ศึกคาราบาว คัพ เดินทางมาถึงรอบชิงชนะเลิศแล้ว หนนี้เป็นการปะทะกันระหว่าง 2 ทีมดังพรีเมียร์ลีก เชลซีดวลแข้งกับลิเวอร์พูล ฟุตบอลนัดเดียวจบแบบนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ ดังนั้น บอกเลยว่าแมตช์นี้จะบู๊กันสนุกแน่นอน

วันอาทิตย์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2567

ฟุตบอลคาราบาว คัพ อังกฤษ
นัดชิงชนะเลิศ
เชลซี-ลิเวอร์พูล ศึกระหว่าง 2 ทีมจากพรีเมียร์ลีก “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี พบกับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เตะที่สนามเวมบลีย์ สเตเดียม กรุงลอนดอน เวลา 22.00 น.ของไทย ถ่ายทอดสดช่องไทยรัฐทีวี 32

ย้อนเส้นทางที่ผ่านมา เชลซีเริ่มต้นจากรอบสอง ชนะเอเอฟซี วิมเบิลดัน จากลีก ทู 2-1 (เหย้า), รอบสาม ชนะไบรตัน จากพรีเมียร์ลีก 1-0 (เหย้า), รอบ 16 ทีมสุดท้าย ชนะแบล็กเบิร์น โรเวอร์ส จากลีกแชมเปียนชิพ 2-0 (เหย้า)

รอบก่อนรองชนะเลิศ เสมอนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด จากพรีเมียร์ลีก 1-1 (เหย้า, ชนะจุดโทษ 4-2), รอบรองชนะเลิศ พบกับมิดเดิลสโบรห์ จากลีกแชมเปียนชิพ นัดแรกแพ้ 0-1 (เยือน) และนัดสองชนะ 6-1 (เหย้า) ทำให้ชนะผลรวม 6-2

ส่วนลิเวอร์พูลเริ่มจากรอบสาม ชนะเลสเตอร์ ซิตี้ จากลีกแชมเปียนชิพ 3-1 (เหย้า), รอบ 16 ทีมสุดท้าย ชนะบอร์นมัธ จากพรีเมียร์ลีก 2-1 (เยือน), รอบก่อนรองชนะเลิศ ชนะเวสต์แฮม ยูไนเต็ด จากพรีเมียร์ลีก 5-1 (เหย้า)

รอบรองชนะเลิศ พบกับฟูแลม จากพรีเมียร์ลีก นัดแรกชนะ 2-1 (เหย้า) และนัดสองเสมอ 1-1 (เยือน) ทำให้ชนะผลรวม 3-2

สำรวจฟอร์ม 5 นัดหลังรวมทุกรายการ เชลซีแพ้ลิเวอร์พูล 1-4 (พรีเมียร์ลีก – เยือน), แพ้วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 2-4 (พรีเมียร์ลีก – เหย้า), ชนะแอสตัน วิลลา 3-1 (เอฟเอ คัพ รอบสี่ นัดรีเพลย์ – เยือน), ชนะคริสตัล พาเลซ 3-1 (พรีเมียร์ลีก – เยือน), เสมอแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-1 (พรีเมียร์ลีก – เยือน)

ด้านลิเวอร์พูลเป็นเกมพรีเมียร์ลีกทั้งหมด โดยชนะเชลซี 4-1 (เหย้า), แพ้อาร์เซนอล 1-3 (เยือน), ชนะเบิร์นลีย์ 3-1 (เหย้า), ชนะเบรนต์ฟอร์ด 4-1 (เยือน), ชนะลูตัน ทาวน์ 4-1 (เหย้า)

คู่นี้เคยเจอกันมาทั้งหมด 196 ครั้งรวมทุกรายการ เชลซีชนะ 65 นัด เสมอกัน 49 นัด ลิเวอร์พูลชนะ 82 นัด ฤดูกาลปัจจุบันได้พบกันในพรีเมียร์ลีกไป 2 ครั้ง เจ๊ากันบ้านเชลซี 1-1 และลิเวอร์พูลเปิดบ้านชนะ 4-1

ผลงานในถ้วยนี้ เชลซีเคยได้แชมป์ 5 สมัยเมื่อฤดูกาล 1964-65, 1997-98, 2004-05, 2006-07, 2014-15 ฤดูกาลที่แล้วตกรอบสาม ส่วนลิเวอร์พูลได้แชมป์ 9 สมัยเมื่อฤดูกาล 1980-81, 1981-82, 1982-83, 1983-84, 1994-95, 2000-01, 2002-03, 2011-12, 2021-22 ฤดูกาลที่แล้วตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย

ความพร้อมนัดนี้ เชลซีไม่มี เวสเลย์ โฟฟานา, รีซ เจมส์, เบอนัวต์ บาเดียชิล, โรเมโอ ลาเวีย, มาร์ก กูกูเรยา, เลสลีย์ อูโกชุกวู (บาดเจ็บ)

ด้านลิเวอร์พูลขาด โฌเอล มาติป, ดิโอโก โชตา, อลิสซอน เบ็กเกอร์, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, ติอาโก อัลคันตารา, เคอร์ติส โจนส์, สเตฟาน บายเชติช (บาดเจ็บ) และต้องเช็กความฟิต โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ, โดมินิก โซโบสไล

เกมนี้คาดว่าเชลซีจะใช้แผน 4-2-3-1 ยอร์เย เปโตรวิช : มาโล กุสโต, อักเซล ดิซาซี, ลีวาย โคลวิลล์, เบน ชิลเวลล์ : มอยเซส ไคเซโด, เอ็นโซ เฟร์นานเดซ : โคล พาลเมอร์, คอเนอร์ กัลลาเกอร์, ราฮีม สเตอร์ลิง : นิโคลัส แจ๊กสัน

ขณะที่ลิเวอร์พูลคงวางหมาก 4-3-3 ควิวิน เคลเลเฮอร์ : คอเนอร์ แบรดลีย์, อิบราอิมา โคนาเต, เฟอร์จิล ฟาน ไดก์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน : อเล็กซิส แม็กอัลลิสเตอร์, วาตารุ เอ็นโด, ไรอัน กราเฟนแบร์ก : ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์, โคดี กักโป, หลุยส์ ดิอาซ

เชลซีช่วงหลังฟอร์มดูดีก็จริง แต่ก็ยังคงวางใจอะไรไม่ได้ ต่างจากลิเวอร์พูลที่แข็งแกร่งดุดันจนอาจเรียกได้ว่าปัญหาสภาพทีมแทบไม่ส่งผลด้วยซ้ำ มองแล้ว “หงส์แดง” น่าคว้าชัยได้ชูโทรฟี่แรกประจำฤดูกาลนี้

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน