เรอัล มาดริด เกือบเจ๊งคารังต้องไล่ตีเจ๊าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขณะที่อาร์เซนอลกับบาเยิร์น มิวนิก ยังไม่มีใครเหนือใคร นัดแรกรอบก่อนรองชนะเลิศยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก
การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรก เมื่อวันที่ 9 เมษายน “ราชันชุดขาว”เรอัล มาดริด จากสเปน เปิดสนามเอสตาดิโอ ซานติอาโก เบร์นาเบว รับการมาเยือนของ “เรือใบสีฟ้า”แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เก่าจากอังกฤษ
เกมนี้เจ้าบ้านส่ง วินิซิอุส จูเนียร์, โรดรีโก, จูด เบลลิงแฮม ลงสนาม ขณะที่ทีมเยือนนำโดย เออร์ลิง ฮาลันด์, ฟิล โฟเดน, แบร์นาร์โด ซิลวา
เริ่มเกมมาเพียง 2 นาที แมนฯ ซิตี้ได้ฟรีคิกระยะค่อนข้างไกลเยื้องไปทางซ้าย แนวรับมาดริดป้องกันโดยคิดว่าบอลน่าจะถูกเปิดเข้าเขตโทษ แบร์นาร์โด ซิลวา กลับเลือกยิงเข้าหาเสาแรก แม้แต่นายทวารก็ชะล่าใจด้วยจึงพุ่งมาช้าและปัดไม่ออกลูกทะลักเข้าไป ทีมเยือนนำ 1-0
นาที 7 ยอสโก กวาร์ดิโอล ไหลบอลเข้าด้านซ้ายของเขตโทษให้ เออร์ลิง ฮาลันด์ โฉบมารับแล้วยิงมุมแคบ อังเดร ลูนิน ปิดมุมไว้อยู่แล้วจึงเซฟได้ แมนฯ ซิตี้ไม่ได้ประตูเพิ่ม
นาที 12 เอดูอาร์โด กามาวิงกา รับบอลจากเพื่อนแล้วกระชากมายิงระยะไกล บอลพุ่งไปแฉลบ รูเบน ดิอาส เปลี่ยนทางเข้าประตู โดยที่นายทวารขยับไปอีกทางจึงเซฟไม่ได้ มาดริดตีเสมอ 1-1 นับเป็นการทำเข้าประตูตัวเองของดิอาส
นาที 14 มาดริดโต้กลับเร็ว วินิซิอุส จูเนียร์ แทงบอลจากแดนตัวเองทะลุแนวรับให้ โรดรีโก มีพื้นที่พาลูกกระชากหลุดไปถึงเขตโทษ ก่อนจะยิงแฉลบหว่างขากองหลังแล้วลูกไหลผ่านนายทวารสู่ก้นตาข่าย เจ้าบ้านแซงนำ 2-1 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลังนาที 60 แมนฯ ซิตี้มีลุ้นตีเสมอ แบร์นาร์โด ซิลวา เลี้ยงบอลมาถึงบริเวณหัวกะโหลกหน้าเขตโทษแล้วยิงด้วยซ้าย ลูกพุ่งตรงกรอบบีบให้ อังเดร ลูนิน ต้องตบออกมาแล้วกองหลังช่วยเตะทิ้งไปอีกที
นาที 66 แบร์นาร์โด ซิลวา จ่ายบอลจากกราบขวาเข้ากลาง จอห์น สโตนส์ รับได้แล้วจ่ายทันทีให้ ฟิล โฟเดน ยิงจากบริเวณหัวกะโหลกหน้าเขตโทษ ลูกพุ่งเสียบมุมอย่างเฉียบคม แมนฯ ซิตี้ตีเสมอ 2-2
นาที 71 แจ๊ก กรีลิช เลี้ยงบอลจี้เข้าด้านซ้ายของเขตโทษ ก่อนจ่ายกลับหลังออกมานอกเขตโทษให้ ยอสโก กวาร์ดิโอล ใช้เท้าพักแล้วยิงด้วยขวา ลูกโค้งเสียบเสาอย่างสวยงาม แมนฯ ซิตี้แซงนำ 3-2
นาที 79 วินิซิอุส จูเนียร์ ได้บอลบริเวณด้านซ้ายของเขตโทษ ก่อนจะเปิดลอยไปอีกฟากของเขตโทษให้ เฟเดริโก วัลเวร์เด ไม่รอบอลตกพื้น จัดการเอียงตัววอลเลย์ลูกพุ่งเสียบตาข่ายสุดสวย มาดริดตีเสมอ 3-3 และจบเกมไปด้วยสกอร์นี้ในที่สุด
ส่วนอีกคู่ “ปืนใหญ่”อาร์เซนอล จากอังกฤษ เปิดสนามเอมิเรตส์ สเตเดียม รับการมาเยือนของ “เสือใต้”บาเยิร์น มิวนิก จากเยอรมนี
นาที 12 แนวรับสกัดบอลมาเข้าเท้า ไค ฮาแวร์ตซ์ จ่ายต่อให้ เบน ไวต์ ซึ่งจัดการชิ่งต่อให้ บูคาโย ซากา มีพื้นที่เล่นทางด้านขวาของเขตโทษ ก่อนที่ซากาจะปั่นเข้าเสาสองอย่างยอดเยี่ยม อาร์เซนอลนำ 1-0
นาที 18 ลีรอย ซาเน ตัดบอลได้บริเวณกลางสนามแล้วจ่ายบอลขึ้นหน้าให้ เลออน โกเร็ตซ์กา ซึ่งขยับขึ้นมาสูง โกเร็ตซ์กาไม่รอช้าเล่นจังหวะเดียวจ่ายทะลุแนวรับให้ แซร์ช กนาบรี หลุดเข้าไปยิงในเขตโทษเข้าประตูไป บาเยิร์นตีเสมอ 1-1
นาที 30 ลีรอย ซาเน ใช้ความสามารถเฉพาะตัวกระชากบอลหลุดเข้าเขตโทษอาร์เซนอล ก่อนจะถูก วิลเลียม ซาลิบา ทำฟาวล์ล้มลง แฮร์รี เคน รับหน้าที่สังหารจุดโทษเข้าไปในนาทีที่ 32 บาเยิร์นแซงนำ 2-1 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลังนาที 76 กาเบรียล เชซุส เลี้ยงบอลเข้าพื้นที่เขตโทษโดยที่ถูกแนวรับรุมขวาง เชซุสจึงส่งต่อให้ เลอันโดร ตรอสซาร์ด ที่ว่างอยู่เป็นคนสับไกยิงเข้าไป อาร์เซนอลตีเสมอ 2-2
นาที 90 บาเยิร์นเกือบนำอีกรอบ จามาล มูเซียลา เลี้ยงบอลจี้เข้าทางด้านซ้ายของเขตโทษ ก่อนเปิดเรียดยัดมาเสาแรกให้ คิงสเลย์ โกมัน ดีดลูกชนเสา จบเกมจึงเสมอกัน 2-2 โดยนัดสองของทั้ง 2 คู่นี้จะเตะวันที่ 17 เมษายน