สโมสรใน พรีเมียร์ ลีก โหวตเห็นชอบในหลักการการใช้เพดานค่าใช้จ่าย ในฤดูกาล 2025/2026 แทนกฎผลกำไรและความยั่งยืน (พีเอสอาร์) โดยมีเพียงทีมยักษ์ 3 ทีมที่ไม่เห็นด้วย และอีก 1 ทีมงดออกเสียง
ความเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้จะทำให้ ทีมในลีกสูงสุด ต้องจำกัดการใช้เงินตามสัดส่วนของเงินส่วนแบ่งลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด และ สิทธิประโยชน์ อ้างอิงจากสโมสรที่ได้รับส่วนแบ่งน้อยที่สุดในลีก ซึ่งในที่นี้ยกตัวอย่างจาก เซาแธมป์ตัน ทีมที่ได้น้อยสุดฤดูกาลนี้คือ 103.6 ล้านปอนด์ เดิมจะมีใช้จ่ายได้ 4.5 เท่า หรือจะมีเพดานการใช้เงินอยู่ที่ประมาณ 466.2 ล้านปอนด์ต่อฤดูกาล แต่ภายหลังมีการหารือตัวเลข 5 เท่า หรืออยู่ที่ราวๆ 518 ล้านปอนด์ต่อฤดูกาล ซึ่งนี่จะเป็นครั้งแรกในพรีเมียร์ ลีก ที่มีการกำหนดเพดานค่าใช้จ่าย หลังเป็นมติจากการประชุม ประจำปีของพรีเมียร์ ลีก
โดย 16 ทีมโหวตเห็นชอบในหลักการนี้ แต่มี 3 ทีมคือ แมนยูไนเต็ด, แมนซิตี้ และ แอสตัน วิลล่า ที่โหวตสวนไม่เห็นด้วย ส่วน เชลซี งดออกเสียง
ก่อนหน้านี้ เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ แมนยู แสดงความเห็นว่ากฎการใช้จ่าย หรือการกำหนดเพดานเงินเดือน ซึ่งคล้ายคลึงกับ อเมริกันเกมส์ อย่าง บาสเกตบอล เอ็นบีเอ, อเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอลนั้น จะทำให้ทีมจากอังกฤษ เสียเปรียบคู่แข่งชาติอื่นในยุโรปได้
สำหรับปัจจุบัน พรีเมียร์ ลีกใช้กฎผลกำไรและความยั่งยืน กล่าวคือ อนุญาตให้สโมสรขาดทุนได้ไม่เกิน 105 ล้านปอนด์ 3 ฤดูกาลติดต่อกัน
