แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลาดท่าแพ้ เฟเนร์บาห์เช่ ยอดทีมจากตุรกี 1-2 ศึกฟุตบอลยูโรปา ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ นัดที่ 4 ที่สนาม เฟเนร์บาห์เช่ อูเคอร์ นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี
เกมนี้ โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือใหญ่ปรับทัพหลายตำแหน่ง ส่งเวย์น รูนีย์ กองหน้ากัปตันทีมลงล่าตาข่ายเป็นตัวจริง ประสานงานกับมาร์คัส แรชฟอร์ด หัวหอกดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษ และอองโทนี่ มาร์ซิอัล หัวหอกดาวรุ่งทีมชาติฝรั่งเศส ประสานงานกับ ปอล ป็อกบา กองกลางค่าตัวแพงที่สุดของโลก 89 ล้านปอนด์
ขณะที่ซลาตัน อิบราฮิโมวิช กองหน้าตัวเก๋าชาวสวีดิช มีชื่อเป็นตัวสำรอง เช่นเดียวกับ เฮนริก มคิตาร์ยัน กองกลางชาวอาร์เมเนีย ที่ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยได้ลงเล่น มีชื่อเป็นตัวสำรองเช่นกัน
ส่วนเจ้าถิ่น เฟเนร์บาห์เช่ ส่งมาร์ติน สเคอร์เทล อดีตกองหลังลิเวอร์พูลลงเป็นตัวหลักในแนวรับ แดนหน้ามีมูสซ่า โซว์ ดาวยิงตัวเก่งเป็นคนล่าตาข่าย ขณะที่โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ตำนานกองหน้าชาวดัตช์ นักเตะเก่าแมนฯยู มีชื่อเป็นตัวสำรอง
ผลงานนัดแรกเจอกันที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แมนฯยูชนะสบายๆ 4-1
มูสซ่า โซว์ ตีลังกายิงประตูแรกให้เฟเนร์บาห์เช่นำแมนฯยู(เอเอฟพี)
เกมนี้ เล่นมาได้เพียง 65 วินาที เฟเนร์บาห์เช่ ได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว เมื่อฮาซาน อาลี่ เปิดบอลจากริมเส้นเข้ามาหน้าประตู มูสซ่า โซว์ หัวหอกตัวเก่งกระโดดตีลังกายิง บอลพุ่งเสียบตาข่าย
จากนั้น แมนฯยูบุกหนักมากกว่า แต่โอกาสยิงไม่มาก
ป็อกบาเจ็บขาต้องเปลี่ยนตัวออก(รอยเตอร์)
นาทีที่ 29 ป็อกบา มีอาการบาดเจ็บขา ต้องเปลี่ยนตัวออก อิบราฮิโมวิช ได้ลงเล่นแทน
เกมของแมนฯยู ต่อบอลกันได้มากกว่า แต่แนวรับของเฟเนร์บาห์เช่ต้านทานไว้ได้ หมดครึ่งแรก เจ้าถิ่นนำ 1-0
ครึ่งหลัง นาทีที่ 59 เจ้าถิ่นได้ประตูที่สอง จากลูกยิงฟรีคิกของ เฌเรมี่ ลองส์ ปั่นข้ามกำแพงแมนฯยู บอลเสียบตาข่าย ชนิดที่ ดาบิด เดอ เคอา นายทวารจอมเหนียวหมดปัญญาเซฟ
เฟเนร์ฯนำห่าง 2-0
หลังจากนั้น มูรินโญ่ ปรับแผนอีก ส่ง เฮนริก มคิตาร์ยาน ลงเล่นแทน มาร์คัส แรชฟอร์ด
เกมของแมนฯยูครองบอลบุกอย่างต่อเนื่อง แต่เจาะแนวรับของเจ้าถิ่นไม่เข้า ขณะที่เจ้าถิ่น มีโอกาสโต้กลับงามๆหลายครั้งแต่ยังไม่ได้ลูกที่สาม
เวย์น รูนีย์ยิงตีไข่แตก(รอยเตอร์)
กระทั่งนาทีที่ 89 เวย์น รูนีย์ยิงไกลระยะ 25 หลาเข้าประตู ช่วยให้แมนฯยูไล่มาเป็น 1-2 แต่เวลาที่เหลือไม่สามารถยิงเพิ่มได้ จบเกม เฟเนร์บาห์เช่ เฉือนชนะ 2-1 เก็บ 3 แต้ม ขึ้นนำจ่าฝูง ของกลุ่ม เตะ 4 นัด มี 7 แต้ม ส่วนแมนฯยูหล่นไปอยู่อันดับ 3 มี 6 แต้ม จากการเตะ 4 นัดเท่ากัน แต่ยังมีลุ้นเข้ารอบ โดยเหลือ 2 นัด แมนฯยูได้เล่นในบ้านเจอกับเฟเยนูร์ด และออกไปเยือน ซอร์ย่า ของยูเครน
เฟเนร์บาห์เช่ทำสถิติไม่แพ้ใครในบ้านในถ้วยยุโรป 8 นัด ขณะที่แมนฯยูไม่ชนะเกมนอกบ้านในถ้วยยุโรป 9 นัด
สำหรับรูนีย์ยิงประตูที่ 38 ในบอลถ้วยยุโรป สูงสุดตลอดกาลของแมนฯยู เท่ากับรุด ฟาน นิสเตลรอย อดีตกองหน้ารุ่นพี่ทำไว้
ผลอีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน ซอร์ย่า ลูฮานส์ ของยูเครน เสมอ เฟเยนูร์ด 1-1
กลุ่ม บี
อาโปเอล ชนะ ยังบอยส์ เบิร์น 1-0
อัสตาน่า เสมอ โอลิมเปียกอส 1-1
กลุ่มซี
คาบาล่า แพ้ แซงต์ เอเตียน 1-2
อันเดอร์เลชต์ ชนะ ไมนซ์ 6-1
กลุ่ม ดี
มักคาบี้ เทล อาวีฟ เสมอ อัล์กมาร์ 0-0
เซนิต เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ชนะ ดันดัลค์ 2-1
กลุ่ม อี
อัสตร้า เสมอ วิกตอเรีย เพลเซ่น 1-1
ออสเตรีย เวียนนา แพ้ โรม่า 2-4
กลุ่มเอฟ
บิลเบา ชนะ เกงค์ 5-3 เกมนี้ อริตซ์ อดูริซ ยิงคนเดียว 5 ประตูให้กับบิลเบา นาทีที่ 8, นาที 74 และอีก 3 จุดโทษ นาทีที่ 24, 44 และช่วงเวลาบาดเจ็บ ส่วนทีมเยือน เกงค์ จากเบลเยียมได้จาก ไบลี่ นาทีที่ 28, เอ็นดีดี้ นาทีที่ 51 และ ซูซิส นาทีที่ 80
อริตซ์ อดูริซ กองหน้าบิลเบายิงคนเดียว 5 ลูกทำสถิติสูงสุดในนัดเดียวถ้วยยูโรปาลีก(เอเอฟพี)
ซาสซูโอโล่ เสมอ ราปิด เวียนนา 2-2
กลุ่ม จี
อาแจ็กซ์ ชนะ เซลต้า บีโก้ 3-2
พานาธิไนกอส แพ้ สตองดาร์ด ลิแอช 0-3
กลุ่ม เอช
บราก้า ชนะ คอนยาสปอร์ 3-1
เกนต์ แพ้ ชักตาร์ 3-5
กลุ่ม ไอ
นีซ แพ้ ซัลซ์บวร์ก 0-2
ชาลเก้ ชนะ คราสโนดาร์ 2-0
กลุ่ม เจ
ฟิออเรนติน่า ชนะ สโลวาน ลิเบอเรช 3-0
พีเอโอเค แพ้ คาราบัก 0-1
กลุ่ม เค
เซาแธมป์ตั้น ชนะ อินเตอร์ มิลาน 2-1
สปาร์ต้า ปราก ชนะ ฮาโปเอล 2-0
กลุ่ม แอล
ซูริก เสมอ สเตอัว บูคาเรสต์ 0-0
บียาร์รีล แพ้ ออสมานิสปอร์ 1-2
