อิสสระ ศรีทะโร หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลชายไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ยอมรับสุดลำบากใจล่าตั๋วโอลิมปิกเกมส์ หลังสโมสรส่อไม่ปล่อยแข้งร่วมทัพ

อิสสระ ศรีทะโร หัวหน้าผู้ฝึกสอน ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี จะมีโปรแกรมเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชียตะวันตก ยู-23 “WAFF ยู-23 แชมเปี้ยนชิพ – ซาอุดี 2024” ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย ในช่วงฟีฟ่าเดย์เดือนมี.ค. โดยจะพบกับ เกาหลีใต้ ในรอบแรก และจะแข่งขันรอบจัดอันดับต่อไป

จากนั้นจะเข้าร่วมฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นไม่เกิน 23 ปี รอบสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์ ระหว่างเดือนเม.ย. – พ.ค. โดยรายการนี้จะเป็นทัวร์นาเมนต์คัดเลือกตัวแทนทวีปเอเชีย 3 ทีมครึ่ง ไปเล่นฟุตบอลชายในมหกรรมโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส อย่างไรก็ตามสถานการณ์ของ ทีมชาติไทย ยู-23 ไม่ค่อยสู้ดีนัก เนื่องจากชิงแชมป์เอเชีย จะตรงกับโปรแกรมแข่งฟุตบอลลีกของไทย โดยเบื้องต้นยังไม่มีประกาศเลื่อนหรือขยับวันแข่งเพื่อเปิดทางให้กับทีมชาติไทย

โดยก่อนหน้านี้ นายอรรณพ สิงห์โตทอง รองประธาน “ฉลามชล”ชลบุรี เอฟซี ยืนยันว่าจะไม่ปล่อยตัวนักเตะที่เข้าข่ายเล่นทีมไม่เกิน 23 ปี ทีมชาติไทย จำนวน 9 คน ประกอบด้วย ทรงชัย ทองฉ่ำ, จักรพงษ์ แสนมะฮุง, ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์, ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว, พงศกร ตรีศาสตร์, บุคฆอรี เหล็มดี, ยศกร บูรพา, ลีออน พิชญ เจมส์, สุขสันต์ บุญตา ไปเล่นชิงแชมป์เอเชีย เนื่องจากสถานการณ์ในลีกไม่ดีอาจต้องหนีตกชั้นจนถึงช่วงท้ายฤดูกาล

เกี่ยวกับเรื่องนี้ “โค้ชหระ” ยอมรับว่าโอกาสที่ ทีมชาติไทย จะได้ไปเล่นฟุตบอลโอลิมปิกเกมส์ ที่ฝรั่งเศส นั้นลดน้อยลงอย่างมาก หากตัวเลือกหลักที่วางตัวเอาไว้ไม่สามารถเดินทางไปกับทีมได้ และเท่าที่คุยกับสโมสรต้นสังกัดมีความเป็นไปได้สูงที่ ทีมชาติไทย จะต้องเลือกผู้เล่นลำดับรองลงไป แต่ทั้งนี้ยังพอมีความหวังอยู่บ้าง เมื่อผู้ใหญ่ในสมาคมฟุตบอลยืนยันว่ากำลังเจรจาเพื่อหาทางออกเรื่องนี้ให้

“ปัญหาของการเรียกนักเตะไม่ได้มีแค่ในชิงแชมป์เอเชียเท่านั้น แต่ในรายการ WAFF ยู-23 แชมเปี้ยนชิพ – ซาอุดี 2024 ถึงตอนนี้เรายังไม่รู้เลยว่าจะได้ผู้เล่นชุดไหนไปร่วมแข่งขัน ผมเข้าใจดีกับสถานการณ์บางทีมที่ต้องหนีตกชั้น หรือกำลังลุ้นตำแหน่งแชมป์ในลีก แต่กับบางทีมแม้ว่าจะลอยตัวแล้วทั้งไม่ต้องกลัวตกชั้น ทั้งไม่ได้ลุ้นแชมป์ลีก กลับไม่ยอมปล่อยผู้เล่นที่เราอยากได้ทั้งในรายการที่ซาอุดีอาระเบีย รวมถึงแชมป์เอเชีย”

“เอาจริงๆ ตอนนี้นักเตะตัวหลักที่เราคิดว่าจะเป็น 11 คนแรกมีสโมสรปล่อยตัวมาแค่ 2 คนเท่านั้น หนึ่งในนั้นคือตำแหน่งผู้รักษาประตู ส่วนตำแหน่งกองหลังไม่ต้องพูดถึงเรามีผู้เล่นจากนักเตะกลุ่มสองเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่ต้องหาจากนักเตะกลุ่มสาม กลุ่มสี่ หรือผู้เล่นที่มีรูปร่างใช้ได้มาปรับจูน”

“ถามว่าถ้าไม่ได้นักเตะ 11 คนแรกที่เราเลือกไว้จะสู้ทีมอื่นได้ไหม ผมเชื่อว่าสู้ได้ แต่ประสิทธิภาพของเราจะลดลงอย่างแน่นอน แม้ว่านักเตะ 50 คนที่เราลิสต์รายชื่อไว้จะสามารถทดแทนกันได้แต่ต้องยอมรับว่ามีองค์ประกอบอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ไม่ว่าจะเป็นการได้เล่นอย่างต่อเนื่องกับสโมสร สภาพจิตใจ สภาพความฟิต ที่สำคัญผู้เล่นในกลุ่มที่ไม่ใช่ 11 คนแรกนั้นไม่ค่อยได้เข้ามาซ้อมกับทีมเท่าไหร่นัก ความเข้าใจในเกม ความเข้าใจแท็กติกจะน้อยตามไปด้วย ซึ่งเรื่องนี้เราต้องทำการบ้านให้หนักเพิ่มขึ้น”

“อย่างไรก็ตามเรายังไม่หมดหวังเพราะว่าทางผู้ใหญ่ในสมาคมยืนยันว่าจะพยายามเจรจาหาทางออกให้ทีมชาติให้ได้มากที่สุด เพียงแค่ยังไม่ยืนยันชัดเจนว่าจะได้ผู้เล่นชุดไหนไปเล่นรายการไหนบ้าง ส่วนทางทีมงานสต๊าฟโค้ชต้องทำการเพิ่มว่าถ้าหากไม่ได้ตัวหลัก หรือไม่ได้ตัวเลือกที่สองจะต้องเตรียมอะไรให้กับนักเตะตัวเลือกรองลงไปบ้าง เพราะการเรียกมาซ้อมกับทีมในช่วงนี้คงเป็นไปไม่ได้แล้ว”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน