การแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 49 รอบรองชนะเลิศ เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2566 ที่สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ลงสนามพบกับ เลบานอน

สถิติก่อนการพบกัน 5 นัดหลังสุดของทั้งสองทีมนั้นสูสีกัน โดย ทีมชาติไทย ชนะ 2 นัด เลบานอน ชนะ 2 นัด เสมอกัน 1 นัด โดยแมตช์ล่าสุดที่พบกันล่าสุดต้องย้อนไปปี 2014 เลบานอน เป็นฝ่ายบุกชนะ ไทย 5-2 ส่วนเกมนี้ 11 ตัวจริงของทีมชาติไทย ประกอบด้วย ฉัตรชัย บุตรพรม, พรรษา เหมวิบูลย์, กฤษดา กาแมน, ธีราทร บุญมาทัน, นิโคลัส มิเกลสัน, วีระเทพ ป้อมพันธุ์, สารัช อยู่เย็น, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, บดินทร์ ผาลา, สุภโชค สารชาติ, ธีรศิลป์ แดงดา

เริ่มเกมทั้งสองทีมครองบอลสู้กันสูสี นาที 21 ไทย พลาดโอกาสทำประตูขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย เมื่อ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ แทงทะลุช่องให้ ธีรศิลป์ แดงดา หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปดวลเดี่ยวกับ นายด่านเลบานอน แต่ดันยิงไปติดเซฟ

อย่างไรก็ตามความพยายามของทัพ “ช้างศึก” มาสำเร็จผลในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาที 45+3 เมื่อ บดินทร์ ผาลา ได้บอลจี้มาทางริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนเปิดยัดไปแฉลบ จิฮัด อายูบ เข้าประตูตัวเอง ทำให้ไทย ออกนำ 1-0 ในครึ่งแรก

ครึ่งหลังเริ่มได้เพียงนาทีที่ 57 เลบานอน ที่แก้เกมลงมาเปิดเกมรุกมากขึ้น มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 อย่างรวดเร็ว จากการยิงในกรอบจังหวะเดียวของ บาสเซล จราดี

หลังจากสกอร์กลับมาเท่ากันทั้งสองทีมกลับมารุกรับกันอย่างสนุก พร้อมกับสายฝนที่เทลงมาอย่างหนัก กระทั่งนาที 85 นิโคลัส มิเกลสัน ได้จังหวะดูดบอลลงในกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนโยกหลอกแล้วเปิดให้ ธีรศิลป์ แดงดา ขึ้นโขกเน้นๆเป็นประตูให้ทีมชาติไทย ขึ้นนำอีกครั้ง 2-1

ช่วงเวลาที่เหลือ ทีมชาติไทย คุมเกมไว้ได้เกือบทั้งหมด ช่วยกันเล่นจน เลบานอน ไม่สามารถทำอะไรได้ จบเกม ทีมชาติไทย เฉือนชนะ เลบานอน 2-1

ส่วนผลอีกคู่ อิรัก ที่เหลือ 10 คนช่วงท้ายเกม ชนะจุดโทษ อินเดีย 5-4 หลังในเวลา 90 นาทีเสมอกัน 2-2 ทำให้ รอบชิงชนะเลิศ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย จะพบ อิรัก ในวันที่ 10 กันยายน ที่สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี เวลา 20.30 น.








Advertisement

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน