ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ตำนานกองหน้าทีมชาติไทย แนะ เอราวัณ การ์นิเยร์ ดาวุร่งฝรั่งเศสอย่ากลับไทย พร้อมชื่นชมอิสสระ ศรีทะโร เก็บความรู้สึกดีเยี่ยม

“เดอะตุ๊ก”ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน กรรมการกลาง สภากรรมการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ตำนานกองหน้าทีมชาติไทย พูดในรายการแตงโมลง ปิยะพงษ์ยิง ถึงผลงานทีมชาติไทย รุ่นไม่เกิน 23 ปี ที่เพิ่งเอาชนะอิรัก 2-0 ในศึกชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้าย ที่กาตาร์ ว่าเป็นมิติใหม่ของวงการลูกหนังชุดเล็กของไทย ที่ได้รับแนวคิดมาจากทีมชุดใหญ่

ทีมชาติไทย รุ่นไม่เกิน 23 ปี ภายใต้การคุมทัพของ “โค้ชหระ”อิสสระ ศรีทะโร ทำผลงานยอดเยี่ยมเกมเอาชนะอิรัก 2-0 โอกาสผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ค่อนข้างสูง หากเกมนัดสุดท้าย กลุ่มซี สามารถเอาชนะทาจิกิสถาน

“เดอะตุ๊ก” กล่าวถึงแมตช์ที่เอาชนะอิรักว่า “การที่ทีมชาติไทยรุ่นเล็กสามารถเอาชนะอิรักได้นั้นจำไม่ได้แล้วว่าเกิดขึ้นเมื่อไหร่ เพราะครั้งสุดท้ายที่พบกับอิรักในชิงแชมป์เอเชียคราวที่แล้วที่ไทยเป็นเจ้าภาพเราเสมอ 1-1 ในยุคอากิระ นิชิโนะ และทำให้ไทยเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายเป็นครั้งแรก”

“สิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็นสิ่งที่ดีที่เกิดขึ้นกับฟุตบอลไทย ถือเป็นการเปิดศักราชใหม่ แต่ก่อนจะมองไปไกลกว่านั้นเราต้องย้อนดูก่อนว่าเราจะรักษาทรงนี้ได้ขนาดไหน เพราะทีมชาติชุดใหญ่มี มาซาทาดะ อิชิอิ มาคุมแล้ว ส่วน 23 ปี มี อิสสระ ศรีทะโร จากนั้นทีม 20 ปี มีบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทีม 17 ปี มีโครงการไอดีทาเลนต์ ที่เหลือจะเป็นรุ่นที่อายุต่ำกว่านั้น”

“ก่อนไปชิงแชมป์เอเชีย ฝ่ายเทคนิคของสมาคมได้ประชุมร่วมกับอิชิอิว่าทีมชุดนี้มีจุดเด่น จุดด้อยอย่างไรบ้าง เมื่อตกผลึกแล้วจึงเอาแผนงานนี้ไปคุยกับอิสสระ ศรีทะโร ว่าบอลไทยมีอยู่สองประเด็นที่ต้องแก้ไขคือเวลารุกวิ่ง แต่เวลารับเดิน จึงมาคุยกันว่าจะทำอย่างไรให้เวลารุกวิ่ง เวลารับมูฟ”

“ด้วยการที่โค้ชหระอยู่กับทีมชุดนี้มานานรู้ว่านักเตะแต่ละคนมีสไตล์การเล่นแบบไหน จึงพยายามเข้าเอาไปปรับนักเตะแต่ละคนว่าเวลารุกทำอย่างไร และเวลารับต้องวิ่งแบบไหน วิ่งจุดไหน เมื่อไหร่ และวิ่งไปหาใคร”

“ต้องยอมรับว่าโค้ชหระทำทีมชุดนี้มาร่วมสองปีเป็นโค้ชที่มีความอดทนสูง เก็บข้อมูลเยอะ เก็บความรู้สึกดี และพยายามเก้ไขสถานการณ์มาโดยตลอด หลังจากหมดทัวร์นาเมนต์นี้แล้วผมจะมาอธิบายเบื้องหน้าเบื้องหลังของการที่โค้ชหระไม่ได้นักเตะชุดที่ดีที่สุดไปใช้งานในครั้งนี้”








Advertisement

“ในส่วนของ เอราวัณ การ์นิเยร์ ผมต้องบอกว่าระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน อย่างแรกที่จะบอกกับเอราวัณคืออย่ากลับมาเมืองไทย เล่นอยู่ต่างประเทศดีแล้ว เพราะดีเอ็นเอในการเล่นเกิดมาจากการพัฒนาสมอง พัฒนาจิตใจ พัฒนาร่างกาย มาจากการเล่นบอลอาชีพ”

“จะเห็นได้จากการที่เอราวัณเสียบอลแล้วลงมาช่วยเล่นเกมรับ เพราะการเล่นในยุโรปเมื่อคุณเสียบอลคุณต้องลงมาไล่หรือลงมาช่วยเล่นเกมรับ ขณะเดียวกันโค้ชหระให้อิสระในการเล่นเกมรุกสามารถไปได้ทั้งซ้ายทั้งขวาเพราะโค้ชรู้ว่าเด็กคนนี้เวลาเสียบอลแล้วเขาทำอะไรได้ ซึ่งง่ายกว่าการเลือกใช้นักเตะที่ยังอยู่กับวัฒนธรรมบอลไทยที่เสียบอลแล้วอาจจะยังเงอะงะไม่รู้ว่าต้องทำอะไร”

“ตอนนี้เอราวัณเพิ่งจะอายุ 18 ปี ดังนั้นระวังจะเป็นเหมือนเบนจามิน เจมส์ เดวิส ที่มาเล่นให้ทีมในยุคของอากิระ นิชิโนะ อายุเท่ากัน เล่นดีมาก ทุกคนเห็นว่าเขาเล่นได้เก่งมากในเกมกับอิรักจนทำให้ไทยตามตีเสมอและผ่านเข้ารอบ 8 ทีม แต่พอเบนจามินกลับมาเล่นในเมืองไทย กลับหายไปเลยทั้งที่ฝึกมาจากต่างประเทศเหมือนกัน”

“เหมือนตอนที่นิโคลัส มิคเกลสัน มาเมืองไทย ผมพูดกับนิโคลัสตั้งแต่ยังไม่ได้เล่นให้ทีมชาติไทยด้วยซ้ำว่าอย่ามาเล่นในเมืองไทย เช่นเดียวกับเอราวัณหากได้ยินหรือได้ดูรายการนี้ขอบอกตรงนี้เลยว่าอย่ากลับมาเล่นที่ไทย”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน