มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ ประธานสโมสรการท่าเรือ เอฟซี เดินทางมาสมัครชิงตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลอย่างเป็นทางการ ยืนยันพร้อมรับฟังทุกปัญหา

มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ เดินทางมาลงสมัครรับเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ อย่างเป็นทางการ เมื่อ 6 ธ.ค. โดยก่อนหน้านี้ได้เปิดตัวทีมงานไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อ 4 ธ.ค.

ประธานสโมสรการท่าเรือ เอฟซี กล่าวหลังจากยื่นใบสมัครว่า “เป็นวันที่แป้งตื่นเต้น แต่แป้งมีความตั้งใจจริง ด้วยการที่เราอยู่วงการนี้มานานและมีความตั้งใจจริง จึงเดินทางมาสมัครเป็นนายกสมาคม ตั้งใจมาสมัครด้วยตัวเองพร้อมด้วยเอกสารการรับรองจากสโมสรสมาชิกทั้งหมด 65 สโมสร ส่วนอุปนายกและสภากรรมการบางท่านจะสมัครทางออนไลน์ รวมถึงการมอบฉันทะให้กับตัวแทนมาสมัคร”

“มาถึงตรงนี้แล้วยอมรับตามตรงว่าอยากเป็นนายกสมาคมฟุตบอลไทย แต่จะได้หรือไม่ได้ขึ้นอยู่กับวันเลือกตั้งซึ่งยังเหลือเวลาอีกเดือนครึ่ง แต่หลังจากนี้จะเริ่มออกนโยบายรวมถึงการออกไปพบกับพี่น้องสโมสรสมาชิกในทุกลีก โดยเฉพาะที 3 (ไทยลีก 3) ที่หลายสโมสรมีการพูดคุยผ่านทางโทรศัพท์แต่ยังไม่ได้เจอหน้ากัน ดังนั้นจะไปพบกับทุกคนทุกสโมสรทั้ง 6 โซน”

“ก่อนหน้านี้แป้งมีชื่อเป็นแคนดิเดตมาตลอดแต่ไม่เคยลงสมัคร แต่วันนี้แป้งคิดว่าพร้อมแล้วที่รับหน้าที่ตรงนี้ ฝากถึงสโมสรสมาชิกทุกสโมสรว่าแป้งรับฟังและรับทราบถึงปัญหาในหลายแง่มุมของสมาชิกในทุกลีก รวมถึงปัญหาที่ผ่านมาเกี่ยวกับศรัทธาของแฟนบอล”

“การมาตรงจุดนี้ต้องยอมรับว่าเป็นงานที่ใหญ่มากที่แป้งจะรับหน้าที่ทำ ดังนั้นต้องอาศัยคนหลายคน อาศัยหลายความคิด แม้ว่าสภากรรมการรวมถึงตัวแป้งเองรวมแล้ว 19 คน แต่แป้งเชื่อว่าจะมีคนที่แป้งพูดคุยอีกมากมายในวงการจะเข้ามาช่วย”

ผู้สื่อข่าวสอบถามว่าที่ผ่านมานายกสมาคมมักจะมีกระแสกดดันมาตลอด ตรงนี้จะทำให้มาดามแป้งกดดันหรือไม่ ซึ่ง มาดามแป้งกล่าวว่า “ที่ผ่านมาแป้งเองได้รับการวิพากษ์วิจารณ์มาตลอดทั้งในการทำหน้าที่ผู้จัดการฟุตบอลหญิง รวมถึงฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ซึ่งแป้งพูดเสมอว่าแป้งน้อมรับคำติชม ไม่ได้ทำตัวลอยเหนือปัญหา และพร้อมจะเข้ามาแก้ไขทุกปัญหา”

“ฟุตบอลมีผลสามหน้าเสมอคือชนะ เสมอ แพ้ และการที่แป้งเป็นสวมสองหมวกคือประธานสโมสรการท่าเรือ และผู้จัดการทีมชาติ ดังนั้นผลการแข่งขันทั้งกับสโมสรและทีมชาติแป้งจะได้รับการวิจารณ์อยู่เสมอ ซึ่งเป้นอะไรที่เราต้องยอมรับการวิจารณ์ได้”

“ถ้าได้รับเลือกมีหลายสิ่งที่สำคัญมากในการต้องรีบจัดการไม่ว่าจะเป็นเรื่องผลงานทีมชาติที่ต้องปั้นให้ไปต่อให้ได้ หรือเรื่องเงินสนับสนุนทีมในที2 ที3 ประเด็นเรื่องลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด และอีกหลายๆ เรื่อง ในการทำงานของชุดนี้ (พล.ต.อ.สมยส พุ่มพันธุ์ม่วง) หลายเรื่องทำได้ดีแล้ว แป้งจะเข้ามาสานต่อและพัฒนาให้ดีขึ้น”

“นอกจากนี้ยังต้องพูดคุยกับอีกหลายภาคส่วนไม่ว่าจะผู้สนับสนุน กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย กองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ และด้วยสโลแกนที่เราบอกไปก่อนหน้านี้คือ Better Together คือการนำเอาทุกภาคส่วนมาร่วมกันพัฒนาวงการฟุตบอลไทย”

“จากที่เห็นคงจะรู้แล้ว่าสภากรรมการของแป้งนั้นเป็นการรวมกันของคนที่รักฟุตบอลอย่างแท้จริง ที่ผ่านมาอาจจะมองว่าเป็นขั้วนั้น ขั้วนี้ แต่ชุดนี้เราตั้งใจรวบรวมให้ทุกคนมาอยู่ด้วยกัน เพื่อพัฒนาวงการฟุตบอลด้วยกัน ไม่เช่นนั้นทุกคนคงไม่มาอยู่ในทีมของแป้ง”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน