ลิเวอร์พูลถล่มสปาร์ตา ปราก ซ้ำอีกรอบ เข้ารอบก่อนรองชนะเลิศยูฟ่า ยูโรปา ลีก แบบสุดหรู ขณะที่ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ซัลโว 2 ตุงทดเจ็บพลิกกลับมาคว้าชัยเหลือเชื่อ

การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า ยูโรปา ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่สอง เมื่อวันที่ 14 มีนาคม “หงส์แดง”ลิเวอร์พูล จากอังกฤษ เปิดสนามแอนฟิลด์ รับการมาเยือนของสปาร์ตา ปราก จากสาธารณรัฐเช็ก เกมแรกลิเวอร์พูลบุกชนะมา 5-1

เกมนี้เจ้าบ้านส่ง ดาร์วิน นูนเญซ, โคดี กักโป, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ลงสนาม ขณะที่ทีมเยือนคงนำโดย ยาน คุกตา, เวลจ์โค บีร์มานเชวิช, คาอาน ไครีเนน

เริ่มเกมมา 7 นาที บ๊อบบี คลาร์ก จ่ายบอลไปด้านขวาให้ โดมินิก โซโบสไล รับได้แล้วเปิดเรียดเข้ากลางไปถึง ดาร์วิน นูนเญซ ซัดเข้าไป ลิเวอร์พูลนำ 1-0

นาที 8 ผู้เล่นสปาร์ตาจ่ายบอลพลาดในเขตโทษตัวเอง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยกขาดักได้แล้วลูกกระดอนมาเข้าทาง บ๊อบบี คลาร์ก ยิงไม่เหลือ ลิเวอร์พูลบวกเพิ่มเป็น 2-0 และเป็นประตูแรกกับทีมชุดใหญ่ของคลาร์กด้วย

นาที 10 บ๊อบบี คลาร์ก ปะทะแย่งบอลจากผู้เล่นสปาร์ตาได้ และทำให้ลูกกระฉอกมาเข้าทาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้ยิงในพื้นที่เขตโทษเสียบตาข่าย สกอร์ห่างไปเป็น 3-0

นาที 14 ดาร์วิน นูนเญซ จ่ายบอลให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลุดเข้าด้านขวาของเขตโทษแล้วตบเข้ากลาง โคดี กักโป จึงโฉบมายิงผ่านนายทวารเข้าไป ลิเวอร์พูลทิ้งไปไกล 4-0

นาที 36 โอกาสเป็นของลิเวอร์พูลอีก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แทงบอลเข้าพื้นที่เขตโทษให้ ดาร์วิน นูนเญซ สปีดมายิง แต่ก็โดน ปีเตอร์ วินดาห์ล ปราดออกมาบล็อกทันหวุดหวิด

นาที 37 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ตอกส้นให้ บ๊อบบี คลาร์ก เข้าเขตโทษด้านขวาแล้วแตะลูกผ่านกองหลังก่อนยิงมุมแคบเต็มข้อ ปีเตอร์ วินดาห์ล ต้องทุบทิ้งไป ลิเวอร์พูลไม่ได้ประตูเพิ่ม

นาที 42 อังเคโล เปรเซียโด แทงบอลทะลุแนวรับให้ เวลจ์โค บีร์มานเชวิช วิ่งเบียดชนะกองหลังแล้วยิงผ่านนายทวารเข้าประตูไป สปาร์ตาไล่มา 1-4 และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังนาที 48 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จ่ายบอลให้ โดมินิก โซโบสไล เลี้ยงเข้าพื้นที่ด้านขวาของเขตโทษ ก่อนยิงไปแฉลบขาผู้เล่นคู่แข่งลูกพุ่งเสียบเสาแรก ลิเวอร์พูลนำ 5-1

นาที 55 ลิเวอร์พูลเปิดลูกเตะมุมเข้ากลางแล้วผู้รักษาประตูชกออกมาหน้าเขตโทษ คอเนอร์ แบรดลีย์ เก็บได้แล้วแปะให้ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ สับไกยิง ลูกพุ่งไปเข้าทาง โคดี กักโป สะกิดเปลี่ยนทางเข้าไป สกอร์กลายเป็น 6-1

นาที 77 โอกาสของลิเวอร์พูลมาถึงอีก ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ไหลบอลทะลุแนวรับเข้าเขตโทษให้ โคดี กักโป ขยับมารับแล้วตวัดยิง ปีเตอร์ วินดาห์ล ปัดออกไปได้

นาที 83 ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ รับบอลจากเพื่อนแล้วเลี้ยงลุยผ่านนักเตะคู่แข่งเข้าไปถึงในเขตโทษก่อนสับไกยิง ปีเตอร์ วินดาห์ล ต้องออกแรงพุ่งปัดออกไป ลิเวอร์พูลไม่ได้ประตูเพิ่ม

นาที 90 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ โยกหลอกกองหลังทางด้านขวาของเขตโทษ ก่อนแทงไปหน้าประตูให้ โคดี กักโป ยิงเผาขนเข้าไป แต่ลิเวอร์พูลไม่ได้ประตูเพราะกักโปล้ำหน้าก่อนแล้ว

นาที 90+2 โคดี กักโป มีโอกาสลุ้นทำประตูอีกครั้ง หลังรับบอลจากเพื่อนแล้วสับไกยิงมุมแคบทางด้านซ้ายของเขตโทษ ปีเตอร์ วินดาห์ล ทุบออกมาได้ หมดเวลาลิเวอร์พูลชนะขาดลอย 6-1 เข้ารอบด้วยสกอร์รวม 11-2

(REUTERS/Wolfgang Rattay)

อีกคู่ที่น่าสนใจ “ห้างขายยา”ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน จากเยอรมนี เกือบเสียสถิติไร้พ่ายในฤดูกาลนี้ เมื่อตกเป็นฝ่ายตามหลัง 2 ประตู แต่มารัวแซงชนะคาราบัก จากอาเซอร์ไบจาน แบบสุดระทึก 3-2 เลเวอร์คูเซนยืดสถิติไปเป็นแมตช์ที่ 37 และเข้ารอบด้วยผลรวม 5-4

ทีมเยือนนำก่อนจาก อับเดลลาห์ ซูบีร์ นาที 58, จูนินโญ นาที 67 แต่เจ้าบ้านมายิงรวดเดียวจาก เยเรมี ฟริมปง นาที 72, พาทริก ชิก นาที 90+3 และ 90+7 เกมนี้คาราบักเหลือ 10 คน เอลวิน คาฟากูลิเยฟ ถูกไล่ออกนาที 63

สำหรับการจับสลากประกบคู่รอบก่อนรองชนะเลิศ, รอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ ของทั้งยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก, ยูฟ่า ยูโรปา ลีก และยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก จะมีขึ้นที่เมืองนียง ของสวิตเซอร์แลนด์ ในวันที่ 15 มีนาคม โดยในส่วนของยูโรปา ลีก จะเริ่มเวลา 19.00 น. ของไทย

ผลคู่อื่น

บียาร์เรอัล (สเปน) 3-1 โอลิมปิก มาร์กเซย (ฝรั่งเศส) ผลรวมมาร์กเซยชนะ 5-3

เรนเจอร์ส (สกอตแลนด์) 0-1 เบนฟิกา (โปรตุเกส) ผลรวมเบนฟิกาชนะ 3-2

สลาเวีย ปราก (สาธารณรัฐเช็ก) 1-3 เอซี มิลาน (อิตาลี) ผลรวมมิลานชนะ 7-3

เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (อังกฤษ) 5-0 ไฟรบวร์ก (เยอรมนี) ผลรวมเวสต์แฮมชนะ 5-1

ไบรตัน (อังกฤษ) 1-0 โรมา (อิตาลี) ผลรวมโรมาชนะ 4-1

อตาลันตา (อิตาลี) 2-1 สปอร์ติง ลิสบอน (โปรตุเกส) ผลรวมอตาลันตาชนะ 3-2

ทีมที่ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ : เอซี มิลาน (อิตาลี), โรมา (อิตาลี), อตาลันตา (อิตาลี), เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (อังกฤษ), ลิเวอร์พูล (อังกฤษ), ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน (เยอรมนี), โอลิมปิก มาร์กเซย (ฝรั่งเศส), เบนฟิกา (โปรตุเกส)

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน