จากกรณีที่ ตุ๊กธิดาวรรณ ดาวสกุล อดีตนัก ตะกร้อ หญิงทีมชาติไทย เจ้าของเหรียญทอง เอเชียนเกมส์ และซีเกมส์หลายสมัย ออกมาจุดประเด็นเรื่องอื้อฉาวในวงการตะกร้อทีมชาติไทย ซึ่งเธอและนักกีฬาทีมชาติหลายคนเคยถูกสต๊าฟโค้ชเรียกรับส่วนแบ่งจากเงินอัดฉีดของนักกีฬา ที่ได้รับจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ ในเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 16 ที่กวางโจว เมื่อปี 2010

ล่าสุดเมื่อ 7 .. ก่อนการประชุมสมาคมตะกร้อแห่งประเทศไทย โจ้... สืบศักดิ์ ผันสืบ อดีตนักตะกร้อทีมชาติไทย เป็นตัวแทนอดีตนักกีฬาเรื่องการยื่นร้องร้องเรียนการทำหน้าที่ของ ผู้จัดการทีมชาติไทย, ผู้ฝึกสอน ทีมตะกร้อทีมชาติไทย โดยมี นายบุญชัย หล่อพิพัฒน์ อุปนายกสมาคมตะกร้อแห่งประเทศไทย เป็นผู้รับเรื่อง

สารวัตรโจ้ เปิดเผยว่า น้องๆ ชุดปัจจุบันไม่กล้าออกชื่อ เพราะมีผลต่อการเรียกเก็บตัวในรายการต่อๆไป แต่หลายคนก็ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ มีช่องทางการเงิน การโอนเงินให้ใครบ้าง ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน เราอยากให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในการบริหารจัดการ เพราะ ผู้ฝึกสอน และ สมาคมฯ มีส่วนแบ่งจากรัฐบาลอยู่แล้ว เช่น เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ผ่านมา สต๊าฟโค้ชก็ได้เงินอยู่แล้ว 5.8 ล้านบาท แต่

นักกีฬาทีมชาติไทย ซึ่งคว้ามา 4 เหรียญทอง เอเชียนเกมส์ ที่หางโจว นักกีฬาทีมชุดจะได้เงินคนละ 2 ล้านบาท นักกีฬาที่แข่งทีมชุด ทีมเดียวจะได้ 4 ล้านบาท เงินทั้งหมดรวมคือ 34 ล้านบาท เป็นทีมชุด 24 ล้านบาท ทีมเดี่ยว 10 ล้านบาท แต่ปรากฎว่า มีการหักเงินนักกีฬา นักกีฬาที่แข่งทั้งชุดเดี่ยวได้เงินเพียง 2.1 ล้านบาทเท่านั้น เกือบ 50% โดยอ้างว่าเป็นการหักเงินเพื่อไปให้นักกีฬาที่ไม่ติดทีมชาติ แต่ตรงนี้เงินก็ยังหายไป 3.3 ล้านบาท ส่วนทีมหญิงเงินหายไป 6.75 ล้านบาท ผมว่าเยอะมาก

นักกีฬาจะได้รับเงินโอนมาจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ และจะหักเงิน 2 วิธีคือ ให้โอนเงินหักไปยัง ตัวพักเงิน ซึ่งเป็นอดีตนักกีฬาคนหนึ่ง ก่อนจะโอนให้ผู้ใหญ่คนหนึ่ง ส่วนอีกวิธีคือ ให้เบิกเงินสดมาทั้งหมดและไปนัดพบกันที่ร้านอาหาร และหักเงินกันตรงนั้น ซึ่งทั้งสองวิธีนั้นทำเพื่อไม่ให้มีหลักฐาน แต่ทุกวันนี้น้องนักกีฬาชุดปัจจุบันพร้อมให้ข้อมูล เพียงแต่ไม่มีใครกล้าจะพูด

ที่ผ่านมาในอดีต นิตินัดดา แก้วคำไสย์ ซึ่งเป็นนักกีฬาหญิงที่เก่งมาก พอพ่อออกมาพูดเรื่องนี้ จากนั้นก็หลุดทีมชาติไปเลย อีกคนอย่างปูดำพิกุล สีดำ น้องเป็นนักกีฬาเหรียญทองซีเกมส์ เอเชียนเกมส์ ก็เคยพยายามเรียกร้องความเป็นธรรมเรื่องเงินรางวัล แต่เขาก็ถูกตัดออกจากทีมชาติไปเลย จนปัจจุบันต้องออกไปเก็บผลไม้หาเลี้ยงชีพอยู่ที่เกาหลี ซึ่งผมมองว่านักกีฬาที่เล่นเพื่อชาติ ไม่ควรจะต้องลงเอยแบบนี้

ด้าน สมพร ใจสิงหล อดีตนักกีฬาทีมชาติ เผยว่า ตนเล่นทีมชาติเป็นสิบๆ ปี อย่างเอเชียนเกมส์ ผมจะถูกหักครึ่งหนึ่งของเหรียญทองทีมเดี่ยวตลอด อยากให้นักกีฬาทุกคนทั้งอดีต และ ปัจจุบันควรได้รับความเป็นธรรม

ร้อยโท สุริยัน เป๊ะชาญ อดีตทีมชาติเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพวกตนทุกคนประสบพบเจอมาจริงๆ ตนเล่นทีมชาติมา 22 ปี สมัยที่เล่นคิงส์คัพได้เงินครั้งละ 5,000 บาทไม่มีปัญหา แต่พอเงินรางวัลเป็น 1 ล้านบาทก็เกิดปัญหาขึ้นมาเรื่อยๆ ตอน ซีเกมส์ เอเชียนเกมส์ ปี 2553 ทีมเดี่ยว 5 คน สมัยก่อนจะได้เงินคนละ 1 ล้านบาท ก็ 5 ล้านบาท เงิน 2.5 ล้านบาทจะถูกหักให้ผู้จัดการทีมไปเลย แต่ตอนนั้นเราพูดไมไ่ด้เพราะเราอยู่ใต้อำนาจของการคุมทีม ถ้าอยากเล่นต่อ เราไม่มีทางเลือก ได้เท่าไรก็ต้องเอา

ก่อนที่ สารวัตรโจ้ จะสรุปว่า ผมหวังว่าเรื่องนี้จะได้รับการพิจารณาจาก คณะกรรมากรดำเนินงานเตรียมทีมชาติ หวังว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบ ปัญหาเป็นสิบปีที่ผ่านมา และอยากมีการยุติการแต่งตั้งคณะกรรมการทีมชาติก่อน เพื่อให้น้องๆได้พูด ให้ได้คำตอบภายใน 1 สัปดาห์ ส่วนน้องๆนักกีฬานั้น พี่อยากให้ออกมาพูด พี่ช่วยได้เท่านี้ ถ้าน้องไม่พูด เท่ากับสนับสนุนระบบนี้ และนักกีฬาในอดีตทุกคนควรจะได้รับเงินที่ควรจะเป็นของพวกเขาคืนด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน