูนโยบายที่เราสนใจ” นายณัฐพล กล่าว








Advertisement

นายณัฐพล กล่าวปิดท้ายว่า การจัดการของสถานทูตถือว่ามีการอำนวยความสะดวกที่ค่อนข้างดี ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่มาใช้สิทธิที่นี่ มากี่ครั้งก็รู้สึกประทับใจ ดำเนินการได้รวดเร็ว ที่จอดรถก็มีพร้อม เจ้าหน้าที่ให้บริการและอธิบายขั้นตอนได้ชัดเจนมากๆ

ส่วนนายณัฐมันต์ มีบุญ พนักงานบริษัทชายวัย 33 ปี กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ในมุมมองของตน อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ อยากเห็นค่าจีดีพีของประเทศไทยโตขึ้น เพราะเมื่อเทียบปีก่อนๆ กับประเทศเพื่อนบ้านมันดูตกลงไป ส่วนการเลือกก็ดูพรรคที่เน้นนโยบายด้านเศรษฐกิจ เรื่องของปากท้องเป็นหลัก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน