“เสี่ยบิ๊ก” สัมฤทธิ์ บัณฑิตกฤษดา ผู้บริหารสโมสรฟุตบอลสมุทรปราการ ซิตี้ ทีมในศึกฟุตบอลไทยลีก 2 โพสต์ข้อความร่ายยาว กรณีปัญหาระหว่างสโมสร กับ กิตติไกร จันทะรักษา อดีตนักเตะของทีม หลังจากก่อนหน้านี้ได้มีการยกเลิกสัญญาด้วยเหตุผลเนื่องมาจากนักเตะติดพนันฟุตบอล และโพสต์พาดพิงถึงต้นสังกัด

ก่อนหน้านี้ทีมเขี้ยวสมุทร ได้ออกแถลงการณ์ยกเลิกสัญญากับ กิตติไกร พร้อมแนบภาพการลงบันทึกประจำวันว่า ผู้แจ้งได้ให้การช่วยเหลือในเรื่องของชำระหนี้ต่างๆให้กับ กิตติไกร เป็นเงินประมาณ 300,000 บาท รวมถึงกรณีที่นักเตะโพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก ว่าทำให้ผู้อื่นเข้าใจว่าได้เคลียร์หนี้สินกับสโมสรแล้ว แต่ความจริงยังค้างอยู่อีกหลักแสนบาท

ขณะที่นักเตะก็ออกมาชี้แจงยอมรับว่าหนี้สิน และสโมสรได้ชดใช้ให้ 100,000 บาท ไม่ใช่ 300,000 ตามที่สโมสรแถลงมา และ เป็นการตกลงกันว่าเป็นการใช้หนี้ให้ และจะได้รับเงินเดือนปกติ ส่วนเรื่องการโพสต์ข้อความ เกิดจากความน้อยใจจากเรื่องที่สัญญากัน ว่าจากเรื่องการจ่ายเงิน ซึ่งสโมสรให้เหตุผลว่าไม่ให้เงินเดือน และถือเป็นการชดใช้หนี้

ล่าสุด “บิ๊ก” สัมฤทธิ์ ผู้บริหารสโมสร ได้โพสต์ข้อความร่ายยาวเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว โดยย้ำว่าจะเป็นการโพสต์เรื่องนี้เป็นครั้งสุดท้าย และขอยุติเรื่องราวทั้งหมดเพื่อรักษา ชื่อเสียงและตราสัญลักษณ์ของสโมสร

“ผมขอใช้พื้นที่ตรงนี้ อธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นกับ น้องนิว กิตติไกร และสโมสรฟุตบอลสมุทรปราการ ซิตี้ เพื่อจะให้ทุกคนได้รับรู้และเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น แบบสรุปเรื่องเลยนะครับ และหลังจาก post ของผมนี้แล้ว ผมจะขออนุญาต “ยุติ” เรื่องราวทั้งหมด แต่เพียงเท่านี้ด้วยครับ เหตุการณ์เริ่มต้น ตั้งแต่ช่วงเลค 2 ปี 2565 ที่ผ่านมา น้องนิว ได้ย้ายเข้ามาร่วมทีมสมุทรปราการ ซิตี้”

“ในเวลาต่อมา น้องได้ปรึกษากับ ผจก ทีม คือ คุณปาย ถึงเรื่องปัญหาชีวิตส่วนตัวของน้องเอง ปัญหาหลักของน้อง คือ เรื่องหนี้สินที่เกิดขึ้นจากปัญหาส่วนตัว โดยเฉพาะเรื่องการเสียเงินจากการพนัน (ขออนุญาตต้องใช้คำนี้แต่ผมเลี่ยงไปใช้คำอื่นไม่ได้จริงๆ) และเพราะเหตุที่กล่าวมานี้ ทำให้น้องต้องไปหาเงินกู้ยืมนอกระบบ ซึ่งมีดอกเบี้ยในอัตราที่สูงมาก เท่าที่ทราบ คือ ร้อยละ 10-20 ต่อเดือน

“และจากจุดเริ่มต้น ที่ทาง ผจก ทีม คือ คุณปาย ได้เริ่มให้การช่วยเหลือทางการเงินแก่น้องนิว ต่อมา เจ้าหนี้เกือบทุกรายของน้องจึงได้ติดต่อหาคุณปายโดยตรง โดยมีข้อแม้เดียวระหว่าง ผจก ทีม และน้องนิว คือ น้องต้องเลิกยุ่งเกี่ยวกับสิ่งไม่ดีเหล่านี้เสียทั้งหมด และเมื่อน้องนิวรับปาก ให้คำมั่นว่า เลิกแล้วครับ ทางสโมสรฯ จึงได้ช่วยเหลือน้องมาโดยตลอด ไม่ว่าจะในฐานะนักกีฬาหรือพี่น้อง จวบจนถึงวันหนึ่งที่ยอดหนี้สินได้รับการจ่ายคืนไปจนเกือบจะครบถ้วนตามที่น้องได้เคยแจ้งไว้ แต่มีเจ้าหนี้รายใหม่โผล่มา พร้อมกับยอดเงินอีกจำนวนหนึ่ง เพียงแต่คราวนี้ ทาง ผจก ทีม ขอปฏิเสธเรื่องการชำระหนี้ เพราะน้องแจ้งว่า เงินต้น 30,000 บาท แต่ทางเจ้าหนี้แจ้งมาว่า 50,000 บาท ++
เมื่อไม่ได้ข้อสรุป และ ทางน้องนิวได้แจ้งทางสโมสรฯ ขอยกเลิกสัญญา ด้วยเหตุผลส่วนตัว ผมเองจึงได้อนุญาตให้น้องไปได้”

“เพียงแต่ เหตุการณ์กลับตาลปัตร เมื่อน้องทวงถามกลับมาถึงเรื่องเงินเดือนที่ทางสโมสรฯ ค้างชำระกับน้องอยู่เป็นจำนวน 1 แสนกว่าบาท เพราะทาง ผจก ทีม ได้อธิบายให้น้องฟังไปแล้วว่าจะต้องหักกลบลบหนี้กับเงินที่น้องได้ขอหยิบยืมไปก่อนหน้านี้ ซึ่งเมื่อคำนวณดูแล้ว น้องยังคงต้องชำระเงินคืนให้แก่ทางสโมสรฯ อีกมากกว่า 1.5 แสนบาท และเพราะทางฝั่งเจ้าหนี้รายนี้ ยังคงโทรมาทวงหนี้กับทาง ผจก ทีม อยู่เกือบทุกวัน หนักข้อเข้าถึงขั้นพูดจาไม่ดีและให้ร้ายแก่ทางสโมสรฯ”

“ด้วยเหตุนี้เอง ทาง ผจก ทีม จึงได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้เพื่อเป็นหลักฐาน โดยมิได้ร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อดำเนินคดีทั้งทางอาญาและทางแพ่งกับน้องนิวแต่อย่างใด เพราะเข้าใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับน้องและครอบครัว
เพียงแต่ในมุมของสโมสรฯ ในฐานะนิติบุคคลที่จะต้องขับเคลื่อนต่อไปและต้องดูแลคนอีกหลายสิบชีวิตแล้ว การถูกให้ร้ายและการถูกบรรดาเจ้าหนี้นอกระบบที่ไม่เคารพกฎหมายมาข่มขู่คุกคาม ทำให้ทางสโมสรฯ โดยผู้บริหารทีม จึงไม่มีทางเลือกมากนัก”

“สุดท้ายนี้ ผมเองในฐานะ 1 ในผู้บริหารทีมสโมสรฟุตบอลสมุทรปราการ ซิตี้ ได้มีการพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจกับน้องนิว เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเข้าใจถูกต้องตรงกันว่าเรื่องราวทั้งหมดคืออะไรและควรจะยุติลงตรงไหน ด้วยเหตุที่ได้อธิบายมาทั้งหมดนี้เอง.. ผมในฐานะประธานฝ่ายบริหารสโมสรฟุตบอลสมุทรปราการ ซิตี้ ขอประกาศยุติเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดอย่างเป็นทางการ เพื่อรักษาไว้ซึ่ง ชื่อเสียงและตราสัญลักษณ์ของสโมสรฯ เพราะสโมสรฟุตบอลแห่งนี้ ยิ่งใหญ่เกินกว่าใครจะมาเหยียบย่ำและลบหลู่ดูหมิ่นได้”

“และถ้าภายหลังจาก post นี้ จะยังมีผู้ไม่ประสงค์ดี ไม่ว่าใคร จะนำเรื่องนี้ไปต่อยอดหรือสร้างเรื่องใหม่ๆ ขึ้นมาอีก โดยเฉพาะพวกเจ้าหนี้นอกระบบและ/ หรือ พวกโต๊ะพนันต่างๆ.. ผมขอประกาศว่า สโมสรฯ ไม่เคยสนับสนุนและยุ่งเกี่ยวกับสิ่งไม่ดีและผิดศีลธรรมเหล่านี้ ทั้งทางตรงและทางอ้อม และจะได้ดำเนินการทางกฎหมายโดยเด็ดขาดในทุกกรณีที่จะเกิดขึ้นต่อไปโดยไม่มีการยอมความ ด้วยความเคารพ นายสัมฤทธิ์ บัณฑิตกฤษดา วันที่ 27 ธันวาคม 2566 เวลา 17.00 น.”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน